โจรถึงกับน้ำตาตกในอีกครั้ง
เขาสงสัยจริงๆ ว่าวันนี้เขาเจอใครกันแน่?
คล้ายกับการบำบัดด้วยไฟฟ้าของศาสตราจารย์หยางก็แล้วไป แต่นี่เขายังคิดจะไถเงินของโจรอีก แถมยังไถด้วยวิธีที่เหี้ยมโหดขนาดนี้!
ดั่งที่ว่า คนถือมีดมีอำนาจชี้ต้นตายชี้ปลายเป็น แต่คนไม่มีมีดก็เป็นได้แค่เนื้อบนเขียงเท่านั้น
แม้จะรู้สึกไม่พอใจมาก แต่ในสถานการณ์ ณ ตอนนี้ โจรทำได้แค่จำใจพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “แล้วคุณจะให้ผมจ่ายค่าเสียหายเท่าไหร่ครับ?”
“รู้งานจริงๆ!”
เย่เทียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และพูดต่อด้วยรอยยิ้มของพ่อค้าที่ได้กำไรว่า “ในเมื่อคุณถามแบบนี้ งั้นเรามาคำนวณกันเลยนะ”
“ไม่ต้องห่วง ผมเป็นคนซื่อตรงต่อการทำธุรกิจ ผมไม่มีวันโกงคุณหรอก”
ขณะพูด เย่เทียนก็หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าและเปิดเครื่องคิดเลขในโทรศัพท์
“ผมจะไม่คิดค่าใช้จ่ายที่คุณขึ้นมาถึงที่นี่นะ แต่ผมจะคิดตั้งแต่ที่คุณมาถึงชั้นนี้ก็แล้วกัน”
“สิ่งแรกที่คุณทำหลังจากมาถึงที่นี่คือการเปิดประตูออฟฟิศของประธานเฉินใช่ไหม?”
โจรพยักหน้าอย่างสับสน “ใช่ครับ”
“ประตูออฟฟิศของประธานเฉินเป็นประตูกระจกพิเศษที่สามารถกันกระสุนได้ มันคือสินค้าที่นำเข้าจากฝั่งตะวันตก ราคาต้นทุนถ้าคิดเป็นเงินหยวนจะตกอยู่ที่สามแสนหยวนโดยประมาณ......”
เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม ในขณะเดียวกันก็หยิบเครื่องคิดเลขออกมากดเลข ‘3’
สำหรับเลขศูนย์ห้าตัวด้านหลัง เย่เทียนไม่คิดจะกดมันด้วยซ้ำ
เพราะนี่เป็นการแบล็กเมล์ ยังไงก็ต้องเริ่มต้นจากหลักแสนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?
และอันที่จริง ก่อนที่เย่เทียนจะพูดจบ โจรก็รู้สึกแย่และน้ำตาตกในไปนานแล้ว
ในฐานะที่เป็นมืออาชีพ แล้วเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าประตูกระจกบานนี้เป็นกระจกธรรมดาเท่านั้น!
แต่ ณ เวลานี้ โจรจะกล้าพูดความจริงจากใจได้อย่างไร ได้แต่พูดอย่างขมขื่นว่า “ผมไม่ได้พังประตูนะ ทำไมต้องชดใช้ด้วย?”
“คุณจะรู้อะไร!”
เย่เทียนตบไปที่กะโหลกของโจรอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นส่ายหัวแล้วถอนหายใจพูดว่า “ไร้การศึกษา แย่จริงๆ!”
“ผมถามคุณหน่อย คุณหนีมาเป็นโจรก่อนเรียนจบชั้นประถมศึกษาหรือเปล่า?”
“ผมจบชั้นมัธยมต้นนะ!” โจรปฏิเสธอย่างไม่รู้ตัว
“ถึงว่า ไร้สมองแบบนี้”
เย่เทียนแสยะยิ้มแล้วพูดอย่างจริงจังในเชิงให้ความรู้ “ถึงแม้คุณจะเปิดประตูด้วยคีย์การ์ดประตู คุณไม่ได้พังประตูก็จริงๆ แต่ว่า......”
“คุณผลักประตูแล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้น ประตูก็มีรอยเปื้อนจากอุ้งเท้าสุนัขของคุณแล้วจริงไหม? แล้วมันจำเป็นต้องเปลี่ยนบานใหม่ผมพูดถูกไหม?”
โจรรีบปฏิเสธอีกครั้ง “ไม่นะ ผมใช้ไหล่ผลักมัน ไม่ได้มีรอยนิ้วมือของผมเลย......”
“พูดมาก กล้าเถียงอีกเดี๋ยวก็โดนไฟช็อดต่อหรอก!”
โจรหยุดนิ่งทันทีราวกับถูกแช่แข็ง และไม่กล้าโต้เถียงอีก
เย่เทียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วพูดต่อ “ในเมื่อประตูบานนี้เป็นผลิตภัณฑ์ไฮเทคที่ใหม่ล่าสุด ฉะนั้น มันจึงเป็นของที่หายากว่าไหม?”
โจรพยักหน้าร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา และไม่กล้าพูดอะไรอีก
“เพื่อจัดหาประตูกันกระสุนบานนี้ คุณรู้ไหมว่าผมต้องเสียค่าธรรมเนียมไปอีกสองแสน”
“ฉะนั้น สาม บวก สอง......”
เย่เทียนพึมพำในปากแล้วกดเครื่องคิดเลขไปด้วย
ต้องขนาดนั้นเลยหรือ?
ก็แค่สามบวกสอง จำเป็นต้องกดเครื่องคิดเลขเลยหรือ? นี่มันคณิตศาสตร์ของเด็กประถมเองนะ!
แต่ โจรที่ตกอยู่ในความหวาดกลัวจะกล้าพูดอะไรอีก ได้แต่จับจ้องไปที่เย่เทียนที่กำลังกดเครื่องคิดเลขอย่างจริงจัง
“ประตูบานนี้ ห้าแสน คุณมีปัญหาอะไรไหม?”
โจรได้แต่ส่ายหัวอย่างจำใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่