ตอน บทที่ 156 คุณไม่ผ่านเกณฑ์ จาก ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 156 คุณไม่ผ่านเกณฑ์ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ ที่เขียนโดย Light-Knight เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“คุณ คุณคือระดับดำตอนกลางงั้นเหรอ?”
ด้วยการช่วยพยุงจากลูกน้อง เหลยซวี่พยายามจะยืนตัวตรง แต่สีหน้าดูน่าเกลียดมาก
แม้เขาอยู่ในระดับดำตอนต้น แต่เขาไม่สามารถต้านทานกำปั้นของทังหยูหลงแม้แต่หมัดเดียวเลยด้วยซ้ำ
ซึ่งก็หมายความว่า ความแข็งแกร่งของทังหยูหลงนั้นอยู่เหนือกว่าเขามาก!
อย่างน้อย ตอนนี้เขาไม่สามารถต่อกรได้อย่างแน่นอน!
แต่กลุ่มคนที่มาด้วย เขาถือเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ถ้าเขายังไม่สามารถสู้กับทังหยูหลงได้ แล้วใครจะสู้ได้ล่ะ?
ในขณะนั้น สีหน้าของเหลยซวี่ก็กลายเป็นสีฝุ่น ในใจก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“ไอ้สารเลว! ไปตายซะ!”
ซึ่งลูกน้องตำรวจที่ติดอาวุธของเหลยซวี่นั้นมาด้วยสามคน ดังนั้นตำรวจอีกคนที่ไม่ได้รับเหลยซวี่ไว้ทันเวลาก็ตะโกนขึ้นมาอย่างเสียงดัง จากนั้นเขาชักปืนออกมาและลั่นไกออกไปสองนัดทันที
เพียงแต่ว่า ทังหยูหลงผู้ซึ่งอยู่ในฝีมือระดับดำ พลังภายในที่แข็งแกร่งของเขานั้นสามารถกลายเป็นโล่ทิพย์ภายในตั้งนานแล้ว แล้วกระสุนปืนจะทำอะไรเขาได้ล่ะ?
แต่แน่นอนว่า สำหรับกระสุนสองนัดนี้ที่สามารถคร่าชีวิตคนธรรมดาทั่วไปได้ มันกลับลอยตัวอย่างแปลกประหลาดในตำแหน่งที่ห่างออกไปไม่ถึงเมตรจากทังหยูหลง!
“เหอะ! คิดว่ากระสุนจะทำอะไรผมได้งั้นเหรอ?”
ทังหยูหลงฮึดฮัดไม่พอใจ จากนั้นเขาโบกฝ่ามืออันกว้างใหญ่ของเขา และกระสุนสองนัดที่ลอยอยู่ในอากาศก็ได้ยิงสวนกลับไปที่ตำรวจติดอาวุธคนนั้นโดยที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า
ปัง ปัง!
กระสุนสองนัดพุ่งเข้าใส่ร่างกายของตำรวจติดอาวุธพร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของเขาก็ดังขึ้น
ด้วยกระสุนสองนัดในร่างกายของเขา เขาทนไม่ไหวและทรุดตัวลงกับพื้น เลือดสองจุดบนร่างกายของเขาก็กระเซ็นออกไปราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน เขาได้แต่สลบคาพื้นซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอยู่หรือจะตาย!
“เสี่ยวซวี่!” เหลยซวี่ตะโกนด้วยความตกใจ
ซือเฮ่าเจียก็ตกใจจนใบหน้าซีดเซียว ซึ่งในตำแหน่งของเขานั้น เขายังสามารถเข้าถึงเหล่านักบู๊ได้
ซึ่งนักบู๊ที่มีฝีมือที่สุดของเขาก็คือเหลยซวี่ แต่เหลยซวี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทังหยูหลงเลย แม้แต่กระสุนปืนยังทำอะไรทังหยูหลงไม่ได้ แล้วจะจับเขาได้อย่างไรล่ะ?
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เย่เทียนจะออกโรง โจ๋หย่วนหันยังคงมั่นใจในตัวของเย่เทียน แต่สีหน้าของเขาก็ซีดเซียวไม่ต่างอะไรกับซือเฮ่าเจียที่กำลังหวาดกลัวจนสุดขีด
เพราะโจ๋หย่วนหันเคยได้ข่าวว่าเย่เทียนนั้นเก่งกาจไม่เบา แต่ฝีมือของเย่เทียนนั้นเขายังไม่เคยเห็นกับตา แล้วใครจะไปรู้ว่าเย่เทียนจะสู้กับทังหยูหลงได้?
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมไม่ได้โหดเหี้ยมขนาดนั้นหรอก และเขาก็ยังไม่ตาย!”
ทังหยูหลงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่โหดร้าย และจ้องเขม็งไปที่เหลยซวี่ “เพราะว่า คนที่ต้องตายก่อนก็คือคุณไงล่ะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในใจของเหลยซวี่ก็เต็มไปด้วยความขมขื่น แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ต้องพยายามยืนหยัดอยู่ภายใต้การประคับประคองของตำรวจติดอาวุธสองคนนั้น
เรื่องมันก็มาถึงจุดนี้แล้ว เขาไม่มีหนทางให้ถอยหลังอีก ได้แต่จำใจสู้กับทังหยูหลงเพื่อยื้อเวลาให้คนอื่นๆ ได้หนีไป
“เฮ้อ! คุณอย่าเอาชีวิตไปทิ้งให้เสียเปล่าเลย ให้ผมจัดการแทนเถอะ!”
ขณะที่เหลยซวี่ตัดสินใจที่จะสู้จนลมหายใจสุดท้าย เสียงทอดถอนใจด้วยความเศร้าอาดูรก็ดังขึ้นจากด้านหลังเขา
ทุกคนตะลึงงันแล้วหันหัวมองไปรอบๆ ถ้านอกจากเย่เทียนแล้ว ใครจะกล้าพูดแบบนี้อีก?
เย่เทียนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ในปากของเขายังคาบหญ้าหางหมาจิ้งจอกที่ไม่รู้เด็ดมาเมื่อไหร่ และค่อยๆ เดินเข้ามาอย่างสบายใจ
“คุณอยากตายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เมื่อเห็นเย่เทียนเดินเข้ามา เหลยซวี่ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและตะโกนอย่างเสียงดัง
ในสายตาเขา เย่เทียนก็เหมือนลูกรักของผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตั้งใจจะมาสร้างผลงานที่นี่เท่านั้น ต่อให้มีฝืมืออยู่บ้าง แต่จะเป็นคู่ต่อสู้ของทังหยูหลงได้อย่างไร?
ขืนปล่อยไปก็ตายเปล่า!
แต่ซือเฮ่าเจียกลับแสดงสีหน้าซับซ้อนมากขึ้น อย่างน้อยเขาเคยเห็นฝีมือของเย่เทียนไปแล้ว ถ้าเย่เทียนสามารถปราบทังหยูหลงคนนี้ได้จริงๆ ล่ะ?
“แล้วแกยังคิดว่าข้าเป็นแค่กังฟูแมวสามขางั้นเหรอ?!”
ทันทีที่เขาพูดคำนี้ เหลยซวี่ถึงกับใจหายใจคว่ำ และความตั้งใจก่อนหน้านี้ ที่เขาพยายามจะยื้อทังหยูหลงเพื่อให้คนอื่นได้หนีไปก็ได้หมดไปอย่างสิ้นเชิง
นักบู๊ในประเทศมีเป็นร้อยเป็นพัน ซึ่งระดับชั้นก็คือขั้นบันได พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องมีความพยายามเท่านั้น แต่ยังต้องใช้พรสวรรค์ที่เกี่ยวข้องถึงจะสามารถก้าวไปอีกขั้นได้
บางคนใช้เวลาทั้งชีวิต แต่ทำได้แค่วนเวียนอยู่ในระดับเหลือง!
นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่า แม้นักบู๊ที่มีฝีมือแตกต่างกันแค่ระดับเดียว แต่มันก็เท่ากับแต่งต่างกันพันระดับ
ซึ่งเหลยซวี่ก็เพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับดำตอนต้นมาได้เพียงสองปีเท่านั้น สำหรับทังหยูหลงที่แตกต่างกับเขาอย่างน้อยหนึ่งระดับ หรือสองระดับขึ้นไป แล้วเขาจะต้านทานได้สักกี่น้ำ?
“ผู้บัญชาซือ ผู้บัญชาโจ๋ เกรงว่าพวกเราคงต้องจบที่นี่แล้วล่ะ”
เหลยซวี่รู้สึกสิ้นหวังมาก ถ้ารู้แต่แรกว่ามีคนอย่างทังหยูหลงรออยู่ แล้วเขาจะรีบเข้ามาที่นี่ทำไม?
จะให้หนีงั้นหรือ?
นั่นเป็นเพียงความฝันที่งี่เง่าที่สุด!
เมื่อไหร่ที่หันหลังให้กับระดับดำตอนกลางที่สามารถปล่อยพลังภายใน นั้นก็คือการเร่งเวลาที่จะไปดื่มชาบ่ายกับยมบาลให้เร็วขึ้น!
“นี่ นี่มัน......”
ซือเฮ่าเจียถึงกับตะลึงเมื่อเห็นหายนะที่ใกล้จะเกิดขึ้นกับเหลยซวี่ เขากลัวจนเสียงพูดสั่นเทาไปหมด
“หยูหลง ระวังด้วย ไอ้หมอนี้มันไม่ได้รับมือง่ายๆ นะ!”
และในขณะนี้ เสียงที่แหบแห้งก็ดังขึ้นมาจากถ้ำ
ทุกคนรีบหันมองไป เห็นเพียงหญิงชราคนหนึ่งที่มีผมสีขาวยืนพิงไม้ค้ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยฝ้าอันน่าเกลียด และเดินออกมาจากปากถ้ำด้วยท่าทางเคร่งขรึม
แล้วเธอคนนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากคุณยายกระดาษไหว้เจ้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...