เก็บหนังสัตว์เอาไว้ เย่เทียนกวาดสายตาไปบนหนังสือล้ำค่าที่ไม่มีหน้าปกเล่มนั้นแล้ว
เหตุผลที่บอกว่ามันเป็นหนังสือล้ำค่าก็เป็นเพราะหน้าแรกคือรูปฝึกวิชา ด้านบนมีแผนผังการเคลื่อนชี่ที่ชัดเจน
สามารถทำให้คนของตระกูลเจี่ยงเอามาจัดวางไว้ที่นี่อย่างเอาจริงเอาจังได้ ก็พอจะอธิบายได้ถึงระดับความสำคัญของหนังสือเล่มนี้
แม้กระทั่งเย่เทียนยังเคยคิดอยู่ครั้งหนึ่งว่านี่คือวิชาฝึกหลักของเจี่ยงหลิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเพียงเจ้าบ้านถึงสามารถมีสิทธิ์พิเศษแบบนี้!
เพียงแต่ตอนที่เขาเพิ่งวางมือลงบนหนังสือล้ำค่า เรื่องราวที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงกลับเกิดขึ้นแล้ว
หน้าปกทองที่อยู่ภายในร่างกายเขาแบบมั่นคงและซื่อสัตย์มาตลอดทันใดนั้นสั่นสะเทือนขึ้นมา และระเบิดลมแรงอันทรงพลังออกมา กระแทกแกนเสมือนในตานเถียนของเย่เทียนไปโดยตรงจนสั่นไหวไม่หยุด
ช่วงเวลานี้ทำให้สีหน้าของเย่เทียนแดง
“พวกคุณออกไปก่อน!”
น้ำเสียงของเย่เทียนจริงจังขึงขัง
สวีเจิงกับหลินเฟิงมองหน้าซึ่งกันและกัน ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมเย่เทียนถึงพูดแบบนี้ออกมากะทันหัน แต่คนโง่ยังมองออกว่านี่ต้องเกี่ยวข้องกับหนังสือล้ำค่าอย่างแน่นอน
เย่เทียนถือว่ามีมารยาทแล้ว คาดไม่ถึงให้พวกเขามองเห็นสิ่งของมากขนาดนี้
ตอนนี้เย่เทียนอยากไล่พวกเขาออกไป พวกเขามีเหตุผลปฏิเสธที่ไหนกัน?
สวีเจิงกับหลินเฟิงไม่มีความลังเลสักนิดเดียว รีบเดินออกไปทางด้านนอกทันที สำหรับเรื่องหลบหนีไปทันที......
พวกเขามีความคิดหวั่นไหวอยู่บ้างจริงๆ แต่พอนึกถึงความสามารถของเย่เทียน พวกเขายังท้อใจขึ้นมา ไม่กล้าขยับมั่วซั่ว ยืนอยู่หน้าประตูห้องเก็บสมบัติอย่างหลักแหลมมากใช้สายตาสื่อสารกันแบบรวดเร็ว
เย่เทียนไม่มีเวลามาสนใจความคิดของพวกเขา
ในใจของเขาในเวลานี้สั่นสะเทือนไร้ที่เปรียบ ถึงแม้ตอนแรกแย่งชิงพระคัมภีร์โบราณมาได้ก็ไม่ได้ทำให้หน้าปกทองในร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงรุนแรงแบบนี้ กลับเป็นหนังสือล้ำค่าที่ไม่มีชื่อใดๆ เล่มหนึ่งในตอนนี้ที่กระตุ้นความเปลี่ยนแปลงแบบนี้แทน
เขารู้สึกตกใจอย่างอดไม่ได้
กระบวนการอันนี้ไม่ได้กินเวลานานเกินไป หนังสือล้ำค่าไร้ชื่อในมือเขากลายเป็นขี้เถ้าลอยไปแบบนี้ หายไปในชั่วพริบตา
ส่วนในร่างกายของเย่เทียนมีหน้าปกทองแผ่นหนึ่งเพิ่มขึ้นแล้ว
“นี่ก็ได้เหรอ?”
เย่เทียนตกตะลึงพรึงเพริด จากนั้นลองใช้วิธีเดียวกันไปสื่อสารกับหน้าปกแผ่นนี้ พลังที่หลอมรวมกันไหลบ่าออกมา ส่วนในหัวสมองของเย่เทียนก็มีวิชาเล่มหนึ่ง บางทีเรียกว่าวิชากระบี่
วิชากระบี่ไท่ช่าง
ถึงแม้นี่จะเป็นวิชากระบี่เล่มหนึ่ง แต่การเคลื่อนชี่ของมันกลับมีส่วนที่เสริมสร้างซึ่งกันและกันกับคัมภีร์หวงอยู่ไม่น้อย
เย่เทียนลองดูสักพักหนึ่ง หลังจากคัมภีร์หวงถูกปรับปรุงใหม่ ความเร็วที่เขาดูดชี่ทิพย์โดยรอบยิ่งว่องไวมากกว่าเดิม แม้กระทั่งความรู้สึกหิวกระหายชี่ทิพย์ที่รบกวนเย่เทียนมาตลอดก็หายไปหมด
สำหรับเย่เทียนแล้วนี่เป็นข่าวดีแบบไม่ต้องสงสัย
นี่หมายความว่าในการสู้รบต่อไปนี้เย่เทียนไม่ต้องมีความกังวลมากขนาดนั้นแล้วและเวลาในการสู้รบก็จะยืดยาวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นี่ยังเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงทางวิชายุทธ์
ถึงแม้เย่เทียนยังไม่ได้ฝึกฝนวิชากระบี่ไท่ช่าง แต่เย่เทียนยังพอจะสัมผัสถึงแรงโจมตีอันดุเดือดนั้นที่เผยออกมาระหว่างวิชายุทธ์ได้
“โชคดีมากเลย! โชคดีมากจริงๆ!”
ดวงตาของเย่เทียนเปล่งประกายอยู่บ้าง “มิน่าคนถึงพูดว่าม้าไม่ขโมยกินหญ้าตอนค่ำไม่อ้วน คนไม่ทำเรื่องสกปรกหน่อยรวยไม่ได้! อาศัยแค่วิชายุทธ์เล่มหนึ่งก็เพียงพอให้ฉันเพิ่มความสามารถขึ้นสามเท่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหินทิพย์และยาล้ำค่ามากขนาดนี้เลย ครั้งนี้เจริญรุ่งเรืองจริงๆ แล้ว!”
ต่อให้เป็นเย่เทียนที่นิสัยค่อนข้างเฉยชาเวลานี้ยังกลั้นความยินดีไว้ไม่ไหว ยกคิ้วสูงขึ้นแบบควบคุมไม่ได้
กระบี่วิญญาณแดงอีกทางด้านหนึ่งไม่รู้ว่าบดที่คลุมกันแสงด้านนอกหินขนาดใหญ่สีดำแหลกไปตั้งแต่เมื่อไร
ปลายกระบี่เสียบเข้ากลางก้อนหินสีดำโดยตรง ตัวกระบี่ของกระบี่วิญญาณแดงเหมือนจะมีสีเทาโลหะแผ่ขยายออกมาบ้างเพราะการแต่งแต้มของหินใหญ่สีดำก้อนนี้ ดูขึ้นมาไม่กลมกลืนกันอย่างยิ่ง
แต่เย่เทียนก็ไม่ได้สัมผัสถึงความรู้สึกอันตรายที่กระบี่วิญญาณแดงส่งมา แต่ทว่าเหมือนมันจะดื่มด่ำกระบวนการอันนี้มาก
“นี่สรุปมันของอะไรกันแน่?”
เย่เทียนขมวดคิ้วแล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาอาจจะหาคำตอบไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของชิ้นนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ได้รับการปกป้องในบรรดาของสามอย่างนี้ และวางเคียงข้างกับวิชากระบี่ไร้ชื่อของล้ำค่าหายากแบบนี้อีกด้วย
เจ้าเด็กดี! เครื่องรางทิพย์พวกนี้ยังไม่ได้พลีชีพไปฟรีๆ จริงด้วย!
ในสายตาเย่เทียนล้วนเป็นแววตาอันเบิกบาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยิ่งกระบี่วิญญาณแดงแกร่งนั่นหมายความว่ากำลังต่อสู้ของเขายิ่งแกร่งขึ้นไปด้วย
ถ้าเขาในเวลานี้เจอกับพระฉือเทียนอีกรอบ เย่เทียนมีความมั่นใจว่าจะบีบบังคับอีกฝ่ายให้อยู่ต่อได้แน่
อย่างอื่นไม่พูดถึงชั่วคราว เอาเพียงแรงโจมตีแข็งแกร่งของกระบี่วิญญาณแดงนี้ เขาพระฉือเทียนจะกล้าฝืนรับไปจริงเหรอ? นอกจากว่าเขาไม่อยากมีชีวิตแล้ว
หลังจากพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เย่เทียนจึงเดินออกมาจากห้องเก็บสมบัติช้าๆ
ตรงหน้าประตู สวีเจิงกับหลินเฟิงทั้งสองคนตัวสั่นเทา
ไม่มีทางไม่ตัวสั่น เมื่อสักครู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงแค่ความรู้สึกอันตรายรุนแรงวนเวียนอยู่ข้างกายพวกเขา แม้กระทั่งทำให้จิตใจของพวกเขาพังทลายพอสมควร
รู้สึกโชคดี พวกเขารู้สึกโชคดีมาที่ไม่ได้วิ่งหนีไป แต่ว่ายืนอยู่รอคอยอยู่ที่เดิมอย่างเชื่อฟัง
เจ้าหนุ่มนี่ก็คือปีศาจร้าย!
ช่างแกร่งเหลือเกิน! แกร่งจนทำให้คนสูญเสียความปรารถนาจะขัดขืน
“เมื่อกี้ในเมื่อรับปากทั้งสองท่านแล้ว ผมก็ไม่ใช่คนที่พูดจากลับกลอก ไม่กี่อันนี้มอบให้ทั้งสองท่านแล้วกัน!”
พูดจบเย่เทียนนำยาสองสามขวดโยนเข้าไป
สวีเจิงกับหลินเฟิงไม่ว่าอย่างไรก็เป็นนักบู๊ ถึงแม้การกระทำจะลนลานอยู่บ้าง แต่ยังรับขวดยาไว้อย่างมั่นคงได้ จากนั้นใช้สายตาสงสัยมองทางเย่เทียน
พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจอยู่บ้างว่าเย่เทียนอยากทำอะไรกันแน่ โดยเฉพาะนี่คือยาวิเศษนะ!
ถึงแม้เป็นตระกูลบู๊โบราณแบบพวกเขาก็ยังเป็นสิ่งของที่หายากที่สุด
“ผมคนนี้นะ รักความสงบสุขมาก ถ้าไม่จำเป็นละก็ไม่ชอบสู้รบกับใครหรอก จุดนี้ยังหวังว่าทั้งสองท่านจะบอกกับตระกูลเบื้องหลังพวกคุณให้ชัดเจน!”
เย่เทียนพูดจบแล้วยิงฟันยิ้มออกมา
ทั้งที่เขาแสดงออกอย่างเป็นมิตรเอามากๆ แต่รอยยิ้มของเขากลับทำให้ในใจของสวีเจิงและหลินเฟิงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...