ในเวลานี้ สามเซียนตงเหอ มีเสถียรภาพมากขึ้น
สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดก็คือเย่เทียนจะโจมตีพวกเขาโดยตรงก่อนที่พวกเขาจะยืนหยัดอย่างมั่นคง!
แต่จากข้อมูลที่พวกเขามีในตอนนี้ หมัดเมื่อครู่นี้นั้นไม่ว่าจะเป็นใครในพวกเขาก็ล้วนรับไม่ไหว!
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาดีใจก็คือเย่เทียนนั้นชะล่าใจเกินไป จนทำให้พวกเขามาอยู่ในตำแหน่งของตนเองได้อย่างราบรื่น
รอยยิ้มที่ดุร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายชราผมแดง “เย่เทียน! นายหยิ่งยโสเกินไป! คิดหรือว่าตัวเองไม่มีใครเทียบได้จริงๆ! วันนี้ฉันจะแสดงทักษะของสามเซียนตงเหอให้นายได้เห็น!”
“สามเซียนตงเหอ!”
ทั้งสามคนตะโกนออกมาพร้อมกัน และเย่เทียนก็รู้สึกว่าโลกเบื้องหน้าเขาเริ่มหมุนวนไป
การหมุนตัวนั้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะดึงเขาออกจากที่นี่ทันที
“ฮ่าฮ่า! เป็นไง? ความรู้สึกเหมือนวิญญาณออกจากร่างคงไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยสินะ!”
“เย่เทียน นายมันหยิ่งผยองเกินไป! คิดหรือว่าฉันและคนอื่นๆ ที่อยู่ในยุทธภพมาหลายปีจะไร้ฝีมือใดๆ!”
เมื่อสามเซียนตงเหอ เห็นเย่เทียนเข้ามาในค่ายกล พวกเขาก็หัวเราะลั่นทันที ราวกับว่าพวกเขาจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนแล้ว
"ความรู้สึกนี้...ดูมีอะไรอยู่บ้างนี่!"
คิ้วของเย่เทียนคลายออก
วิญญาณออกจากร่างบ้าบออะไร? นี่มันก็เป็นแค่เพียงการแข่งขันของจิตตานุภาพ!
จุดที่น่าสนใจที่สุดก็คือที่นี่กลับเหมือนค่ายกลเพื่อทดสอบว่าจิตใจของบุคคลนั้นมั่นคงหรือไม่ แต่ไม่ใช่ค่ายกลเพื่อการโจมตี
คาดว่าก่อนหน้านี้สามเซียนตงเหอคงจะประสบความสำเร็จได้โดยการจับจุดที่จิตใจอันไม่มั่นคงของอีกฝ่ายหนึ่งก็เท่านั้น อย่างไรก็ตามกระบวนท่านี้สำหรับเย่เทียนแล้วออกจะไร้เดียงสาไปอยู่บ้าง
หากเราเปรียบเทียบระดับจิตตานุภาพ เย่เทียนสามารถเชิดหน้าได้อย่างภาคภูมิ
แม้ว่าเย่เทียนจะยังหนุ่ม แต่สิ่งที่เขาเคยประสบมานั้นล้วนเป็นเรื่องหายากมากแม้แต่ในโลกบู๊โบราณ
"เปิดออก!"
ทันใดนั้น เย่เทียนก็ลืมตาขึ้นและส่งฝ่ามือหนึ่งออกไปพร้อมตะโกนเสียงดัง
พื้นที่ลวงตาทั้งหมดสั่นสะเทือนไปในทันใด ราวกับว่ามันกำลังถูกเขย่าโดยมือของเขาที่ใหญ่ปกคลุมท้องฟ้า
“เกิดอะไรขึ้น! เจ้านี่แทบจะเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว!”
"รีบทำให้ค่ายกลมีเสถียรภาพเร็วเข้า! เหล่าซาน ใช้เพลิงไร้อนันต์!"
เปลวไฟสีดำปกคลุมเต็มไปทั่วทั้งพื้นที่ทันที ราวกับว่ามันกำลังเผาทั้งตัวของเย่เทียน
แต่เย่เทียนกลับหัวเราะ
"ใช้ทักษะไปตอนประลองกับนักกลั่นยา ต้องบอกว่า พวกนายทั้งโง่ทั้งน่าเอ็นดูเสียจริง!" เย่เทียนเอ่ยจบก็ชี้นิ้วไปที่เปลวไฟสีดำ
สิ่งที่สามเซียนตงเหอไม่คาดคิดเกิดขึ้นแล้ว
เพลิงไร้อนันต์นั้นถูกรวบรวมไว้ที่ปลายนิ้วของเย่เทียน อีกทั้งยังอยู่เหนือการควบคุมของพวกเขาด้วย!
"เปลวไฟนี้ยังมองไม่เห็นเลย!"
เย่เทียนขยับนิ้วของเขา จากนั้นเปลวไฟบนนิ้วของเขาก็ลุกวาบขึ้นอย่างรุนแรง
การกระทำนี้เกือบทำให้เพลิงไร้อนันต์ตกใจกลัวจนหัวใจวาย
สิ่งนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อความสนุกสนาน ในฐานะผู้สร้างเปลวไฟ พวกเขารู้ถึงความน่ายำเกรงของเปลวไฟเป็นอย่างดี หากเกิดการผันผวนแค่เล็กน้อยจริง ๆ พวกเขาก็ไม่มีแรงจะต้านทานได้เลย!
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเขาถึงกับสูญเสียความสามารถในการควบคุมเปลวไฟไปแล้ว!
ผู้อาวุโสที่สุดในสามเซียนตงเหอ สีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว นั่นเพราะดวงตาของเย่เทียนมองมาที่เขาแล้ว
นี่มันปีศาจร้ายอะไรกันเนี่ย ถึงกับสามารถฝึกฝนจนมาถึงขั้นนี้ได้ท่ามกลางสถานที่ภายนอกที่ชี่ทิพย์ขาดแคลนแบบนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการควบคุมพลังที่แทบจะบดขยี้พวกเขา
คาดว่าผู้คนภายนอกคงยากจะเข้าใจความรู้สึกของสามเซียนตงเหอในเวลานี้
กระบวนท่าที่ดีที่สุดของตนถูกคนควบคุมไปแล้ว แล้วการต่อสู้ครั้งนี้จะทำยังไง?
เดิมทีพวกเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมและวางแผนที่จะบดขยี้เย่เทียนจากนั้นก็นำทรัพยากรการฝึกฝนพวกนั้นมา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะพังลงแล้ว พังลงอย่างรุนแรง!
“ฉันว่ามีบางเรื่องพวกเรายังเจรจากันอีกทีได้!”
ต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต สามเซียนตงเหอก็เริ่มเจรจาขึ้นมา
“เจรจา? พาคนบุกมาถึงที่หน้าประตูสำนักฉัน มาตอนนี้อยากจะเจรจา พวกนายช่างมั่นอกมั่นใจในตัวเองกันซะเหลือเกินนะ!”
เย่เทียนยิ้มเหยียดหยามที่มุมปาก เขาเหลือบมองดูสามเซียนตงเหอ จากนั้นก็กระแอมอย่างแผ่วเบาและพูดว่า "ก็ใช่ว่าจะเจรจาไม่ได้ พวกแต่พวกนายคิดว่าอะไรกันที่จะสามารถซื้อชีวิตของนายได้?"
เปลวไฟบนระหว่างนิ้วของเย่เทียนได้ระเบิดออกมาเล็กน้อย ชี่ทิพย์พุ่งเข้ามาที่เขาในทันที
น่าแปลกที่ชี่ทิพย์เหล่านี้กลับวนข้ามเย่เทียนไปทันที แต่กลับตรงดิ่งไปที่สามเซียนตงเหอ
“ย่า!”
ทั้งสามคนไม่กล้าที่จะประมาท พวกเขาร้องตะโกนจากนั้นก็ใช้กำแพงชี่ปิดกั้นไว้ตรงหน้า
มันเป็นคลื่นเปลวเพลิงอันหนึ่ง แต่การป้องกันของพวกเขาก็เกือบจะถึงขั้นพังทลาย กำแพงชี่รอบๆ ตัวสั่นไหวสองสามครั้ง แต่ยังโชคดีที่ต้านเอาไว้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่