บทที่ 1222 เสริมกำลัง – ตอนที่ต้องอ่านของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ตอนนี้ของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1222 เสริมกำลัง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ดวงตาของเจี่ยงหลินเบิกโพลงในชั่วขณะนั้น ชี้ไปทางเย่เทียนแบบท่าทางไม่อยากเชื่อ “นี่เป็นไปไม่ได้!”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ?”
เย่เทียนสะบัดมือแล้ว จากนั้นเดินไปทางเจี่ยงหลินทีละก้าว บนหน้าดูเยาะเย้ยอย่างไม่ปกปิดสักนิด
“อาจจะเป็นเพราะบรรพบุรุษส่งต่อเกียรติยศมาให้มากเกินไป ทำให้พวกเหมือนจะแกลืมอะไรหลายๆ อย่างไป!”
แต่ละฝีเท้าที่เย่เทียนเดินมาข้างหน้าราวกับเหยียบลงบนหัวใจของเจี่ยงหลิน บรรยากาศก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปดูลึกลับขึ้นมา
ทั้งที่แดนฝนเป็นขอบเขตของตัวเจี่ยงหลินเอง แต่ตอนนี้กลับค่อยๆ ถูกเย่เทียนควบคุม นี่คือเรื่องราวที่เจี่ยงหลินไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน
คนตระกูลเจี่ยงที่ด้านนอกในเวลานี้มองไม่เห็นสถานการณ์ด้านใน ได้เพียงทำไม้ทำมือพูดจาด้วยท่าทางดีอกดีใจที่เห็นคนอื่นเจอโชคร้าย
“เย่เทียนคนนี้ยังไม่รู้จักความตายจริงๆ นะ คาดไม่ถึงกล้ามายั่วยุถึงหน้าประตูตระกูลเจี่ยงของพวกเรา!”
“นี่มันก็ปกติมากเลย ไม่อย่างนั้นในโลกจะตั้งรางวัลนำจับให้มันสูงขนาดนี้เหรอ?”
พวกเขาไม่สำนึกถึงอันตรายที่กำลังเข้ามาใกล้ ผู้อาวุโสสามของตระกูลเจี่ยงกำลังติดต่อกับตระกูลบู๊โบราณอีกสองสามตระกูล
“อะไรนะ? พวกนายตระกูลสวีจะส่งคนมา? สวีเจิง ฉันว่านายอยากมาแย่งคุณงามความดีไปมากกว่ามั้ง!” เจี่ยงลี่เย้ยหยันไม่หยุด
“ขอบอกนายแบบชัดเจนเลยว่า ตอนนี้ไอ้เย่เทียนคนนั้นถูกเจ้าบ้านควบคุมไว้แล้ว ถึงแม้พวกนายมาก็จะไม่มีโอกาสสักนิด!”
“เจี่ยงลี่ ไม่ว่าพูดอย่างไรก็เป็นคนคุ้นเคยกันนะ! อย่าไร้เยื่อใยขนาดนี้สิ!” สวีเจิงพูดจาแบบประหลาด
“ใช่! พวกเราทั้งสามตระกูลไม่ว่าอย่างไรก็เป็นเพื่อนบ้านเก่ากัน โดยเฉพาะพวกเราต่างรู้ว่าเย่เทียนคนนี้ไม่ธรรมดา มอบเย่เทียนให้พวกคุณพวกเราย่อมไม่มีปัญหาใดๆ อยู่แล้ว แต่ของที่อยู่เบื้องหลังเย่เทียน พวกคุณควรแบ่งผลประโยชน์ออกมาส่วนหนึ่งด้วยหรือเปล่า?”
ตระกูลหลินตระกูลสวีก็เหมือนกับตระกูลเจี่ยงล้วนเป็นตระกูลบู๊โบราณที่เก่าแก่ และรุ่นหนุ่มสาวของคนสองตระกูลยังแกร่งกว่าตระกูลเจี่ยงด้วยซ้ำ ได้เข้าสู่โลกบู๊โบราณเรียนต่อขั้นลึกซึ้งขึ้นไปอีกแล้ว
ด้วยเหตุนี้ตระกูลเจี่ยงย่อมไม่ยินยอมทำให้เรื่องราวมันเลยเถิดแน่
“ได้! เพียงแค่พวกนายจะได้อะไรไปนั้นฉันไม่มีทางตัดสินใจได้ จุดนี้ยังต้องให้เจ้าบ้านตัดสินใจ!”
“นี่มันแน่นอนอยู่แล้ว!”
“เดี๋ยวพวกเราก็ไปถึง จะคุมท้ายขบวนรบให้พวกคุณ!”
สวีเจิงและหลินเฟิงกดปิดแอปพลิเคชันลงแล้ว ทำเอาเจี่ยงลี่โมโหจนอยากบีบมือถือให้แหลก
เจ้าสองคนนี้กลับรู้ข่าวสารเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเขามีเหตุผลให้สงสัยว่าข่าวนี้จะเป็นคนตระกูลตนเองที่เผยแพร่ออกไป
นี่ทำให้เจี่ยงลี่กวาดมองไปทางด้านหลังของตนเองด้วยหน้าตาอึมครึม
“ฉันไม่สนใจว่าใครเป็นคนทำ เพียงแค่ครั้งนี้เท่านั้น ไม่มีครั้งหน้าอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นถ้าหาตัวเจอจะไล่ออกไปจากตระกูลเจี่ยงทันที!”
ปกติเจี่ยงลี่อยู่ในตระกูลเจี่ยงก็ค่อนข้างน่าเกรงขามอยู่แล้ว พอมองลงมารอบนี้มีหลายคนหลบสายตา มองจนทำให้ในใจเขาหัวเราะเยาะไม่เลิก
ในแดนฝน เย่เทียนมาถึงด้านหน้าของเจี่ยงหลินแล้ว
“ดังนั้นพูดได้ว่าตั้งแต่เริ่มแรกพวกแกก็เข้าใจผิดเรื่องหนึ่งแล้ว ใครบอกแกกันว่า ฉันจะด้อยกว่าแดนน้ำท่วม?”
แดนน้ำท่วม นั่นเป็นเขตแดนที่เจี่ยงหลินใฝ่ฝันว่าอยากเข้าไปแม้ในยามหลับ ตอนนี้หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเย่เทียนในที่สุดก็มีความรู้สึกเข้าใจแจ่มแจ้ง แต่หลังจากตอบสนองกลับมาเขายิ่งตื่นตะลึง
“ไม่ใช่! ถ้าความสามารถแกเกินกว่าแดนน้ำท่วม พลังที่ร่างกายต้องการจะสูบแกจนเกลี้ยง! แก......”
“ดังนั้นฉันเลยลงมือน้อยมากไง!”
เย่เทียนแบฝ่ามือออก แต่การแสดงออกกลับค่อยๆ เย็นชาลงมา “แต่ว่าพวกแกก็ยั่วยุมาตลอด ยั่วยุไม่หยุด!”
“ฉัน......”
ทันใดนั้นเจี่ยงหลินพูดไม่ออกอยู่บ้าง หลังจากพวกเขาได้รับคำสั่งจัดการเย่เทียนก็ตัดสินคนอื่นด้วยความคิดตัวเองมาโดยตลอด เหมือนว่าไม่เคยให้ความสำคัญต่อเย่เทียนเลย
ตอนนี้ถึงแม้จะตอบสนองกลับมา ก็เหมือนจะสายไปบ้างแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เย่เทียนจะปล่อยเขาไปเหรอ? จะปล่อยตระกูลเจี่ยงไปเหรอ?
ในที่สุดเจี่ยงหลินรู้สึกหวาดกลัว “บอกเงื่อนไขมาเถอะ ตระกูลเจี่ยงของฉันอยู่ในโลกบู๊โบราณก็ครอบครองความสามารถที่แกร่งมากอยู่เหมือนกัน แดนน้ำท่วมเมื่ออยู่ที่นั่นเดิมทีไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร! ขอแค่แกเสนอเงื่อนไขมา ฉันจะพยายามทำให้แกพอใจ!”
เสียงหยาดฝนตกลงมานับวันยิ่งเบา ความดีใจบนหน้าของเจี่ยงลี่ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น นี่หมายความว่าเจี่ยงหลินได้รับความสำเร็จที่มีประสิทธิภาพแล้ว เพียงแต่กระบวนการอันนี้เหมือนจะช้าอยู่บ้าง
นานๆ ไป เขาอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมช้าขนาดนี้เลยล่ะ?
หรือว่าเจ้าบ้านไม่ควรหัวเราะดังลั่นสักหน่อย และปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนด้วยลักษณะพลังอันไร้เทียมทาน ด้วยวิธีนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ทำให้รู้สึกสะพรึงกลัว?
ในที่สุด น้ำฝนที่ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งภูเขานั้นหายไปทีละนิด และสามารถทำให้ทุกคนมองเห็นภาพคนที่เยื้องย่างเดินออกมาคนนั้น
เพียงแค่คนคนนี้เหมือนจะดูหนุ่มเกินไปหน่อย
“เป็นไปได้อย่างไร! เย่เทียน! ทำไมแกยังมีชีวิตอยู่!”
เสียงร้องตกใจของเจี่ยงลี่ทำให้ทุกคนสะดุ้งตกใจ หลังมองเห็นภาพของเย่เทียน ทุกคนล้วนเบิกดวงตาโพลงโต
บนหน้าเย่เทียนในเวลานี้มีรอยยิ้มอ่อนๆ เหมือนว่ากำลังเยี่ยมชมทิวทัศน์ของลำธารเล็กๆ ระหว่างภูเขา แต่ไม่ใช่อยู่ในการต่อสู้
กระบี่วิญญาณแดงก็ปรากฏอยู่ในมือของเขา จากการชะล้างของน้ำฝน เลือดหยดสุดท้ายที่แข็งตัวอยู่ตรงปลายกระบี่หยดลงในแอ่งน้ำด้านล่าง
ทั้งที่เป็นการเคลื่อนไหวที่เล็กน้อยมาก แต่กลับทำลายความเงียบของทั้งภูเขาลงแล้ว
“ตึก!”
เจี่ยงหลินที่อยู่ด้านหลังเขาคุกเข่าล้มบนพื้น น้ำโคลนกระเด็นขึ้นมาส่วนหนึ่ง จากนั้นกระแทกลงพื้นดินอย่างแรงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
“ตอนนี้พวกเรามีสิทธิ์เจรจากันดีๆ แล้วใช่ไหม?”
เย่เทียนพูดจบจากนั้นมองทางสวีเจิงและหลินเฟิงแล้ว
สองคนนี้สวมเสื้อผ้าที่แตกต่างไปจากตระกูลเจี่ยงอย่างชัดเจน แต่ก็มีสัญลักษณ์พิเศษของตระกูลบู๊โบราณอยู่ นี่ทำให้รอยยิ้มของเย่เทียนยิ่งเข้มข้นขึ้นมา
“ดูแล้วพวกคุณก็คือกองกำลังเสริม? ล้วนมาฆ่าผมกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...