ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 238

ตอนที่ตลาดหุ้นพักช่วงกลางวัน ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินภายใต้การบัญชาของจางเวย ถูกกดไปถึงสามสิบเก้าหยวนจนสำเร็จ!

แน่นอนว่า ในนี้มีความช่วยเหลือของเจิ้นเซ่าเฉินอยู่ไม่น้อย

ตระกูลเจิ้นเป็นหนึ่งในสองตระกูลเก่าแก่เพียงหนึ่งเดียวของเมืองเจียงหนัน เส้นสนกลในยังแกร่งกว่าจางเวยเป็นร้อยเท่า

ถ้าบอกว่าจางเวยทุ่มเงินจำนวนแปดร้อยล้านในราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินเป็นเพียงการกระทำน้อยนิด งั้นสามพันล้านที่เจิ้นเซ่าเฉินเตรียมไว้คงเป็นการกระทำใหญ่โตมากแน่

ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินในช่วงสองชั่วโมงกว่าตอนตลาดเปิดช่วงเช้าถูกกดลงไปที่ราคาสามสิบเก้าหยวน ตระกูลเจิ้นคือผู้มีคุณูปการน่ายกย่องที่สุด

แต่ ต้องบอกว่าการร่วมมือของตระกูลเจิ้นและตระกูลจางก่อให้เกิดผลกระทบที่ใหญ่โตออกมา

ตัดพวกหัวดื้อที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมต่อบริษัทตระกูลเฉินส่วนหนึ่ง ผู้ถือหุ้นเล็กเหล่านั้นหวาดผวาอย่างยิ่งตั้งแต่แรก เทขายหุ้นของตระกูลเฉินออกแล้ว

เงินทุนที่ฉินเจิ้งสนับสนุนมาถึงในมือของเฉินหวั่นชิงตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะจำนวนไม่ใช่แค่หนึ่งพันล้าน

สองพันล้าน!

นายท่านฉินควักออกมาสองพันล้านอย่างใจกว้างมาก ภายในนี้นายท่านฉินคงมีความหมายผูกมัดเย่เทียนเอาไว้ถึงที่สุดอยู่ไม่น้อย

แต่ เฉินหวั่นชิงที่รับเงินมากลับไม่ได้รีบทุ่มเข้าไปในตลาดหุ้นกอบกู้ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินทันที แต่ว่ากำลังซื้อหุ้นของบริษัทก่อสร้างเทียนเฉินอยู่แบบเงียบๆ

ถึงบอกว่าคุณหนูใหญ่เฉินไม่ใช่คนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นอะไร แต่ก็ไม่ใช่คนที่ใครจะมาหาเรื่องได้ง่ายๆ

เดิมทีเฉินหวั่นชิงอัดอั้นตันใจเพราะเรื่องที่เฉินหยังบีบให้ลงจากตำแหน่ง แต่อย่างไรเสียเฉินหยังก็เป็นลูกหลานตระกูลเฉิน

พิจารณาถึงท่าทีของท่านปู่เฉิน เฉินหวั่นชิงไม่ได้กระทำการระบายอารมณ์ใดๆ ต่อเฉินหยังออกมา เพียงแค่นำเรื่องนี้มอบให้ท่านปู่เฉินไปจัดการ

แล้วจางเวยดันมาสร้างเรื่องเดือดร้อนให้เธอในเวลานี้อีก เธอจะปล่อยจางเวยไปง่ายดายได้อย่างไรล่ะ?

“เชอะ! เย่เทียนแกไอ้สารเลว ในเมื่อแกไม่รับความหวังดี งั้นก็เตรียมคุกเข่าอ้อนวอนต่อหน้าฉันเถอะ!”

น่าเสียดายแค่ว่า จางเวยที่สมาธิจดจ่ออยู่ภายในราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินไม่สังเกตถึงความผิดปกติของบริษัทตนเอง แต่ทว่าเพ้อฝันจัดให้บริษัทตระกูลเฉินเป็นหมูในอวย และภาพของเย่เทียนที่ขอความเมตตาอย่างต่ำต้อยจนเหมือนหมา

พอนึกมาถึงตรงนี้ จางเวยอดไม่ไหวส่งเสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากภายในใจ

ช่วงบ่ายพอตลาดหุ้นเปิดเทรด จางเวยสั่งการโบรกเกอร์อีกครั้ง ภายในหนึ่งชั่วโมงต้องกดราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินลงไปถึงสามสิบ จากนั้นซื้อหุ้นกลับมา!

“ประธานจางครับ หุ้นห้าล้านหุ้นที่พวกเราเพิ่งปล่อยออกไปถูกคนซื้อไปหมดแล้วครับ!”

เพียงแต่ ไม่นานเสียงของโบรกเกอร์ก็ทำลายความคิดเพ้อฝันอันงดงามของจางเวยลงแล้ว

“อะไรนะ? ห้าล้านหุ้นคนซื้อไปหมดแล้ว?”

ชั่วพริบตาเดียวจางเวยตกใจค้าง เวลาโดยรวมนี้ไม่พอถึงหนึ่งนาทีเต็มด้วยซ้ำ ถูกคนซื้อไปแล้ว?

ต้องรู้ว่า ตอนช่วงเช้านั้นเดิมทีไม่มีใครกล้าซื้อหุ้นของบริษัทตระกูลเฉิน ในชั่วพริบตาล้วนเทขายหมด ทำไมช่วงบ่ายพอเปิดตลาดกลับต่างกันมากขนาดนี้ได้ล่ะ?

จางเวยขมวดคิ้วขึ้นมา “ตอนนี้ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินเท่าไร?”

โบรกเกอร์รายงานตามจริง “สี่สิบห้าครับ!”

“อะไรนะ?”

จางเวยได้ยิน ยิ่งขมวดคิ้วลึกขึ้นกว่าเดิม บ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ “เมื่อกี้ไม่ใช่กดไปถึงสามสิบเก้าหยวนแล้วเหรอ? ทำไมพักหนึ่งก็เด้งกลับมาที่สี่ห้าหยวนอีกแล้ว?”

ผ่านพ้นเวลาช่วงเช้ามา ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินจากห้าสิบห้ากดลงไปสามสิบเก้า นี่แค่เวลาเท่าไรกัน ทำไมเพิ่มไปที่สี่สิบห้าหยวนแล้ว?”

โบรกเกอร์ส่ายหน้าด้วยความขมขื่น “ประธานจางครับ ทางนั้นที่ซื้อหุ้นพวกเราห้าล้านหุ้นไปเมื่อสักครู่กำลังชูป้าย อยากใช้ราคาสี่สิบห้าหยวนซื้อไปอีกห้าล้านหุ้นครับ”

“ห้าล้านหุ้น? นั่นไม่ใช่เจ็ดสิบห้าล้านเหรอ?”

จางเวยสีหน้าอึมครึมอย่างยิ่ง อดไม่ได้บ่นพึมพำขึ้นมา “สรุปว่าเป็นอิทธิพลไหนกำลังแทรกแซงอยู่?”

ในความคิดจางเวยนั้น ความผันผวนของตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทตระกูลเฉินจนหมดแล้ว บริษัทตระกูลเฉินน่าจะไม่อาจเอาเงินออกมาได้อีก ต้องมีอิทธิพลฝ่ายที่สามกำลังแทรกแซง

“ประธานจางครับ ห้าสิบหยวนแล้วครับ!”

ไม่รอให้จางเวยคิดเหตุผลออกมา โบรกเกอร์ที่จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ตาไม่กะพริบก็เอ่ยปากอีก “เมื่อสักครู่คนที่ชูป้ายเปลี่ยนราคาแล้วครับ ตอนนี้ใช้ราคาห้าสิบห้าหยวนขอซื้อห้าล้านหุ้นครับ!”

“อะไรนะ? ห้าสิบหยวนเลย!” จางเวยตกตะลึงค้างถึงที่สุด

การหวนเพิ่มสูงขึ้นของราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินจะดึงดูดนักลงทุนหุ้นซื้อตามกระแส ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินลิขิตมาให้ลดไม่ลงแล้ว แผนการที่เขาอยากซื้อบริษัทตระกูลเฉินก็พังพินาศไปด้วย!

......

บริษัทตระกูลเฉิน

“ประธานเฉิน ตอนนี้ราคาหุ้นกลับมาสูงถึงห้าสิบห้าแล้วครับ พวกเรายังต้องซื้อต่อไหมครับ?”

โบรกเกอร์ที่เฉินหวั่นชิงจ้างกลับมาหน้าตื่นเต้นเต็มที่ เมื่อวานตอนที่ไม่มีเงินพวกเขาได้เพียงกังวลว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้ วันนี้ลืมตาอ้าปากได้แล้วยังไม่สบายใจได้เหรอ?

“ซื้อ! ดึงราคาหุ้นกลับมาให้ฉัน! แม้กระทั่งต้องเกินกว่าหกสิบหกหยวนก่อนหน้านี้ด้วย!”

เฉินหวั่นชิงพอลงมือทีหนึ่งก็กล้าหาญชาญชัยเต็มเปี่ยม!

เธอในตอนนี้ ถือว่าไม่ขาดเงินโดยแท้จริง ถึงแม้ไม่พูดถึงเงินทุนสองพันล้านที่เย่เทียนคิดหาวิธียืมมา ก็ใช้เงินทุนที่ได้มาจากการควบคุมราคาหุ้นบริษัทก่อสร้างเทียนเฉินเมื่อช่วงเช้านี้ ล้วนเกินกว่าห้าร้อยล้านแล้ว!

“ได้ครับ!” โบรกเกอร์ไม่มีปัญหาแน่นอน รีบสั่งทุกคนซื้อต่อไปทันที

โถงใหญ่ตลาดหลักทรัพย์แต่ละเมือง

“ขึ้นแล้ว! ขึ้นอีกแล้ว! หกสิบหยวนแล้ว!”

เหล่าผู้ถือหุ้นที่ครองหุ้นบริษัทตระกูลเฉินไว้พวกนั้น มองเห็นราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินในที่สุดก็หวนกลับมาสูงขึ้น นั่นเรียกว่าดีใจ

“ต้องขายออกรึเปล่า? ถ้าขายออกไปในตอนนี้ จะทำกำไรได้หลายสิบล้านเลยนะ!”

“ขายอะไรเล่า? นายดูเงื่อนไขตลาดของบริษัทตระกูลเฉินตอนนี้ พอมีของก็ถูกคนกวาดเรียบหมดทันที แน่นอนว่าจะเพิ่มสูงต่อไปอีก!”

ทุกคนเบิกดวงตาโตจ้องหน้าจออยู่กันทั้งนั้น มองราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินที่หวนกลับมาเพิ่มสูงไม่ขาดสาย

แน่นอนว่า ถึงแม้ราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินจะกลับมาถึงหกสิบหยวน แต่คนที่เทขายจริงๆ กลับไม่ได้มากมาย

ไม่มีเหตุผลอื่น ผู้คนต่างพอเดาออกมาได้ นี่คือบริษัทตระกูลเฉินกำลังช่วยชีวิตตนเอง ตอนนี้บนเงื่อนไขตลาดกว้านซื้อหุ้นสุดชีวิต ขอเพียงมีคนขายออก เดิมทีไม่สนใจราคากว้านซื้อเอาไว้หมด

ผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่งรอคอยต่อไปด้วยความวิตกกังวล รอราคาสูงกลับมาที่หกสิบหก แม้กระทั่งสูงยิ่งกว่านั้นถึงค่อยลงมือ

น่าเสียแต่เพียงว่า แนวโน้มที่หุ้นนี้จะสูงเพิ่มหลังจากยืนหยัดมาครึ่งชั่วโมง ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินก็เปลี่ยนมาเป็นแถบเขียวอีกครั้ง

“ตกแล้ว? ทำไมตกลงมาอีกแล้ว?”

“เชี่ย! รอบนี้ตกไปถึงห้าสิบสามหยวนแล้ว? รู้แต่แรกเมื่อกี้ตอนที่หกสิบหยวนฉันลงมือแล้ว!”

ส่วนที่ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินตกลงมา นั่นย่อมเป็นตระกูลเจิ้นลงมืออยู่แล้ว!

เมื่อวานตระกูลเจิ้นกักตุนหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินไว้จำนวนมาก เห็นว่าราคาหุ้นบริษัทตระกูลเฉินหวนเพิ่มขึ้นอีก จึงรีบเริ่มกดลงทันที ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะปราบบริษัทตระกูลเฉินให้ราบคาบ

ทันใดนั้น ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินเหมือนกับนั่งบนรถไฟเหาะ เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง ช่างเร้าใจเสียทีเดียว

หัวใจของผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่งเต้นขึ้นเต้นลงตามไปด้วยกัน ผู้ถือหุ้นที่เดิมหัวใจไม่ดีสักเท่าไรยิ่งรีบหายาโรคหัวใจมากินทันที เลี่ยงที่อีกเดี๋ยวจะรับการปลุกเร้าไม่ไหวเสียชีวิตลง

พวกเขานั้นถือว่ามองออก นี่คือมีคนอยากจะก่อกวนบริษัทตระกูลเฉิน

แต่รู้แล้วจะทำอย่างไรได้? นอกจากมองดู พวกเรายังได้แค่มองดูเท่านั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทพเจ้าทะเลาะวิวาท คนทั่วไปทุกข์ยาก!(บุคคลชั้นสูงขัดแย้งกัน ประชาชนทั่วไปมักจะได้รับหายนะ)

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่