เย่เทียนหันกลับไปมองโอฮาระ ฟุคุริ เมื่อเทียบกับคาวาอิยูแล้ว บนร่างของเขาไม่มีจิตวิญญาณต่อสู้ใดๆทั้งสิ้น อีกทั้งท่าทีของเขาก็ไม่ต่างจากคนทั่วไป
นี่คือสิ่งที่เย่เทียนให้ความสนใจมากที่สุด
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ที่ผมมาก็เพื่อมาหาองเมียวจิอย่างพวกคุณเนี่ยแหละ”
เย่เทียนพูดจบก็หันไปมองโอฮาระ ฟุคุริพลางหรี่ตา“ผมไม่อยากสนใจเหตุผลอะไรมากมายหรอกนะครับ แต่คนของพวกคุณไปที่หุบเขาหนอน แถมยังลงมือสู้กับผมด้วย แน่นอนว่าผมจะต้องทวงความยุติธรรม!”
“นายมันจองหองจริงๆ!”
คาวาอิยูทำเสียงหึ“กลัวแค่ว่าคุณจะมาได้แต่กลับไม่ได้น่ะสิ”
“คุณจะลองดูก็ได้นะครับ!”
ทั้งสองฝ่ายพูดตอบกันไปมาจนดุดันระอุขึ้นเรื่อยๆ โอฮาระ ฟุคุริขมวดคิ้วเป็นปม เป็นครั้งแรกที่เขาเผยท่าทีไม่พอใจออกมาแต่ไม่นานเขาก็ปิดยังมันไว้อย่างรวดเร็ว
เขาองไปที่คาวาอิยูอย่างเบื่อหน่าย โอฮาระ ฟุคุริค่อยๆถอยหลังออกไป
“ฉันได้ยินมาตลอดว่าที่ประเทศจีนมีผู้แข็งแกร่งมากมาย แต่ฉันกลับไม่มีโอกาสได้ประลองเหล่าผู้แข็งแกร่ง จุดนี้ ฉันไม่พอใจ!”
คาวาอิยูนำขลุ่ยหยกมาวางไว้บริเวณริมฝีปาก“ตอนนี้ฉันอยากจะลองดู หวังว่านายจะไม่ใช่คนมีชื่อเสียงที่ผู้คนชื่นชมกันไปเองนะ!”
เย่เทียนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่กวักมือเรียกนากาตะ จุนเหอที่อยู่ไกลๆ วิญญาณแดงไม่พัวพันกับแสงน้ำเงินอีกต่อไป ค่อยๆกลับสู่ฝ่ามือของเย่เทียน และระเบิดออกไป
“ชี่กระบี่แข็งแกร่งจริงๆ!แต่ลำพังอาศัยมัยอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ!”
คาวาอิยูสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นก็เสียงขลุ่ยก็ดังขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนได้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้แบบนี้ เสียงขลุ่ยนั่นเป็นการจู่โจมอย่างหนึ่งของคาวาอิยู และสิ่งที่น่าแปลกของเสียงก็คือยากที่จะป้องกัน
ตอนนี้เย่เทียนเป็นรู้สึกเพียงอ่างเดียวก็คือมีเสียงเวทมนต์อุดหูไว้
คลื่นเสียงของขลุ่ยพังทลายชี่ทิพย์ของเขาทันที จนปะทะเข้ากับหัวใจของเขา ทำให้เขารู้สึกหน่วงๆตรงหน้าอก รู้สึกเวียนหัวคลื่นไส้
เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้บนตัวของเย่เทียน
และคาวาอิยูที่ได้เห็นฉากนี้ก็อดที่จะแสยะยิ้มออกมาไม่ได้ เขาไม่ปิดบังการเย้ยหยันของตัวเองเลย
ชี่ทิพย์ของเย่เทียนไม่ค่อยเสถียรเมื่ออยู่ภายใต้เสียงเวทมนต์ แสงสีทองบนร่างกายของเขาเริ่มเกิดการสั่นไหว
“หึๆ อ่อนหัดจริงๆ!”
คาวาอิยูหยุดทันที แล้วเริ่มเย้ยหยัน แต่ในขณะที่เย้ยหยันอยู่นั้นก็ลืมที่จะพูดกระทบนากาตะ จุนเหอด้วย
“คิดไม่ถึงว่าคนแบบนี้จะไล่ล่าทำให้แกวิ่งหางจุกตูดได้ แกมันเป็นตัวน่าอัปยศขององเมียวจิจริงๆ!”
นากาตะ จุนเหอหน้าเขียวทันที แม่งเอ้ย แกยังไม่ได้เห็นว่าเย่เทียนเก่งขนาดไหน!ซื่อเสินของตัวเองอย่างน้อยก็ไม่ถือว่าเป็นด้อย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าของเย่เทียนเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ลงมือด้วยซ้ำ!
ช้าก่อน!เมื่อกี้เย่เทียนแข็งแกร่งขนาดนั้น ทำไมตอนนี้ถึงอ่อนแอล่ะ?หรือว่าเมื่อกี้จะเป็นภาพลวงตา?
ไม่สิ!ถ้าเป็นแค่ตัวเขาเองมันก็สมเหตุสมผลแล้วที่เขาจะสงสัย แต่ปัญหาก็คือเมื่อกี้เทพนักดาบก็อยู่ในเหตุการณ์!
เซนกิยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกเย่เทียนหักดาบเป็นท่อนๆแล้ว เย่เทียนจะอ่อนแอขนาดนั้นเชียวหรอ?
ปัญหามันเกิดขึ้นตรงไหนนะ?
นากาตะ จุนเหอเพียงแค่ครุ่นคิดจู่ๆก็ตรัสรู้ จึงหันไปมองรอยยิ้มเย็นชาของคาวาอิยูอย่างรวดเร็ว
โอฮาระ ฟุคุริที่ยืนอยู่ข้างๆคาวาอิยูจู่ๆก็หัวเราะออกมา“ระหว่างนะ!”
วิญญาณแดงปรากฏขึ้นตรงหน้าของคาวาอิยู ชี่กระบี่พุ่งออกมาแต่ก็หนาแน่นมาก จนกระทบเข้าไปขลุ่ยหยกทันที จนเกิดเสียงสะท้อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่