ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 134

ในความเป็นจริง ด้านในแผนการที่หวางซานปรึกษากับจางเวย เดิมทีไม่มีบทละครของกงหย่วน

เพียงแต่ หลังจากที่หวางซานออกไป จางเวยได้รับโทรศัพท์ของอามาจากเมือง รับรู้ว่ากงหย่วนจะเข้ามา ถึงเพิ่มบทละครของกงหย่วนแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่างไรเสียบทละครที่ปลอมเป็นตำรวจ ไม่มีตำรวจจริงสักคนสองคนจะผ่านไปได้อย่างไรกันล่ะ?

ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม ตอนที่เย่เทียนถูกนักแสดงกลุ่มหนึ่งยัดเข้าไปในรถยนต์ และไม่รู้ว่าจะพาไปที่ไหนกันแน่ บนถนนเจริญคึกคักที่อยู่ไกลอีกด้านหนึ่ง

เหลียงเยว่หรูเพิ่งเดินออกมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งกับเพื่อนสาวอย่างพออกพอใจมาก รถตู้คันหนึ่งก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเธอแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

ดึงประตูรถออก ผู้ชายที่ใส่หน้ากากหลายคนเดินออกมาเป็นแถว วิ่งมาทางเหลียงเยว่หรูแบบเป้าหมายชัดเจน

เหลียงเยว่หรูรู้สึกหวาดผวา รู้สึกถึงความผิดปกติโดยจิตใต้สำนึก มีความคิดอยากถอยหนี แต่ก็สายไปเสียแล้ว!

ผู้ชายสวมหน้ากากหลายคนแบ่งงานกันชัดเจน ขวางคนก็ขวางคน จับคนก็จับคน แทบจะเป็นช่วงเวลาชั่วพริบตาเดียวก็ยัดเหลียงเยว่หรูเข้าในรถตู้ได้แล้ว

“ไป!”

ด้านในรถ ผู้ชายที่เป็นหัวหน้ารีบร้อนสั่ง

ผู้ชายคนนี้ คือหัวหน้านำทีมที่จางเวยจ้างบอดี้การ์ดมาใหม่ กู่หย่ง!

รถตู้รีบแล่นออกไปอย่างรวดเร็วทันที บนถนนใหญ่ที่เจริญคึกคักเหลือเพียงเพื่อนสาวของเหลียงเยว่หรูที่กรีดร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัวแบบนั้น

......

ในอาคารแห่งหนึ่งที่ย่านชานเมืองเจียงหนัน

เย่เทียนถูกพามาภายในห้องที่เหมือนเป็นห้องสอบสวนแห่งหนึ่งอย่างมีเกียรติอีกครั้ง

สภาพแวดล้อมที่มืดครึ้ม อุปกรณ์ติดตั้งง่ายๆ หยาบๆ บนผนังขาวเขียนอักษรแปดตัวสีแดงสดเอาไว้: เปิดเผยผ่อนปรน ขัดขืนโทษหนัก(คนที่ทำผิดเมื่อสารภาพจะจัดการแบบปรานี แต่ถ้าปฏิเสธขัดขืนจะลงโทษหนัก)

สำหรับเย่เทียนที่เคยเข้าไปในสถานีตำรวจนั้น นี่เดิมทีไม่ใช่รูปแบบของสถานีตำรวจ แต่ทว่ามากกว่านั้นยังให้ความรู้สึกเป็นห้องสอบสวนยุคแปดศูนย์ เหมือนความรู้สึกแบบที่เคยเจอมาในละครเต็มๆ

ดังนั้นเย่เทียนจึงไม่ค่อยแน่ใจว่า ระหว่างทางทำตามข้อเรียกร้องของชายกำยำชุดสูทเหล่านั้นให้สวมผ้าคลุมหัวดำมืดไว้ รอตอนที่เส้นสายตาของเขากลับมาเป็นดังเดิม ตัวเองก็มาอยู่ด้านในห้องนี้แล้ว

แน่นอนว่า ด้วยความสามารถของเย่เทียนสามารถไม่สนใจชายกำยำชุดสูทสามสี่คนนี้ได้ เพียงแค่อยากจะดูหน่อยว่าตัวการเบื้องหลังสรุปแล้วเล่นเล่ห์กลอะไรอยู่ เขาจึงให้ความร่วมมือด้วย

เย่เทียนนั่งลงบนเก้าอี้หาวอยู่อย่างเบื่อหน่ายมาก ตั้งแต่เขาเข้ามาถึงตอนนี้ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงได้ แต่เดิมทีไม่มีใครปรากฏตัวสักคน

เย่เทียนที่คุ้นเคยกับอุบายนี้รู้ดีว่าอีกฝ่ายอยากจะละเลยเขาสักหน่อย จึงไม่ได้รีบร้อนเท่าไร ถือว่าเป็นการนอนพักก็ได้

ตึง!

ระหว่างที่เย่เทียนสะลึมสะลือ ประตูแผ่นเหล็กใหญ่ก็โดนคนผลักออกอย่างแรงจากด้านนอก เกิดเสียงดังสั่นสะเทือนแก้วหูทีหนึ่ง

ผู้ชายสองคนที่สวมชุดเครื่องแบบตำรวจก้าวใหญ่ๆ เดินเข้ามาแล้ว นั่งอยู่ตำแหน่งตรงข้ามของเย่เทียน จ้องเย่เทียนด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร

สองคนที่เข้ามาถือว่าเป็นคนคุ้นหน้า ล้วนเข้าร่วมการจับกุมเย่เทียนก่อนหน้านี้ด้วย

คนหนึ่งคือพี่ฝางชายกำยำหัวล้าน ส่วนอีกคนหนึ่งคือชายกำยำผมสกินเฮดที่ล้มจนฟันหน้าหักซี่หนึ่ง

ความแตกต่างเพียงหนึ่งเดียว อยู่ที่สองคนนี้ต่างเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดหนึ่งแล้ว เปลี่ยนจากเสื้อสูทเมื่อสักครู่เป็นชุดตำรวจมีเอกลักษณ์ชุดหนึ่ง รับรองสถานะของตำรวจแล้ว

แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงความคิดเข้าข้างตนเองของเย่เทียน สำหรับพี่ฝางและเจ้าผมสกินเฮดสองคนนี้ที่เป็นนักแสดงตัวประกอบมาหลายปี นี่ดูปกติเสียยิ่งกว่าอะไรแบบไม่ต้องสงสัย

ป้าบ!

ไม่รู้ว่าถือโอกาสระบายความโกรธแค้นที่ฟันหน้าหักไปหรือเปล่า ชายกำยำผมสกินเฮดตบบนโต๊ะอย่างแรงทีหนึ่ง

แต่เย่เทียนกลับไม่สะทกสะท้านโดยสิ้นเชิง พิงหลังที่เก้าอี้แบบเฉื่อยเนือย มุมปากวาดรอยยิ้มที่แปลกประหลาดขึ้น

เย่เทียนไม่ได้ตกใจ แต่กลับทำเอาพี่ฝางตกใจยกใหญ่ ถลึงตาใส่ชายกำยำผมสกินเฮดอย่างโหดร้ายแล้ว

ล้วนเป็นนักแสดงตัวประกอบที่มีความฝันเต็มอกเหมือนกัน พี่ฝางไม่รู้ชัดได้ที่ไหนว่าเจ้าหมอนี่จงใจทำ เกรงว่าเป้าหมายคงอยากเพิ่มฉากหน้ากล้องสักหน่อยมั้ง!

พิจารณามาถึงตรงนี้ พี่ฝางเปลี่ยนเป็นสีหน้าโหดเหี้ยม ยื่นมือเปิดไฟส่องขนาดเล็กบนโต๊ะอย่างไม่ยอมน้อยหน้า แสงไฟที่สว่างจ้าส่องไปยังเย่เทียน

เพียงแต่ ที่ทำให้เขานึกไม่ถึงคือ เย่เทียนไม่มีพฤติกรรมหลบการจับจ้องโดยสิ้นเชิง แม้กระทั่งรอยยิ้มอันตรายที่มุมปากยิ่งเข้มข้นขึ้น ทำให้ในใจเขาอดเกิดความรู้สึกไม่สบายแบบน่าประหลาดนิดๆ ไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่