ใบหน้าของเย่เทียนหดหู่ ดาบในมือได้ชี้ไปที่หย่งเย่
ในเวลานี้ในที่สุดเขาก็เห็นใบหน้าของหย่งเย่อย่างชัดเจน
ร่างสูงผอมเพรียว ใบหน้ายาวและนัยน์ตาเศร้าสร้อย ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นคนๆนี้เขาจะไม่คิดว่าบุคคลนี้เป็นหัวหน้าองค์กรหย่งเย่จริงๆ แต่ดูเหมือนเป็นเยาวชนวรรณคดีที่เศร้าสร้อย
ทันใดนั้นถูกล็อกโดยชี่จีของเย่เทียน เห็นได้ชัดว่าหย่งเย่ก็คิดไม่ถึงว่าจะมีผลลัพธ์เช่นนี้
“ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินนายต่ำไปนะ!”
หย่งเย่ถอนหายใจเบาๆ “ดูเหมือนว่าตอนนี้ถ้าจะฆ่านายมันจะเป็นเรื่องที่ยากมาก”
หย่งเย่พูดกับตัวเอง โดยมองว่าเย่เทียนไม่มีความสำคัญอะไรเลย
“ฉันบอกแล้ว วันนี้นายต้องตาย!”
หย่งเย่เลิกคิ้ว “นายนี่มั่นใจมากนะ! ต้องการจะฆ่าฉันเหรอ?”
“ลองดูแล้วจะรู้เอง!” เย่เทียนก็ไม่พูดไร้สาระ พอวิชากระบี่เปลี่ยน ดาบยักษ์ก็ขยับ
คราวนี้เย่เทียนไม่เสียดายพลังชี่แท้ที่อยู่ในร่างกาย ไม่สนใจเกี่ยวกับพลังการกลืนกินของดาบยักษ์ แต่เขาพยายามสุดชีวิตเพื่อที่จะส่งมันเข้าด้านใน ด้วยวิธีนี้ดาบยักษ์ที่เดิมทีเคลื่อนไหวช้าครั้งนี้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
แต่ว่าการกระทำเช่นนี้ผลที่ตามมาคือร่างกายของเย่เทียนเริ่มปรากฏรอยร้าวเล็กๆขึ้น
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นผลมาจากการใช้พลังชี่แท้มากเกินไป
และผลที่ตามมาอีกประการหนึ่งก็คือพื้นที่นี้เริ่มที่จะพังทลายลง
ฟ้าถล่มทลายบางทีมีบางคนอาจไม่ได้เจอทั้งชีวิต แต่ตอนนี้ปรากฏตัวแล้ว
พื้นที่รอบๆดาบยักษ์เริ่มเกิดการยุบและผิดรูปอย่างมาก และขอบพื้นที่ที่ผิดรูปเริ่มมีงูทิพย์สีน้ำเงินจำนวนนับไม่ถ้วนเต้นรำอยู่รอบๆ หากมองใกล้ๆจะพบว่างูทิพย์เหล่านั้นที่เคลื่อนไหวก็คือสายฟ้า
“นี่นายกำลังเล่นกับไฟ! นายไม่รู้เหรอว่าทำแบบนี้มันหมายถึงอะไร!”
หย่งเย่ขมวดคิ้ว ไม่พอใจกับปฏิกิริยาของเย่เทียน
“สามารถฆ่าแกก็พอแล้ว!”
ดวงตาของเย่เทียนเริ่มเต็มไปด้วยเส้นเลือด และพูดแต่ละคำด้วยความยากลำบาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาใช้พลังงานมาก
“ไอ้บ้า!”
หย่งเย่ตอบอย่างแผ่วเบาด้วยคำสองคำ “ถ้าแกอยากตายฉันจะไม่ขัดขวาง แต่น่าเสียดายที่ฉันยังต้องฟันฝ่าอุปสรรคอีกมากมาย!”
หลังจากพูดจบหย่งเย่ก็เงยหน้าขึ้นและเหลือบมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ “ฉันมีลางสังหรณ์ พวกเราจะได้พบกันอีก!”
เมื่อมองเย่เทียนอย่างลึกซึ้ง ร่างกายของหย่งเย่เริ่มจาง
มุมปากของเย่เทียนมีเลือดไหลออกมา “ไอ้เลวที่สมควรตาย! หยุดอยู่ตรงนี้!”
เย่เทียนตะโกนอย่างไม่เต็มใจ แต่ไม่รู้ว่าหย่งเย่ใช้วิธีใด ถึงกับปลดล็อกสติที่เขาควบคุมเอาไว้ และหนีไปได้! และสิ่งที่ทำให้เย่เทียนอึดอัดมากขึ้นก็คือเขาไม่สามารถหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ทำได้แค่ดูเขาจากไป!
“ตูม!”
ดาบยักษ์สูญเสียเป้าหมาย เย่เทียนรู้สึกว่าภายในร่างกายเกิดการสูญเสียจนทดแทนไม่ได้ จากนั้นก็ไม่สามารถประคองไว้ได้อีกต่อไป และดาบยักษ์ก็ระเบิดขึ้นมาทันที
เสียงดังสนั่นทำให้ทั่วท้องฟ้าสั่นสะเทือน
“ใคร! ใครช่างใจกล้าเช่นนี้! กล้าที่จะทลายท้องฟ้าต่อหน้าเทพองค์นี้!”
เสียงตะโกนเบาๆดังขึ้น แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มีเพียงเย่เทียนเท่านั้นที่ยังคงมีสติอยู่ เฝิงเจิ้นเหอและคนอื่นๆต่างก็สลบไปกับแรงสั่นสะเทือนของดาบยักษ์เมื่อสักครู่!
เย่เทียนเงยหน้าขึ้นอย่างลำบาก ในเวลานี้เขารู้สึกเหนื่อยล้ามาก
“ฮึ่ม? เป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเหรอ? ไอ้หนุ่ม! ตายแล้วหรือยัง?””
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่