“งั้นเหรอ?”
เสียงของเย่เทียนลอยออกมาจากในหมอกหนา จากนั้นเย่เทียนก็เดินออกมาจากในหมอกพิษแบบนี้แล้ว
ฤทธิ์กัดกร่อนของพิษพวกนี้แรงมาก นี่ทำให้เสื้อผ้าบนตัวของเขาดูขึ้นมายังขาดกะรุ่งกะริ่ง แต่ผิวหนังของเขากลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ยังคงขาวเนียนชุ่มชื่นแบบนั้นอยู่
“ทำไมแกถึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย? นี่เป็นไปไม่ได้!”
หลี่ซือตื่นตกใจขึ้นฉับพลัน จากนั้นร่างกายถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยจิตใต้สำนึก
“ไม่พูดไม่ได้ว่า เพื่อวางแผนร้ายต่อฉัน แกทุ่มเทเต็มที่จริงๆ!”
เย่เทียนส่ายหน้าเบาๆ “แต่แกลืมเหรอว่าสิ่งที่ปรมาจารย์ปรุงยาได้เปรียบมากที่สุดคืออะไร? แน่นอนว่าปรุงยาไง!”
เย่เทียนพูดจบยกมือขึ้น
ระหว่างนิ้วมือของเขาคีบยาสีเขียวอ่อนเม็ดหนึ่งไว้ หลังจากการปรากฏตัวของยา กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่สดชื่นก็ฟุ้งออกมา
สิ่งที่มหัศจรรย์มากกว่าคือไม่เพียงอยู่ที่กลิ่นหอมของยานี้ หมอกพิษต่างหลบทางให้ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างนั้นเลย
“ยาแก้พิษ? เป็นไปไม่ได้! ยาแก้พิษใดๆ บนโลกใบนี้ล้วนไม่อาจบรรลุผลลัพธ์แบบนี้ได้! แกกำลังหลอกฉัน!”
หลี่ซือย่อมยอมรับผลลัพธ์อันนี้ไม่ได้เป็นธรรมดา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่เป็นกับดักที่เขาจัดเตรียมอย่างรอบคอบ ถ้าล้มเหลวไปง่ายดายขนาดนี้ เขาหลี่ซือยังมีหน้าอะไรมาเรียกตนเองว่าเป็นราชาพิษ?
แต่เย่เทียนคือตัวอย่างที่มีชีวิตชีวา สภาพของเขาอธิบายทุกอย่างได้เพียงพอแล้ว
มุมปากของเย่เทียนยกรอยยิ้มขึ้นมา
ในเมื่อรู้ว่าหลี่ซือคือราชาพิษ เย่เทียนจะไม่มีการเตรียมพร้อมใดๆ ได้อย่างไร?
หลี่ฮวนหยุนเป็นเพียงทางหนีทีไล่ของเขาเท่านั้นเอง ด้านหนึ่งคือมีจิตใจที่เกิดความสงสาร อีกด้านหนึ่งก็คือเจตนารมณ์ของหลี่ฮวนหยุนทำให้เย่เทียนตะลึงอยู่บ้าง นี่ถึงทำให้เขาฝึกวิชาสารพัดพิษมาควบคุมหลี่ซือ
แต่โดยเนื้อแท้ เย่เทียนเป็นปรมาจารย์ปรุงยา!
คำพูดของหลี่ซือกลับมีเหตุผลชัดเจน
จากระดับการปรุงยาภายในประเทศจีน อยากจะปรุงยาแก้พิษออกมาส่วนใหญ่ก็ไม่กี่ประเภทแค่นั้นเอง สำหรับราชาพิษอย่างหลี่ซือนี้จะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากเกินไปแน่นอน
โดยเฉพาะพิษผสมประเภทนี้ถูกหลี่ซือเล่นจนเกือบเป็นลักษณะของศิลปะ ยาแก้พิษส่วนใหญ่ที่รู้จักกันพวกนั้นเดิมทีจะไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าไร
แต่ยาในมือเย่เทียนกลับต่างออกไป
ที่เขาปรุงมาคือยาแก้พิษในสมัยดึกดำบรรพ์ใกล้ถึงระดับเทพ ยาโป่งรากสน
อย่ามองว่ายานี้ฟังดูทั่วไปอยู่บ้าง แต่เพื่อปรุงยาตัวนี้แล้ว เย่เทียนใช้ความรู้จากประสบการณ์มากมายเลยทีเดียว
ถ้าไม่ใช่เขาทะลุขั้นแดนพลังผนึกจินตันแล้ว ยานี้จะปรุงจนสำเร็จได้หรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ
“สิ่งที่แกไม่รู้มันมีมากมาย นี่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีสักหน่อย!”
เย่เทียนบ่นพึมพำ จากนั้นพลิกมือเก็บยาเอาไว้แล้ว
หลังจากกุมกระบี่วิญญาณแดงไว้ในมือ เย่เทียนหรี่ตาแล้วพูดว่า “ไม่ต้องพูดเรื่องไร้สาระพวกนั้นแล้ว เอาความสามารถพิเศษสุดของแกออกมาเถอะ!”
หลี่ฮวนหยุนซึ่งซ่อนในที่ลับมาตลอดอยากพุ่งจะออกมาหลายครั้ง
แต่คำพูดของเย่เทียนทำให้เขาต้องควบคุมความวู่วามของตนเองเอาไว้
เพราะเย่เทียนเคยบอกไว้ว่า มีเพียงตอนที่ให้เขาออกมา เขาถึงจะเคลื่อนไหวได้!
ดังนั้นถึงแม้ศัตรูผู้ทำลายครอบครัวตนเองที่ทำให้อยากฉีกเนื้อแทะกระดูกใจแทบขาดคนนี้จะอยู่ตรงหน้า เขาก็ยังคงอดกลั้นเอาไว้
การฝึกฝนวิชาสารพัดพิษทำให้แรงควบคุมของหลี่ฮวนหยุนแข็งแกร่งขึ้นมาก และทำให้เขาเปลี่ยนไปใจเย็นขึ้นมาด้วย
เพียงแค่เขาที่ซ่อนตัวแล้วจ้องหลี่ซือตาไม่กะพริบ กลับไม่รู้ว่าผิวหนังของเขากำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แม้กระทั่งหัวใจของเขาก็อดที่จะเริ่มเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิมไม่ได้ อากาศธาตุที่ไร้สีปลิวกระจายออกมาจากในร่างกายเขา
รอยยิ้มบนหน้าของหลี่ซือดูดุร้ายขึ้นมา “ฉันชอบเห็นเขาเจ็บปวด นี่คือเหตุผลที่ฉันไม่ได้ฆ่าเขาไง! วางใจเถอะ ถึงหลังผ่านครั้งนี้ไปฉันก็จะไม่ฆ่าเขาเหมือนกัน!”
“ไม่มีอะไรทำให้ฉันยิ่งรู้สึกตื่นเต้นได้เท่ากับทำให้คนคนหนึ่งสิ้นหวังถึงที่สุดอีกแล้ว!”
หลี่ซือเยาะเย้ยอย่างกำเริบเสิบสานอยู่ภายใต้การคุ้มกันของหวายสวรรค์
“ออกมาเถอะ!”
เย่เทียนพูดเสียงเบามาประโยคหนึ่ง จากนั้นด้านล่างไหล่เขาซึ่งไม่ไกลนัก หลี่ฮวนหยุนพุ่งเข้ามาโดยตรงราวกับสัตว์ดุร้าย
“โอ๊ะ? ทำไมไม่อดทนไว้แล้วล่ะ? อยากฆ่าฉันมากใช่หรือเปล่า? ลงมือเลยสิ!”
ถึงแม้การกระทำของหลี่ฮวนหยุนในสายตาคนทั่วไปจะดูยอดเยี่ยมมากพอ แต่ยามอยู่ต่อหน้ายอดฝีมือด้านบู๊ที่แท้จริงเดิมทีไม่ถือว่าเด่นอะไร หวายสวรรค์โผล่ออกมาจากใต้เท้าเขาทันที ชั่วพริบตาห่อเขาไว้แล้ว
ไม่ว่าหลี่ฮวนหยุนจะดิ้นรนอย่างไร สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือใช้สายตาโกรธแค้นจ้องหลี่ซือแบบไม่กะพริบ
“ทำไม? ทำไมแกต้องลงมือกับคนธรรมดาเหล่านั้นด้วย! ตระกูลหลี่ของฉันไม่มีความแค้นกับแก!”
“อันนี้ก็เป็นความจริง! แต่ว่าฉันแค่อยากทำแบบนั้นไง!” หลี่ซือลูบคางของตนเอง “โดยเฉพาะมองเห็นแกในตอนนี้ ฉันเห็นแล้วว่าการตัดสินใจในตอนแรกของฉันมันถูกต้องขนาดนั้น!”
“ฉันจะฆ่าแกให้ได้!” หลี่ฮวนหยุนพยายามดิ้นรนขึ้นมาอย่างแรง
หนามแหลมที่ติดอยู่บนหวายสวรรค์ขูดผิวหนังของหลี่ฮวนหยุนจนถลอกแล้ว ของเหลวสีขาวขุ่นของหวายสวรรค์ก็เข้าสู่ภายในร่างกายของหลี่ฮวนหยุนเช่นกัน
หลี่ฮวนหยุนในเวลานี้ดูน่ากลัวพอสมควร
ผิวหนังของเขาเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นสีม่วง เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นสีขาว จากนั้นเริ่มวนเวียนกลับไปกลับมาไม่มีที่สิ้นสุด
หลี่ซือทำท่าทางพิจารณา
“ใช้คนเป็นเอามาปรับเป็นคนพิษ อันนี้ฉันกลับเคยทดลอง น่าเสียดายความเด็ดเดี่ยวของพวกเขาไม่เข้มแข็งพอ!”
พูดจบหลี่ซือมองเย่เทียนแล้วแวบหนึ่ง “แต่ว่าครั้งนี้แกกลับทำให้ฉันเกิดความคิดใหม่อย่างหนึ่ง รอหลังจากกลับไปฉันจะหาคนหนุ่มที่มีพรสวรรค์ ถือโอกาสฆ่าเขายกครัว เหลือแค่เขาเอาไว้มาปรับเป็นคนพิษ แกคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...