“เรื่องของโชค? คุณเชื่อเรื่องอย่างนี้ด้วยเหรอ?”
เย่เทียนหรี่ตาและพูดเสียงเย็นชา
“มีเรื่องบางอย่างหากคุณไม่เคยเห็นคุณจะไม่เชื่อเลย และกระดาษทองเป็นกุญแจในการปลดล็อกโชคชะตา เพียงแต่ว่าเรื่องแบบนี้แม้ว่าคุณจะรู้แต่ก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว
หลังจากหย่งเย่พูดจบก็เกี่ยวนิ้ว
“ตอนนี้ทุกสิ้งที่แกอยากรู้ฉันก็ได้บอกทุกอย่างที่แกอยากรู้แล้ว และแกก็ไปตายอย่างสงบได้แล้ว”
“ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่ตัวเองได้สิ่งของที่ไม่สมควรจะได้ในตอนที่ตัวเองยังแข็งแกร่งไม่พอ ถ้าไม่โลภมากก็จะไม่เกิดวิบัติ”
กลางคืนมาถึงกะทันหัน
ทั้งที่ข้างนอกแสงแดดยังจ้าอยู่ แต่จู่ๆท้องฟ้าก็มืดครึ้ม
ไม่ใช่เพราะเมฆปกคลุม แต่เพราะหย่งเย่ได้เปลี่ยนกฎเกณฑ์ของสวรรค์โดยตรง! และนี่ก็เป็นการสำแดงพลังฟ้าดินอย่างหนึ่ง
ความสามารถเช่นนี้เย่เทียนทำไม่ได้เลย! แม้ว่าเขาจะสามารถสำแดงพลังฟ้าดิน แต่เขาก็แค่ใช้มันเท่านั้น ไม่ได้ควบคุมมันโดยตรงเหมือนที่หย่งเย่ทำ!
ทันทีที่ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ ก็จะรู้ว่ามีหรือไม่
หย่งเย่แข็งแกร่งจริงๆ! แข็งแกร่งจนถึงขั้นทำให้รู้สึกตกใจจนหายใจลำบาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ชอบคิดร้ายคนอื่น! ไม่รู้จริงๆว่าเขาเจอประสบการณ์อะไรถึงกับทำให้เขากลายเป็นคนแบบนี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หย่งเย่ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ และรับมือยากกว่า!
อย่างน้อยสิ่งที่เย่เทียนสามารถทำได้คือสู้สุดใจเพื่อพยายามหาโอกาสที่จะมีชีวิตรอดนอกจากนี้แล้วไม่มีวิธีใดๆที่จะโต้ตอบหย่งเย่ที่อยู่ตรงหน้า
แต่การออกดาบครั้งนี้เขายังมีโอกาสที่จะรอดไหม?
ตัวเย่เทียนเองก็ไม่รู้ และเขาก็ไม่แคร์
พยายามสู้สุดชีวิตไหนเลยจะมีเวลาคิดที่จะถอยกลับ แต่ดูเหมือนว่าหย่งเย่จะดูออกว่าเย่เทียนกำลังสะสมพลัง และเขาก็ไม่คิดที่จะให้เวลาเย่เทียนมากเกินไป!
ในฐานะที่เป็นคนชอบคิดร้ายเขารู้ชัดเจนมากว่าอะไรคือสาเหตุที่คนร้ายมักจะตายเพราะมีเหตุผลและพูดมากเกินไป!
“ไม่ต้องโอ้อวด แม้ว่านายจะออกดาบนั้นได้แต่ก็ต้องใช้เวลาในการสะสมนาน แต่สำหรับฉัน จะไม่ให้โอกาสนั้นกับนาย”
“แต่ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่ง ฉันจะให้สัญญากับนายหนึ่งข้อ ฉันจะให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับนายไปเป็นเพื่อนกับนาย คนอย่างฉัน พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น!”
เสียงของหย่งเย่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมเย็นชา และที่เขาพูดเช่นนี้ก็เพื่อต้องการรบกวนสภาพจิตของเย่เทียน
ตราบใดที่สภาพจิตของเย่เทียนเกิดการผันผวน ก็ไม่แน่ตัวเองยังเหลือเรี่ยวแรงอยู่ ในเมื่อดีใจขนาดนี้ไฉนจึงไม่ไปทำล่ะ?
“ลองรับรู้กับคืนที่มืดมิด ฉันคิดว่านายจะชอบความรู้สึกนี้” หย่งเย่กระซิบเบาๆ แล้วเย่เทียนรู้สึกว่าดวงตาของเขามืดมน และมองไม่เห็นอะไรเลย
ในความมืดมิดเย่เทียนสูญเสียการตัดสินใจ และไม่สามารถจับตำแหน่งของหย่งเย่ได้เลย
“เพี๊ยะ!”
เสียงเบาๆดังขึ้น เย่เทียนรู้สึกว่าขาขวาของเขาชา จากนั้นความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็มาถึง
แต่ถึงอย่างนั้นเขายังคงยืนตัวตรง พยายามฝืนร่างกายอย่างสุดฤทธิ์เพื่อสะสมพลังงาน และยาทองที่อยู่ในร่างกายภายใต้การกดดันอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดร้อยร้าวเล็กๆ
นี่เป็นสัญญาณเตือนที่อันตรายมาก
ถ้าหากมีผู้บำเพ็ญเห็นฉากนี้ด้วยคงประหลาดใจมาก
คุณต้องรู้ว่ายาทองคือชีวิตของผู้บำเพ็ญ เมื่อยาทองแตกสลายเป็นไปได้มากที่จะทำให้คนๆนั้นตกต่ำทันที และแนวทางที่เย่เทียนทำในขณะนี้โดยพื้นฐานก็ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย!
“หือ? ถึงกับสามารถสะสมพลังงานๆ! ช่างแข็งแกร่งจริงๆ!”
และเสียงเยาะเย้ยที่ไม่ได้ปิดปังของหย่งเย่ก็ดังขึ้น จากนั้นเย่เทียนรู้สึกว่าหน้าอกของเขาชา และมีเลือดไหลออกมา
แต่เขาก็ยังไม่หยุด ภายใต้ความพยายามของเขา ดาบยักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขาค่อยๆก่อตัวขึ้น
“น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ! ฉันอยากรู้ว่านายจะอดทนได้นานแค่ไหน! อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ!” หย่งเย่ชื่นชมในความอัศจรรย์ แต่เขาก็ลงมือโดยไม่ลังเล
แต่ไม่ใช่เพื่อฆ่าเย่เทียน แต่เหมือนได้รับความอัปยศอดสู
คราวนี้เป็นขาซ้าย และเล็บของหย่งเย่ก็ฉีกต้นขาของเย่เทียนออกมาเป็นชิ้นทันที เผยให้เห็นกระดูกสีขาวข้างใน!
แต่ครั้งนี้มันเจ็บปวดเกินไป และดาบยักษ์บนหลังของเย่เทียนก็สั่นสะท้านสองสามครั้ง ราวกับว่ามันเหนื่อยล้ามาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่