สรุปเนื้อหา บทที่ 1277 ถึงเวลาแยกกัน – ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดย Light-Knight
บท บทที่ 1277 ถึงเวลาแยกกัน ของ ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Light-Knight อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ถูฮุยเมาอยู่บ้างแล้ว
แต่ว่าก่อนหน้าที่จะพูดจาเพ้อเจ้อยังตบเฉิงชิ่งที่ขี้นินทาจนสลบแล้ว
“ฉันเชื่อคนที่ปิดปากเงียบแบบนาย แต่เขาไม่ไหว!”
เย่เทียนไม่ได้พูดอะไรแสดงว่ายอมรับแล้ว ถึงแม้มีบางครั้งเฉิงชิ่งจะคบหาง่ายมากก็จริง แต่นั่นไม่ใช่ตอนที่โรคคิดว่าตนเองเก่งไปทุกเรื่องกำเริบขึ้นแล้วมักจะทำให้คนรู้สึกไม่ไว้ใจ นี่ไม่รู้ว่าฉายาของเฉิงชิ่งได้มาอย่างไรกัน
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีกสักพักหนึ่งฉันจะอยู่ที่เขาเสี่ยวหมางของเมืองเจียงหนัน ที่นั่นวิวงดงาม เหมาะกับการฝึกฝนพอดี”
“ฉันรู้แล้ว! ฉันจะพยายามรีบกลับมาจากโลกบู๊โบราณให้ไว”
ถูฮุยสูดหายใจลึกๆ จากนั้นดื่มเหล้าในแก้วหมดในทีเดียว
“ครั้งนี้มาฆ่านายก็เพื่อยาเม็ดหนึ่ง แต่ตอนนี้ดูแล้วไม่จำเป็นแล้ว เทียบกันกับคนเสแสร้งพวกนั้นฉันสนใจนายมากกว่า!”
“ฉันไปแล้ว! จะรีบกลับมาไวๆ!”
เย่เทียนไม่ได้พูดอะไร แต่ว่ามองถูฮุยกระโดดไปไม่กี่ทีก็หายไปในแสงจันทร์อันสุดลูกหูลูกตา
รอตอนที่เฉิงชิ่งนวดคอที่ทั้งปวดทั้งบวมของตนเองก็บ่นออกมาทันที
“เชี่ยเอ๊ย! คาดไม่ถึงแอบโจมตี! ถูฮุยแอบโจมตีฉัน? ไอ้หมอนี่ยังเป็นสัตว์ป่าตัวนั้นอยู่เหรอ?”
เย่เทียนมองเขาทีหนึ่ง “มีบางครั้งใจของสัตว์ป่าอ่อนกว่าคนมากเลย!”
“ทำไม? นายมีข่าวพิเศษสุดอะไรใช่ไหม? รีบเล่ามาหน่อย!” ท่าทางเฉิงชิ่งมีแววขี้นินทา ท่าทางแบบนี้ทำให้เย่เทียนมองจนอยากต่อยเขาสักหมัดใจแทบขาด
“นายแน่ใจว่าอยากจะฟัง?” เย่เทียนมองเฉิงชิ่งด้วยหน้าตายิ้มเยาะ
เฉิงชิ่งนึกขึ้นมาได้ทันใดว่าถูฮุยเป็นคนอย่างไร อยู่ต่อหน้าเย่เทียนถูฮุยจะปฏิบัติตัวแบบเพื่อน แต่อยู่ทางเขานั้น หึๆ
ถ้าเขาได้ยินอะไรเข้าจริง เดาว่าถึงตอนนั้นคงตายแบบดูแย่เอามากๆ
ทันใดนั้นตัวสั่นเทา “ช่างเถอะ ฉันยังไม่ฟังดีกว่า!”
พูดจบเขาหาวออกมาทีหนึ่ง “มีเรื่องอยากคุยกับนายหน่อย พรุ่งนี้ฉันต้องกลับไปแล้ว!”
รายละเอียดคือกลับไปที่ไหนย่อมไม่ต้องพูดละเอียด เย่เทียนนึกออกได้เช่นกัน เพียงแต่เขาสงสัยอยู่บ้างว่าทำไมเฉิงชิ่งมาพูดเรื่องพวกนี้กับเขา
“ตระกูลเฉิงจะให้ความร่วมมือกับการเคลื่อนไหวของนาย วางใจได้ ตระกูลเฉิงของฉันเป็นมิตรกับนายแน่นอน จุดนี้ฉันหวังว่านายจะเข้าใจได้” เฉิงชิ่งพูดจบมองเย่เทียนด้วยสายตาอันซับซ้อนแล้ว
“ตอนนี้ท่าทีของโลกบู๊โบราณที่มีต่อนายนั้นฉันไม่ค่อยแน่ใจ แต่คิดว่าคงมีหลายคนกว่าเดิมมาหานาย สู้ๆ พัฒนาตัวเองขึ้นแล้วกัน ฉันจะรอนายอยู่ที่โลกบู๊โบราณ!”
เย่เทียนเบ้ปากแล้ว
“ไม่ต้องพูดจาแบบจะล้มหายตายจากกันขนาดนี้สิ โดยเฉพาะฉันแกร่งกว่านาย! อย่าให้ตอนที่ฉันไปโลกบู๊โบราณต้องไปเก็บศพนายแล้วกัน!”
เฉิงชิ่งมองค้อนตาอย่างแรง เจ้าหมอนี่ดูขึ้นมาเหมือนสุภาพอ่อนโยน แต่พูดจาช่างใจร้ายเหลือเกิน
“ฉันเตรียมเหล้าไว้ให้นายแล้ว เดี๋ยวให้เขาไปเอา ไปล่ะ!”
เฉิงชิ่งโบกมือลา หมุนตัวออกไปอย่างสง่างาม
เย่เทียนมองด้านนอกแวบหนึ่งแล้ว พบเจอและแยกจากเดิมเป็นเรื่องปกติ ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างเขากับเฉิงชิ่งก็พูดไม่ได้ว่าเป็นมิตรภาพอันบริสุทธิ์อะไร แต่ที่ไม่อาจปฏิเสธคือ เฉิงชิ่งเพื่อนคนนี้เขายอมรับแล้ว
“ฮู้!”
เย่เทียนถอนหายใจยาวๆ ลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจทีหนึ่ง จากนั้นหัวเราะแล้วเดินออกมา
นานาโกะยังคงอยู่ในห้องลับไม่ได้ออกมา แต่ทุกวันเย่เทียนจะไปตรวจดูรอบหนึ่ง สัมผัสสัญญาณชีพของเธอสักหน่อยแล้วปล่อยเธอฝึกฝนต่อไป
พรสวรรค์ที่เกี่ยวกับนานาโกะเย่เทียนไม่ได้สงสัยสักนิด ถ้านานาโกะฟื้นขึ้นมาตอนนี้กลับจะทำให้เขารู้สึกแปลกใจแล้ว
“นายพลเย่! กองกำลังพิเศษรวมตัวเรียบร้อยแล้วครับ!”
เย่เทียนพยักหน้าให้ เวลานี้ยี่สิบคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาก็เป็นสมาชิกทั้งหมดของกองกำลังพิเศษแห่งเมืองอิงเฉิง
เมื่อเทียบกับครั้งก่อน หลังจากผ่านการพังทลายสำนักมังกรดำน้ำภารกิจครั้งนี้มาแล้ว คนกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถึงที่สุด
หลี่เฉิงเถียนยักคิ้วขึ้นแล้ว จากนั้นหันหน้าทันทีแล้วเดินไปตรงด้านหน้าก้อนหิน ถกแขนเสื้อขึ้น ย่อตัวลงครึ่งหนึ่ง มือทั้งสองข้างกอดก้อนหินไว้แน่น
ในใจทุกคนรู้ดีมาก ในเมื่อเป็นของที่ถูกเย่เทียนระบุเอาไว้ได้ หินก้อนนี้ย่อมไม่เหมือนกับก้อนหินทั่วไปแน่
แต่พวกเขาเชื่อว่านี่ยังไม่เกินแรงพวกเขาหรอก!
“ขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”
ทันใดนั้นหลี่เฉิงเถียนตะคอกขึ้นทีหนึ่ง ส่วนหลังคอยิ่งมีเส้นเลือดนูนขึ้น เห็นได้ชัดว่าใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดแล้ว
แต่หินก้อนนั้นกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย แม้กระทั่งไม่มีสั่นไหวเบาๆ เลยด้วยซ้ำ ฉากนี้ทำให้อดคนสงสัยไม่ได้ว่าก้อนหินใหญ่นี้ยังฝังส่วนหนึ่งเอาไว้ใต้ดินอีกหรือเปล่า!
“เป็นอย่างไรบ้าง? แบบนี้ก็ไม่ไหวแล้ว? ถ้าถูกก้อนหินใหญ่ทับไว้ทั้งตัวจะใช้การไม่ได้เลยหรือเปล่า?”
เย่เทียนพูดจาแบบใช้น้ำเสียงเยาะเย้ยอยู่ด้านข้าง
นี่ยิ่งปลุกใจเหล่าสมาชิกกองกำลังพิเศษที่ซื่อตรงกลุ่มนี้มากกว่าเดิม
เพียงแค่กล้าโมโหไม่กล้าพูด!
หลี่เฉิงเถียนอาศัยความพยายามสุดท้ายในที่สุดทำให้ก้อนหินใหญ่ขยับสักนิดแล้ว แต่นี่ได้เพียงพิสูจน์ว่าก้อนหินใหญ่ไม่ได้มีส่วนอื่นถูกฝังไว้ในดินเท่านั้นเอง
ในสายตาของหลี่เฉิงเถียนปรากฏแววความงงงวยอันเข้มข้นขึ้นกะทันหัน
เย่เทียนกลับไม่ได้พูดจาปากจัดอีก แต่ว่าเดินเข้ามาจับส่วนบนก้อนหินไว้มือเดียว จากนั้นยกมันขึ้นมาทีละนิด
ฉากนี้ทำให้ทุกคนล้วนตื่นตกใจกันหมด
จากนั้นเย่เทียนออกแรงฉับพลัน แล้วยกหินก้อนใหญ่ที่ถูกเขาขว้างไปกลางอากาศไว้ด้วยมือข้างเดียว
แม้ว่าอยู่ภายใต้น้ำหนักแบบนี้ พื้นใต้เท้าของเย่เทียนคาดไม่ถึงไม่มีจมลงสักนิด นี่เห็นได้ชัดว่าเกินกว่าขอบเขตของคนแล้ว ถึงเป็นอินเจิ้งที่อยู่ในฐานะผู้ยอดฝีมือขั้นฟ้าหางตาก็กระตุกขึ้นกะทันหัน
นายพลเย่ออกแรงโหดเกินไปบ้างแล้วหรือเปล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...