สรุปตอน บทที่ 133 เข้ามาสิ – จากเรื่อง ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดย Light-Knight
ตอน บทที่ 133 เข้ามาสิ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ โดยนักเขียน Light-Knight เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ในความเป็นจริง การคาดเดาของเย่เทียนไม่ได้ผิดนัก ชายกำยำที่ใส่ชุดสูทสามสี่คนนี้เดิมทีไม่ใช่ตำรวจจริงๆ
พวกเขาหลายคนนี้ล้วนเป็นนักแสดงตัวประกอบที่จางเวยเสียเงินจ้างกลับมาโดยเฉพาะ
ไม่ว่าอย่างไรจางเวยก็ยังมีสมองอยู่บ้าง ผ่านประสบการณ์เรียกตำรวจครั้งที่แล้ว หลังจากนั้นเย่เทียนกลับไม่มีเรื่องอะไรทั้งสิ้น เขารู้ดีว่า สำหรับเย่เทียนแล้วเดิมทีตำรวจไม่ได้ขู่ขวัญสักนิดเดียว
เพราะเหตุนี้ เขาจึงจงใจจ่ายเงินเล็กน้อย หานักแสดงประกอบที่ร่างกายแข็งแรงบึกบึนสามสี่คนกลับมาจากโดยรอบสถานที่ถ่ายหนังในเมืองเจียงหนัน
ในการชี้แนะของนายทุน นี่คือการถ่ายทำหนังเรียลลิตี้โชว์ทุนน้อยที่จับกุมผู้คนที่ไม่มีความผิด และพาไปที่สถานีตำรวจ ตากล้องจะแอบซ่อนถ่ายอยู่ด้านหลังตลอดกระบวนการ พวกเขาตบหน้าอกรับปากทำแบบห้าวหาญโดยไม่สนใจอะไร
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาเฝ้าอยู่โดยรอบสถานที่ถ่ายหนังมาวันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า ไม่ใช่เพื่อความฝันจะเป็นดาราที่เต็มเปี่ยมอยู่ในใจนั้นเหรอ?
แน่นอนว่า ภายในการเสนอค่าจ้างจำนวนมากของจางเวยนั้นก็มีบทบาทพอสมควร
ทุกคนต่างรู้ว่า คนที่มีความฝันอยากเป็นดารามีมากแค่ไหน คนที่วิ่งไปเป็นตัวประกอบยิ่งนับไม่ถ้วน และไม่ใช่ว่าใครก็สามารถรับงานได้ทุกวันไม่ใช่เหรอ?
ในโลกที่ความปรารถนาด้านวัตถุไหลบ่าแห่งนี้ ไล่ตามความฝันไม่เพียงแค่ต้องยืนหยัด ยิ่งต้องการเงินทุนด้วย!
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หลังเย่เทียนปล่อยมือออก มีชายกำยำชุดสูทสองคนพยุงชายกำยำหัวล้านขึ้นมาทันที
ในสายตาที่โกรธเคืองของชายกำยำหัวล้านมีแววตาคับแค้นใจระดับหนึ่ง
โกรธเคืองเป็นความต้องการของบทละคร แต่คับแค้นใจคือตำหนิเย่เทียนที่ใช้กำลังเกินไปเสียจริง
แต่พิจารณาถึงกฎที่นายทุนกำหนดเอาไว้ ก่อนหน้าที่ไม่ได้ตะโกนคัตทำงานจนเสร็จสิ้น เขาจึงทำได้เพียงแสดงต่อไปตามบทละครที่รับมา
โดยเฉพาะ เทียบกันกับเจ้าผมสกินเฮดที่ล้มหน้าคะมำฟันหน้าหักซี่หนึ่งดูแล้ว เขายังโชคดีกว่ามากแบบไม่ต้องสงสัย
แน่นอนว่า ในใจเขากลับมีความคิดเดียวกันกับชายกำยำผมสกินเฮด——จำเป็นต้องเพิ่มเงิน!
ชายกำยำชุดสูทสองสามคนที่เหลือสำแดงบทบาทนักแสดงถึงที่สุดแล้ว จ้องเย่เทียนด้วยสายตาตื่นตัวเต็มที่ กลัวเย่เทียนทำพฤติกรรมรุนแรงอะไรออกมาอีก
“ยังอึ้งทำอะไรกันอยู่? พาตัวไอ้หนุ่มนี่กลับไป ต้องสอบสวนให้ดีๆ!”
ชายกำยำหัวล้านจัดการอารมณ์เรียบร้อย สำแดงฝีมือการแสดงออกมาถึงขั้นสุด ชี้หน้าเย่เทียนต่อว่าเสียงดัง
ภายใต้คำสั่งการของชายกำยำหัวล้าน ชายกำยำชุดสูทสองคนมองหน้ากันและกัน และต่างคนต่างล้วงกุญแจมือออกมา เข้าไปหมายจะล็อกเย่เทียนอย่างระแวง
“แกชื่อพี่ฝางสินะ? แกแน่ใจว่าอยากทำขนาดนี้จริง?”
ครั้งนี้ เย่เทียนกลับไม่ได้ต่อต้านอีก มองชายกำยำหัวล้านด้วยดวงตาเย็นยะเยือกไร้ความรู้สึก
“เพ้อเจ้อ! แกแม่งกล้าตบฉัน ฉันต้องทำให้แกแน่นอนรู้ว่าทำไมดอกไม้ถึงแดงขนาดนั้น!”
ฝีมือการแสดงของชายกำยำหัวล้านอธิบายความก้าวร้าวใช้อำนาจบาตรใหญ่ของตำรวจเลวได้ถึงอกถึงใจมาก
“ไอ้หนุ่ม ดีที่สุดแกทำตัวให้มันดีๆ หน่อย ถ้ากล้าลงมืออีกล่ะก็ ลูกกระสุนมันยิงแล้วเอากลับคืนไม่ได้นะ!”
ชายกำยำผมสกินเฮดที่พยายามแสดงบทหน้ากล้องเพิ่มตะโกนมาแบบไม่ยอมให้ตนเองน้อยหน้า
“ได้! ฉันจะไปกับพวกแกสักหน่อย ฉันอยากดูว่าพวกแกจะเล่นออกมาอีกท่าไหนกัน!”
เย่เทียนหัวเราะเยาะ ไม่มองชายกำยำชุดสูทสองสามคนที่ใช้ปืนจ่อศีรษะตนเองไว้ มุดเข้าไปด้านในรถยนต์หนึ่งในนั้นด้วยตนเอง
เย่เทียนให้ความร่วมมือแบบไม่มีเค้าลางสักนิดแบบนี้ ทำให้ชายกำยำชุดสูทตกตะลึง แต่ว่าไม่นานก็มีปฏิกิริยาเข้ามา
ภารกิจของพวกเขาคือพาตัวคนกลับไป ต่อจากนี้ยังมีละครฉากใหญ่ต้องแสดง มีเวลามาเรื่อยเปื่อยที่ไหน
ภายใต้เสียงสั่งของชายกำยำหัวล้าน หลายคนมุดเข้าในรถยนต์อย่างรวดเร็ว เปลี่ยนฉากรอคอยการแสดงฉากที่สอง
“ผมชอบนิสัยนี้ของหัวหน้ากง!”
จางเวยหัวเราะฮาๆ “ในเมื่อหัวหน้ากงคุณถามแล้ว ถ้าผมมัวปิดซ่อนไว้ก็เห็นได้ชัดว่าผมใจแคบ”
“ครั้งนี้ที่เชิญหัวหน้ากงเข้ามา หวังว่าหัวหน้ากงจะสามารถช่วยอะไรผมสักนิดได้จริงๆ”
“คุณชายจางคุณพูดมาตรงๆ เถอะ ขอเพียงไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ละเมิดกฎหมาย และไม่ผิดศีลธรรม สามารถช่วยได้ผมช่วยแน่” กงหย่วนไม่ได้ตอบรับทันทีอย่างเฉลียวฉลาด
“ความจริงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ช่วงนี้ผมกำลังลงทุนถ่ายหนังที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของตำรวจอยู่เรื่องหนึ่ง แต่มักจะรู้สึกว่ามีบางด้านไม่ค่อยถูกต้องครับ”
จางเวยยิ้มกริ่มบอกว่า “หัวหน้ากงคุณเป็นหัวหน้าหน่วยสืบสวนคดีอาญาของเมือง พอดีได้ยินคุณอาบอกว่าคุณจะเข้ามา นี่ผมไม่ใช่มาหาหัวหน้ากงเพื่อขอคำแนะนำหน่อยเหรอครับ”
“แน่นอนว่า ถ้าหัวหน้ากงคุณไม่ถือสา สามารถร่วมแสดงได้ก็จะยิ่งดีเลยครับ”
“ในเมื่อเป็นเรื่องที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และผมในฐานะตำรวจคนหนึ่งย่อมมีหน้าที่รับผิดชอบเป็นธรรมดา!”
พอกงหย่วนได้ยิน ในใจถือว่าโล่งอกไปทีหนึ่ง อมยิ้มบอก “คุณชายจาง เรื่องนี้ผมรับปากคุณแล้ว”
ในความเป็นจริง เขาสามารถไม่สนใจคำเชื้อเชิญของจางเวยเลยก็ได้ ด้วยสถานะของเขา ถ้ามักคบค้าสมาคมกับลูกหลานเศรษฐีพวกนี้อยู่ประจำ ไม่แน่ว่ายังจะเกิดสถานการณ์คลุกคลีพัวพันกับคนชั่วขึ้นมาได้จริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อยู่ใกล้คนแบบไหนก็จะกลายเป็นคนแบบนั้นด้วย
ใครต่างไม่กล้ารับรองว่าตนเองจะยืนหยัดปณิธานเดิมได้ตลอดกาล
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้คุณจะใจแข็งดุจหินผาจริง แต่คุณรับประกันได้เหรอว่าคนข้างกายจะแบกรับสิ่งล่อใจเอาไว้ไหวเหมือนกัน?
แต่ ต่อให้เขาไม่ชอบอย่างไร ก็ยังเลือกจะมาแบบจำใจ
นี่คือเรื่องที่ไม่มีทางเลือก ใครให้ตอนที่จางเวยมาเกิดแย่งตำแหน่งดีไปได้ มีคุณอาที่ทำงานอยู่ในเครือข่ายล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...