เย่เทียนยังไม่รู้ท่าทีการตอบสนองของตระกูลสวีและตระกูลหลินที่มีต่อเขาอยู่ชั่วคราว
แต่จากที่ตระกูลเจี่ยงโดนฆ่ายกครัวความเป็นจริงที่มีแรงกระทบแบบนี้ คาดว่าคนเหล่านี้คงจะไม่เป็นฝ่ายกระโดดโลดเต้นออกมาเอง
แน่นอนว่า เริ่มแรกเย่เทียนยังไม่ได้กำจัดตระกูลเจี่ยงทิ้งจริงๆ เพียงแค่อยากให้พวกเขากลายเป็นคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น น่าเสียดายภายใต้สถานการณ์จับพลัดจับผลูถึงก่อผลลัพธ์แบบนี้
เดาว่าเขาที่เรียกกันว่าปีศาจคนนี้คงจมสู่จิตใจของผู้คนแล้วกระมัง
เย่เทียนกลับไม่กังวลปัญหาข้อนี้สักนิดเดียว
ขอเพียงพวกเขาไม่มาหาเรื่องตนเอง เย่เทียนก็ขี้เกียจเป็นฝ่ายไปหาเรื่องเดือดร้อนให้พวกเขา
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสงบสุขแล้ว ความจริงมันช่างตรงกันข้าม ถ้าเกิดตระกูลสวีและตระกูลหลินอยากลงมือ นั่นจะต้องเป็นวิกฤติใหญ่ของเย่เทียนแน่
แต่ปัญหาคือ ความสามารถของเย่เทียนจะหยุดก้าวหน้าขึ้นเหรอ?
ความสามารถต่างหากเป็นความมั่นใจของเย่เทียน!
“กลับมาแล้ว?” หลังเหลียงเยว่หรูมองเห็นเย่เทียนก็ตรงเข้าไปโอบคอของเขาไว้แล้ว การกระทำสนิทสนม น้ำเสียงอ่อนหวาน
เย่เทียนดึงมุมปากขึ้น พูดตามตรง ตอนนี้เขาปวดหัวพอสมควร
แต่นี่ก็เป็นความวุ่นวายที่มีความสุข
“ใช่! ทุกอย่างแก้ไขหมดแล้ว ฉันเตรียมจะไปเจียงหนัน”
“งั้นดีเลย ฉันจะไปเก็บข้าวของเดี๋ยวนี้!”
“คือว่า......”
เย่เทียนกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง แม้กระทั่งไม่รู้สักเท่าไรว่าจะเผชิญหน้ากับเฉินหวั่นชิงอย่างไร
เหลียงเยว่หรูเหมือนรู้ความคิดของเย่เทียน มองเขาตาค้อนอย่างอารมณ์เสีย
สะบัดมือไปราวกับโกรธกระฟัดกระเฟียด “นายอย่าเข้าใจผิดนะ! ฉันจะไปรับช่วงต่อแก๊งมังกรรอยัลต่างหาก!”
แก๊งมังกรรอยัล? ถ้าไม่ใช่เหลียงเยว่หรูพูดขึ้นมาเขาเกือบจะลืมแก๊งนี้ไปเลย
“นี่เป็นการตัดสินใจของฉัน!” เหลียงเหวินเห้าเดินเข้ามาแล้ว บนหน้ามีรอยยิ้มขมขื่น
“หลายวันนี้ถูกคนของแก๊งมังกรรอยัลมาวุ่นวายมากพอแล้ว!” เหลียงเหวินเห้าบ่นออกมา
“คนพวกนี้รู้ว่าผิดใจนายไม่มีผลดีอะไร เลยต้องมาหาฉันให้พูดขอร้องแทน”
“พูดตามตรง ผมยังไม่ใส่ใจเรื่องนี้จริงๆ” เย่เทียนยักคิ้วแล้วตอบกลับประโยคหนึ่ง
“นายไม่ใส่ใจ แต่พวกเขาไม่สบายใจนะสิ!” เหลียงเหวินเห้าส่ายหน้า “แต่ว่าให้เยว่หรูไปก็มีประโยชน์เหมือนกัน ตามอยู่ข้างกายนายคงจะปลอดภัยกว่าตามอยู่ข้างกายฉัน!”
“เมืองเจียงหนันมีการดูแลของนายพลเฝิงและคนอื่นๆ ย่อมจะปลอดภัยมาก โดยเฉพาะแหล่งข่าวบางส่วนยังเป็นแก๊งมังกรรอยัลพวกเขาถนัดกัน สำหรับนายแล้วนี่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่”
เหลียงเหวินเห้าพูดจบมองเย่เทียนแวบหนึ่ง “สิทธิ์การตัดสินดีเลวของแก๊งไหนๆ อยู่ที่หัวหน้า และไม่ได้อยู่ที่คนข้างล่าง จุดนี้นายน่าจะรู้ดี”
เย่เทียนไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแค่หัวเราะแล้วพยักหน้า
เหตุผลที่เหลียงเหวินเห้าพูดมาเขาจะไม่รู้ชัดได้อย่างไร มิฉะนั้นคงไม่ให้ไอ้อ้วนห่าวช่วยเขาจัดการเรื่องพวกนี้แล้ว
“ไปเถอะ! อย่าเสียเวลาเลย!”
เหลียงเยว่หรูหยิบกระเป๋าถืออย่างหงุดหงิด เปิดประตูรถออกทันที
“เมื่อลูกสาวโตแล้วก็ต้องแต่งงานออกไปสินะ!” เหลียงเหวินเห้าพูดอย่างทอดถอนใจประโยคหนึ่ง “เยว่หรูนิสัยเสีย เย่เทียนนายต้องยกโทษให้บ้าง!”
เย่เทียนกระอักกระอ่วนพอสมควร ตอนที่เหลียงเหวินเห้าพูดคำนี้สีหน้าไม่ใช่ว่าดูดีมาก แต่ไม่มีทางเลือก ลูกสาวคนอื่นเขาถูกตนเองล่อลวงไปแล้ว เขาจะทำอย่างไรได้?
“แน่นอนครับ! ขอเพียงผมเย่เทียนยังมีชีวิตอยู่ เยว่หรูจะไม่เป็นกังวลในชีวิตเด็ดขาดครับ!”
“แค่นี้ก็พอแล้ว!” เหลียงเหวินเห้าตบไหล่ของเย่เทียน จากนั้นมองตามพวกเขานั่งรถออกไป สุดท้ายถึงเดินกลับไปในบ้านอย่างโดดเดี่ยว
“ทำไม? ยังโกรธอยู่เหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่