โดยเฉพาะเป็นสโมสรระดับสูง ทุกอย่างล้วนเห็นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ไม่นานร้านอาหารนำอาหารรสเลิศสารพัดอย่างมาเสิร์ฟ เพียงแค่ปริมาณของแต่ละอย่างน้อยนิด ที่มากกว่านั้นคือลิ้มรสแต่ไม่ใช่ทำให้ท้องอิ่ม
เย่เทียนไม่ได้ดื่มด่ำกับความรู้สึกกินเยอะสักมื้อหนึ่งแบบนี้มานานมากแล้ว
ถึงแม้เขามีโอกาสทำอะไรบางอย่างให้ได้กินจนอิ่มหมีพีมัน แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าตนเองกับพ่อครัวใหญ่มีความต่างกันอยู่บ้าง
โดยเฉพาะอาหารบางอย่างต้องการน้ำซุปใสส่วนหนึ่งถึงสามารถปรุงออกมาได้ และการต้มน้ำซุปใสต้องการเวลาที่แน่นอน เย่เทียนไม่ได้เตรียมตัวสำหรับความอดทนนี้
ไม่ได้เจอกันนาน เย่เทียนจึงถือโอกาสนี้ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกี่ยวกับด้านการฝึกฝน
“คุณเฉิน ทำไมถึงอยู่ตรงนี้ล่ะ? เมื่อสักครู่ผมจองห้องวีไอพีหมายเลขหนึ่งไว้แล้ว เข้าไปด้วยกันไหม? คุณผู้หญิงท่านนี้ก็ด้วย”
ชายหนุ่มที่ก้าวร้าวอยู่บนรถคนนั้นปรากฏตัวอีกครั้ง หัวเราะเบิกบานกล่าวเชิญชวนต่อเฉินหวั่นชิง
เฉินหวั่นชิงยักคิ้วขึ้นแล้ว มองเขาแบบไม่พอใจแวบหนึ่ง “ฉันไม่รู้จักคุณ รีบออกไป ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกรปภ.มา”
“ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักไม่เป็นไร ตอนนี้ก็ไม่ใช่รู้จักกันแล้วเหรอ?” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยาม “ขอแนะนำตัวเองหน่อยนะครับ ผมชื่ออันจื้อเจี๋ย นี่คือนามบัตรของผม”
พูดจบวางนามบัตรที่ประทับลายทองใบหนึ่งไว้ด้านหน้าเฉินหวั่นชิง
เย่เทียนลุกขึ้นยืนรับเอาไว้โดยตรง “โอ๊ะ? ดูขึ้นมาก็หรูหรามากนะ”
“ไอ้หนุ่ม ฉันทนนายมานานมากแล้ว เป็นคนใช้ก็มีสำนึกแบบคนใช้เป็นกันหน่อย! อย่ามาปีนเกลียว!” อันจื้อเจี๋ยพูดจบพึมพำเบาๆ “คุณเฉิน ผมรู้ว่าบริษัทแซ่เฉินของพวกคุณกำลังทำธุรกิจยามาโดยตลอด ส่วนตระกูลอันของผมก็เป็นผู้จัดหาสมุนไพรที่มีชื่อเสียง ผมคิดว่าพวกเรามีโอกาสจะร่วมงานกันเยอะมาก”
เฉินหวั่นชิงชายตามองเขาแวบหนึ่ง “ฉันว่าไม่มีความจำเป็น!”
“สำหรับฉันแล้วระหว่างพวกเราไม่มีโอกาสร่วมงานกันสักนิด!” เฉินหวั่นชิงปฏิเสธคำเชื้อเชิญของเขาโดยตรง
“พ่อหนุ่ม ไม่รู้ภาษารึไง!”
เหลียงเยว่หรูพูดจายิ่งให้เย่เทียนรู้สึกอับอายจนเหงื่อตก
โดนปฏิเสธไปครั้งแล้วครั้งเล่าอันจื้อเจี๋ยก็ไม่พอใจเท่าไร “ดูแล้วประธานเฉินยังคาดการณ์ความร้ายแรงของปัญหาไม่ได้ชั่วคราว ก็ได้ ผมคิดว่าคุณจะมีวันนั้นที่ต้องมาขอร้องผม”
พูดจบอันจื้อเจี๋ยโบกมือแล้ว หมุนตัวเดินออกไป
“บนโลกนี้คนที่อัตตาสูงก็มีมากเหลือเกินเลย เขายังคิดจริงๆ ว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ!” เหลียงเยว่หรูเปิดเผยลักษณะคุณหนูใหญ่ออกมา พูดเยาะเย้ยอย่างเหยียดหยามสักหน่อย
“ช่างเถอะ อย่ามาอารมณ์เสียกับคนพรรค์นี้เลย” เย่เทียนพูดจบหัวเราะออกมาแล้ว “ออกมาข้างนอกกับพวกเธอก็เตรียมพร้อมว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ไว้แล้ว”
“เฮ้อ! คิดดูก็รู้สึกเหนื่อยใจ!” เย่เทียนยักไหล่ขึ้น ทำท่าทางไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
“ทำไม? เสียใจแล้วเหรอ?” มุมปากเฉินหวั่นชิงเผยรอยยิ้มออกมา ชายตามองเขาแวบหนึ่ง “สายไปแล้ว!”
“โถๆ พวกเธอยังคิดจะบีบอีกฝ่ายให้เชื่อฟังอีกรึไง?” เย่เทียนหัวเราะชั่วร้าย “งั้นคืนนี้......”
“นายไม่ต้องคิดเลย!” เฉินหวั่นชิงสีหน้าแดง “ตอนนี้กิจการของทางบริษัทแทบจะปล่อยมือได้แล้ว อีกไม่กี่วันพวกเราอาจจะต้องย้ายไปอยู่บนเขากัน น่าเสียดายแค่ว่าไม่สะดวกเท่าไร”
“เรื่องนี้จัดการง่าย สร้างถนนสักเส้นก็ไม่ได้แล้วเหรอ?” เย่เทียนหัวเราะแล้วส่ายหน้า “วางใจได้ เรื่องนี้ให้ฉันไปจัดการก็พอ”
เฉินหวั่นชิงเป็นจุดหนึ่งที่เย่เทียนค่อนข้างกังวลมาตลอด เป็นปัจจัยที่เมื่อก่อนเขายังไม่ได้ให้เฉินหวั่นชิงฝึกฝน แต่ตอนนี้เพียงพอแล้ว
ยาเขาก็สามารถจัดหามาได้ วิชายุทธ์เขาสามารถจัดหาให้ได้ ชี่ทิพย์เขายังจัดหามาได้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่