“แกมันคือคนบ้า!”
เย่เทียนมองเขาอย่างเย็นชา
หลี่ซือกลับยักไหล่แบบไม่แยแส “แกไม่ต้องดิ้นรนแล้ว โดนพิษหวายสวรรค์เข้าไป ทุกคนต้องตายกันหมด! ส่วนฉันนะเหรอ......”
หลี่ซือกวักมือแล้ว เถาวัลย์เส้นหนึ่งไชออกจากพื้นดิน พันล้อมบนแขนของเขาไปโดยตรง
“ตัวหวายสวรรค์เองนี้ก็คือสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะหลังจากผ่านความพยายามของฉันมา ในที่สุดมันยังมีจิตสำนึกนิดๆ”
ในสายตาของหลี่ซือเปล่งประกายแววตาอันบ้าคลั่ง “รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงเข้าร่วมแก๊งหย่งเย่?”
หลี่ซือคล้ายจะปลดปล่อยและเริ่มพูดกับตนเอง
“บนโลกนี้มีเพียงแก๊งหย่งเย่ที่ไม่สนใจสถานะของฉัน เติมเต็มความต้องการทุกอย่างของฉัน ด้วยเหตุนี้เพียงพอที่จะประหยัดเวลาฉันมาเก็บรวบรวมและเลี้ยงดูหวายสวรรค์ไปได้สามสิบปี!”
“แกรู้ไหมว่านี่มันหมายความว่าอะไร?”
“นี่หมายความว่าลูกรักตัวน้อยของฉันจะเติบโตเร็วขึ้นไง!” หลี่ซือพูดจบมองเย่เทียนอย่างชั่วร้ายแล้วหัวเราะออกมา
“ส่วนสิ่งที่ฉันต้องชดใช้ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือแก๊งหย่งเย่ฆ่าคนไม่กี่คนเท่านั้นเองเหรอ!”
“เทียบกันกับสวะพวกนั้น แกว่าเจ้าน่ารักตัวน้อยของฉันสำคัญยิ่งกว่าหรือเปล่า?”
พูดจบหลี่ซือใช้มือแตะไปที่หน่ออ่อนของหวายสวรรค์สักหน่อย
คาดไม่ถึงหวายสวรรค์ราวกับมีจิตสำนึก หลังจากที่หลี่ซือแตะโดนมันจึงถอยหลังออกไปเว้นระยะห่างระดับหนึ่ง
“แกมันบ้าไปแล้วจริงๆ!”
เย่เทียนถอนหายใจทีหนึ่ง “หรือว่าในสายตาแกชีวิตคนไม่คุ้มค่าขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ฮาๆ! ตอนที่ฉันโดนคนเห็นเป็นตัวประหลาด มีคนเคยถามฉันว่าเป็นคนด้วยเหรอ?”
ทันใดนั้นหลี่ซือหัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่งออกมา “มีบางครั้ง คนยังสู้พืชไม่ได้เลย!”
“แกว่างั้นใช่ไหมล่ะ!” หลี่ซือถามหวายสวรรค์ด้วยท่าทางเอ็นดู
การตอบสนองของหวายสวรรค์ต่อเขาคือพันแขนของเขาไว้อย่างอ่อนโยน
เย่เทียนตะลึงแล้ว ไม่ได้พูดคุยหัวข้อสนทนานี้ต่ออีก “เหมือนว่าฉันจะไม่ได้ผิดใจแก๊งหย่งเย่สักหน่อย ทำไมพวกแกต้องมาฆ่าฉันด้วย? แม้กระทั่งยอมผิดใจสำนักวาติกัน? หรือพวกแกคิดจริงๆ ว่าตัวเองไม่มีศัตรู?”
“เรื่องพวกนั้นฉันไม่รู้ แต่สำหรับแกนั้น ฉันยังค่อนข้างรู้สึกสนใจ!”
หลี่ซือมองเย่เทียนแล้วแวบหนึ่ง “ฉันไปค้นข้อมูลของแกมา ฉันรู้แค่เรื่องเดียว แก๊งอยากหาของชิ้นหนึ่งที่ไม่ได้เป็นของตระกูลเย่ แต่กลับโดนคนเอาออกมา!”
เย่เทียนรู้สึกตื่นตกใจ วินาทีแรกเขานึกถึงหน้าปกทองภายในตานเถียนแล้ว
บางที นี่ก็คือเหตุผลที่แก๊งหย่งเย่ตามฆ่าตนเอง?
ส่วนหลี่ซือยังบอกว่าถูกคนนำออกมา นี่อธิบายได้ว่าตัวหน้าปกทองเองเป็นของแก๊งใดแก๊งหนึ่ง? แก๊งหย่งเย่? ไม่น่าจะใช่!
ทันใดนั้นเอง เย่เทียนนึกถึงสถานที่หนึ่งได้ โลกบู๊โบราณ!
เป็นที่ไหนกันถึงมีความเป็นไปได้ที่จะครอบครองหน้าปกทองสิ่งของที่มีตัวตนเหนือธรรมชาติอย่างนี้ได้
จะต้องเป็นแบบนี้แน่นอน!
ดวงตาของเย่เทียนสว่างขึ้นกะทันหัน ส่วนหลี่ซือกลับไม่มีลักษณะจะพูดคุยเพิ่มเติมแล้ว
“วันนี้อารมณ์ฉันดีมาก นานแล้วที่ไม่ได้พูดคุยกับใครมากขนาดนี้! เย่เทียน ฉันชื่นชมแกมากจริงๆ นะ แต่น่าเสียดาย แกกลับปฏิเสธความหวังดีของฉัน เป็นแบบนี้ แกได้เพียงไปตายแล้วแหละ!”
หลี่ซือพูดจบจึงเขย่าหวายสวรรค์ในมือสักหน่อย “เจ้าลูกรัก ดูดพวกเขาเถอะ จากนั้นพวกเราก็กลับไปกันนะ!”
เถาวัลย์ที่ทั้งมากทั้งหนาไชออกมาจากพื้นดินทันใด ตรงเข้าห่อเย่เทียนไว้
พิษหวายสวรรค์เหมือนจะร้ายกาจกว่าที่เย่เทียนคาดการณ์ไว้ ส่วนเย่เทียนก็ไม่ได้ต่อต้านใดๆ แต่เขากลับมองทางหลี่ฮวนหยุนแล้ว
“ตอนนี้คือโอกาสแก้แค้นของนายแล้ว อย่าบอกว่าฉันไม่ให้โอกาสนี้แก่นาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่