“ครับ! พวกเราจะบอกต่ออย่างชัดเจนแน่นอนครับ!”
ถึงแม้ในใจสวีเจิงและหลินเฟิงจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและคำตำหนิ แต่กลับไม่กล้าเผยออกมาแม้แต่น้อย
พูดตามตรง ไม่ใช่พวกเขาสองคนระมัดระวังมากไป เพียงแต่ภายใต้สถานการณ์น่าสังเวชเช่นนี้ของตระกูลเจี่ยง เย่เทียนบอกว่าเขารักความสงบสุขมาก อืม พวกเขาอยากชี้หน้าเย่เทียนแล้วบอกประโยคหนึ่งมาก
คนหนุ่มสาว ไม่สนใจศีลธรรมด้านการต่อสู้(คนหนุ่มสาวดุเดือดมาก)
น่าเสียดาย พวกเขาไม่กล้า ถึงเอาความกล้ามาให้พวกเขายืมก็ไม่กล้าอยู่ดี
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมไม่รั้งทั้งสองท่านไว้นานแล้ว!”
เย่เทียนโบกมือไป ไล่พวกเขาราวกับไล่แมลงวัน
ประโยชน์ทุกอย่างที่ได้รับในวันนี้สำหรับเย่เทียนแล้วช่างเป็นสิ่งที่คุ้มค่าชวนให้อารมณ์ดี ผู้ชายสองคนนี้เดิมทีเขาไม่เห็นอยู่ในสายตา
สำหรับทางเลือกสุดท้ายของสวีเจิงและหลินเฟิง เย่เทียนไม่สนใจ
ถ้าไม่มาสร้างความวุ่นวายให้ เขาย่อมยินดีอย่างยิ่ง ถ้าพวกเขาไม่ลืมหูลืมตาดู งั้นเย่เทียนจะไม่ถือสาอวดความร่ำรวยของตนเองสักหน่อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีใครเมินเฉยความสนใจต่อของมีค่าหรอก
สวีเจิงและหลินเฟิงเหมือนได้รับการอภัยโทษ ก่อนจะออกไปยังทิ้งข้อความประโยคหนึ่งที่ไม่ได้พูดจากใจจริงว่าอยากให้เย่เทียนเข้าไปเยี่ยมเยียน จากนั้นวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าหยุดพักสักนิด
ในห้องโถง คาดไม่ถึงหลี่ฮวนหยุนหายไปแบบไร้ร่องรอย
เย่เทียนขมวดคิ้ว เก็บจดหมายแผ่นหนึ่งบนพื้นขึ้นมา
สุดท้าย หลี่ฮวนหยุนเลือกจะจากไปแล้ว
พิษในร่างกายของเขากลับไม่ได้จะระเบิดออกมาง่ายดาย เดาว่าความแค้นต้องชำระ อารมณ์ของเขายังไม่ได้ได้รับการปรับที่ดี
ส่วนการเลือกของเขาเย่เทียนก็ไม่ยินยอมก้าวก่ายมากเกินไป
บางคนในที่สุดจะมาพบเจอกันอีกครั้ง ขอเพียงพวกเขาเขายอมเป็นคนธรรมดาและไม่ไปทำเรื่องผิดมนุษยธรรม เย่เทียนก็ไม่ถือสาที่เขาจะมีชีวิตใหม่
“นายพลเฝิง พวกเราเหมือนจะเจรจาการแลกเปลี่ยนแบบเดิมกันดีๆ ได้แล้ว!”
เย่เทียนนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ของตระกูลเจี่ยงล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาเฝิงเจิ้นเหอแล้ว
“คุณเย่ฝีมือดี! เดี๋ยวผมเข้าไปตอนนี้เลย!”
ในใจเฝิงเจิ้นเหอสั่นสะเทือนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลเจี่ยงมีความสามารถอะไรเขาจะไม่รู้ชัดได้อย่างไร?
ครั้งนี้เย่เทียนบุกตระกูลเจี่ยงตัวคนเดียวเขาเฝิงเจิ้นเหอก็นั่งเฉยไม่สนใจไม่ได้ ส่วนคนของกองกำลังพิเศษก็เผยแพร่เรื่องจริงออกไปแล้ว
แต่แดนของคนเหล่านี้ยังไม่บรรลุถึงขั้นล้ำหน้าเกินไป เพียงแค่มองเห็นเย่เทียนเข้าสู่ในขอบเขตของตระกูลเจี่ยงอยู่ไกลๆ จากนั้นอากาศโดยรอบ เพิ่มไอพิษเข้าไปกระจายออกทั่วเป็นต้น
สำหรับเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ คนเหล่านี้ยังงุนงงพอสมควร
นี่เป็นสาเหตุที่เฝิงเจิ้นเหอเดินไปมารอคอยข่าวคราวอยู่ในห้องมาตลอด
ตอนนี้ได้ยินการตอบกลับของเย่เทียน เฝิงเจิ้นเหอยิ่งคิดยิ่งรู้สึกตกใจ แต่การกระทำของเขากลับไม่ได้หยุดพักแม้แต่น้อย นั่งบนรถแล่นตรงไปยังตระกูลเจี่ยงทันที
ระหว่างทางความเสียหายที่แจ่มแจ้งอย่างยิ่งสะท้อนเข้าม่านตาทุกคน ส่วนคนตระกูลเจี่ยงที่ถูกดูดจนแห้งตายด้วยสภาพย่ำแย่ ยิ่งทิ้งเงามืดไว้ในใจคนเหล่านี้ไปอีก
แม้กระทั่งทำให้พวกเขาอดคิดไม่ได้ว่า สรุปแล้วคนพวกนี้ประสบพบเจอเรื่องราวอะไรกันถึงได้ตกอยู่ในจุดจบเช่นนี้
ประเด็นที่สำคัญสุดคือ เรื่องพวกนี้เป็นเย่เทียนทำเหรอ?
พวกเขาค่อนข้างรังเกียจตระกูลเจี่ยง แต่สภาพคนตายอนาถมากขนาดนี้ทำให้พวกเขาไม่พูดถึงข้อสงสัยข้อหนึ่งออกมาไม่ได้ เย่เทียนแบบนี้เป็นคนหรือปีศาจกันแน่?
“ไม่ได้การ! ระวังไว้บ้าง เป็นพิษ!”
“หลี่ซือ?”
ชั่วขณะนั้นทุกคนนึกถึงคนหนึ่งขึ้นได้ คนที่นำพิษมาทำลักษณะนี้ได้สำเร็จเห็นได้ชัดก็คือหลี่ซือที่เป็นราชาพิษของแก๊งหย่งเย่
เฝิงเจิ้นเหอยักคิ้วแล้ว มองลูกน้องของตนเองอย่างลึกล้ำแวบหนึ่ง จากนั้นก้าวเท้าเดินเข้าในคฤหาสน์ตระกูลเจี่ยง
เย่เทียนหัวเราะชอบใจเดินออกมาจากโถงใหญ่ “นายพลเฝิงมาไวดีตามคาดเลย!”
“แน่นอนอยู่แล้ว!” เฝิงเจิ้นเหอหัวเราะเสียงกังวานออกมา “เย่เทียน คนของตระกูลเจี่ยงใช่.......”
เย่เทียนยักไหล่แบบไร้ความผิด “อย่าใช้สายตาแบบนี้มามองผมสิ! ผมไม่ได้คิดจะฆ่าพวกเขาทิ้งหมดสักหน่อย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่