สุขบ้างทุกข์บ้าง
หลังจากผ่านความปั่นป่วนของหุ้นมา ราคาหุ้นของบริษัทแซ่เฉินไม่เพียงไม่ลดลง กลับกันกลับทรงตัวอยู่ที่ประมาณ70หยวน สูงกว่าตอนแรกถึง4หยวน
นอกจากนี้ คุณหนูใหญ่เฉินยังทำกำไรได้เกือบพันล้าน และมีการสร้างบริษัทก่อสร้างเพิ่มเติมด้วย!
ข่าวนี้ทำเอาเฉินหวั่นชิงและพนักงานทุกคนที่ที่อยู่ที่นี่ตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เพียงแต่น่าเสียดาย เมื่อเฉินหวั่นชิงกลับมาจากกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างมีความสุข เย่เทียนก็หายไปแล้ว
สำหรับลูกศิษย์ที่เป็นเพื่อนตั้งแต่ชาติก่อนคนนี้ เย่เทียนจึงไม่ได้ทำให้เขาลำบากนัก หลังจากรักษาสัญญาว่าชดเชยเงินที่ติดค้างให้หมดเสร็จ ก็เหยียบคันเร่งรถแล้วบึ่งออกไปทันที!
พระอาทิตย์ตกดินทางทิศตะวันตก ถนนใหญ่ที่พลุกพล่านค่อยๆสว่างขึ้นด้วยแสงไฟนีออน
เอี๊ยด!
เย่เทียนขับรถ จอดสะบัดท้ายบนถนนใหญ่หน้าประตูทางเข้าเรดซันบาร์อย่างสวยงาม!
เสียงเบรกทีดังระงมเรียกความสนใจจากผู้คนที่เดินไปมาได้มากมาย
เย่เทียนเดินคิ้วขมวดลงมาจากรถ เดินเข้าเรดซันบาร์ที่เพิ่งเปิดกิจการไปอย่างไม่ลังเล
มุ่งตรงไปข้างหน้า พนักงานบริการภายในบาร์ไม่มีใครกล้าขวางเขาแม้แต่คนเดียว ปล่อยให้เย่เทียนขึ้นไปห้องทำงานชั้นบนสุดของบาร์
ไม่มีเขา เรดซันบาร์แห่งนี้เป็นเขตอิทธิพลของแก๊งไผ่เขียว!
ภายในห้องทำงาน หลิวชิงยกแก้วไวน์ราคาแพงที่มีประวัติอันยาวนานขึ้นชิมอย่างพิถีพิถัน เมื่อสายตาเห็นเย่เทียนปรากฏ ก็รีบวางแก้วไวน์ลงทันที เดินไปต้อนรับด้วยท่าทีเคารพ
“คุณชายเย่ คุณมาแล้วเหรอ?”
เย่เทียนพยักหน้าเบาๆ นั่งลงบนโซฟานุ่มๆด้านข้างอย่างไม่เกรงใจ“ว่ามาสิ มีเรื่องอะไรถึงรีบร้อนจะเจอผมขนาดนี้?”
ถูกต้อง!ที่เย่เทียนรีบร้อนออกมาจากบริษัทแซ่เฉิน เพราะได้รับข่าวจากหลิวชิง บอกให้เขารีบมาพบ
“คุณชายเย่ ดื่มหน่อยไหม?”
หลิวชิงพูดอย่างไม่รีบร้อน เพียงชี้ไปยังไวน์ราคาแพงขวดนั้น “เจอLafiteปี1982ของแท้ ที่ค่ายใหญ่แก๊งมังกรเมื่อคืน”
“ตอนแรกมีครึ่งลัง เสียดายที่เชิ่งหู่เจ้าซื่อบื้อนั่นไม่ระวังทำแตก เลยเหลือแค่ขวดนี้”
ตอนแรกเย่เทียนอยากจะปฏิเสธ แต่พอนึกถึงความสำเร็จช่วงสองสามวันมานี้ จึงพยักหน้าพลางพูด:“งั้นรินให้ผมหน่อย!”
หลิวชิงรีบรินให้เย่เทียนไปแก้วหนึ่งอย่างนอบน้อม
หลังจากแกว่งไปมาอย่างมีท่วงที เย่เทียนจึงค่อยๆจิบแล้วพูดชม:“ไม่เลว สมกับเป็นไวน์ที่ฮิตติดตลาด”
“ว่ามาสิ มีเรื่องอะไรถึงให้ผมรีบมาขนาดนี้?”
หลิวชิงหุบยิ้มทันใด แล้วพูดอย่างจริงจัง:“คุณชายเย่ ที่ให้คุณรีบมาขนาดนี้ เป็นเพราะเรื่องของเซิ่งเหอเซิ่ง”
“ขอแบบเนื้อๆ”เย่เทียนเลิกคิ้ว
“ลูกน้องจากในเมืองเอกของผมนำข่าวมาบอกผม ว่าเมื่อเช้านี้จูยิ่วถิงรีบร้อนหารือกับให้จอมพลต่างๆของเซิ่งเหอเซิ่ง ให้โจมตีเมืองเจียงหนันของพวกเรา”
“งั้นก็ให้พวกเขาหารือกันไปสิ คิดมากทำไม”
เย่เทียนเบะปาก ไม่ใส่ใจ“ยังไม่ต้องพูดถึงที่พวกเขาไม่มีที่ยืนใยเจียงหนันเลย แม้แต่เบื้องบนก็ไม่ยอมให้มีการต่อสู้ข้ามเมือง”
“คุณชายเย่ ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆ ผมคงไม่รบกวนคุณหรอก”
หลิวชิงเงยหน้ามองเย่เทียนอย่างระมัดระวัง พลางพูดอย่างอ่อนแอ:“เพียงแต่ว่าจูยิ่วถิงเลวทรามกว่าที่พวกเราคิด”
“จากข่าวจากลูกน้องผม บอกว่าจูยิ่วถิงเตรียมส่งจอมพลสามคนของเซิ่งเหอเซิ่ง ไปจับตัวคนจำนวนหนึ่ง”
เย่เทียนพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ:“คุณอยากบอกอะไรกันแน่?”
“พวกเขาจะจับตัวฉินโล่หยิน คุณหนูใหญ่ตระกูลฉิน เฉินหวั่นชิง ประธานบริษัทแซ่เฉิน และเหลียงเยว่หรู ลูกหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลเหลียง”
หลิวชิงพูดเสียงเบามาก ราวกับไปยั่วโทสะเย่เทียนอย่างไรอย่างนั้น “จูยิ่วถิงรู้ว่าพวกเขาไม่อาจมาเจียงหนันได้ จึงใช้โอกาสนี้ล่อให้คุณไปเมืองเอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่