ตอน บทที่ 268 การตกตะลึงของเฉินหวั่นชิง จาก ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 268 การตกตะลึงของเฉินหวั่นชิง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ ที่เขียนโดย Light-Knight เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“เจิงหรง จะพูดยังไงล่ะ? โตขนาดนี้แล้ว ทำไมพูดอะไรไม่รู้จักกาลเทศะ?”
นายท่านฉินเห็นความกลัวของเฉินลี่น่าอยู่ในสายตา จึงรีบออกตัวช่วยเธอ เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดใจขนาดนั้น
ในเมื่อ ไม่ว่ายังไงเฉินลี่น่า ก็คือลูกสาวของเฉินชังไห่ ก่อนที่จะรู้ความในใจของเย่เทียน เขาก็ไม่อยากล่วงเกิน
แม้ว่าคำพูดของฉินเจิ้งดูจะเกรงใจ แต่ทุกคนก็สามารถฟังออกว่า นายท่านเฉินนั้นไม่ได้โทษฉินเจิงหรงจริงๆ
พูดโดยไม่นึงถึงกาลเทศะ? ความหมายก็คือไม่ใช่แค่เปลี่ยนกาลเทศะก็ได้แล้วเหรอ?
“ท่านปู่ ผมผิดไปแล้ว” ฉินเจิงหรงรีบยอมรับความผิดพลาดของเขา
“คุณปู่เฉิน นี่คือยาปรุงจิต ของขวัญอวยพรวันเกิดให้ท่าน ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงและสมความปรารถนา!”
เวลานี้ ฉินโล่หยินที่สวมชุดกระโปรงยาวสีขาวยืนขึ้นในเวลาที่เหมาะสม และค่อยๆทำลายบรรยากาศอย่างชาญฉลาด
“ยาปรุงจิต?!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนต่างก็พากันสูดหายใจเข้าลึกๆ มองไปที่กล่องหยกที่เต็มไปด้วยความหวัง
ไม่เหมือนกับยาเพิ่มพลัง ยาปรุงจิตเหมาะสำหรับคนทั่วไปกิน
เช่นเดียวกับความหมายตามตัวอักษร ที่สำคัญเมื่อพูดถึงสรรพคุณความแข็งแรง เติมพลังปราณ และบำรุงโลหิต เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้สูงอายุอย่างเฉินชังไห่
ในความเป็นจริง หากลดราคาเป็นเหรียญRMB ราคาตลาดของยาปรุงจิต จะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้าน
ที่น่าเสียใจก็คือปรมาจารย์ปรุงยาหายากเกินไป ยาปรุงจิตเป็นของที่มีมูลค่า แม้ว่าโชคดีที่ได้มา คนส่วนใหญ่ก็จะเลือกกินเองจะยอมสละที่จะให้คนอื่นได้ไง?
“นี่ พี่ฉินนี่มันไม่แพงไปหน่อยเหรอ?”
เฉินชังไห่ตื่นเต้นมากจนมือของเขาสั่น จริงๆเป็นกล่องหยกที่ไม่หนักแต่มีความรู้สึกราวกับหนักเป็นพันกิโล
“น้องหยัง ถ้าคุณไม่รับงั้นก็ถือว่าดูถูกผมนะ อย่าโทษที่ผมโกรธนะ!”
เมื่อฉินเจิ้งพูดจบ ก็แกล้งทำเป็นแสดงสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมา
คนเขาก็พูดถึงขนาดนี้แล้ว เฉินชังไห่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เก็บเม็ดยาอย่างมีความสุข
ตามด้วยเจ้าหน้าที่ของระบบที่มากับฉินเจิ้งต่างก็แสดงความยินดี และส่งมอบของขวัญ
เพื่อให้ทุกคนสบายใจ ของขวัญที่พวกเขาส่งนั้นไม่ได้แพงอะไรมาก
จากการวิเคราะห์ พวกเขาล้วนเป็นคนในระบบ กรณีที่ไม่ใช้อำนาจหาผลประโยชน์ส่วนตัว เงินเดือนประจำปีก็แค่นั้น ของที่แพงมากเกินพวกเขาก็ไม่สามารถเอาออกมาได้
ถึงแม้จะพูดแบบนี้ ต้องบอกว่าไม่มีแขกคนใดที่กล้าดูถูกเจ้าหน้าที่ระบบแม้แต่คนเดียว
คนเขาไม่มีเงิน แต่มีอำนาจไม่ใช่เหรอ?
เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้หวงเย่าโจวและเหลียงเจิ้นกั๋วหลังจากมอบของขวัญอวยพรให้เฉินชังไห่แล้ว ฉินเจิ้งก็พาเจ้าหน้าที่ระบบเดินไปทางเย่เทียน
แม้ว่าแขกที่มาร่วมงานจะเดาได้ไม่มากก็น้อย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริง พวกเขายังคงอ้าปากกว้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
สายตาพวกเขามองไปที่เย่เทียนเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เช่น ความสงสัยและความริษยาที่ซับซ้อน
แต่อารมณ์ของพวกเขาจะกระทบต่อเย่เทียนได้อย่างไร ยังคงสบายๆอยู่กับที่ และทักทายฉินเจิ้งและคนอื่นๆอย่างปกติ
มองไปที่เย่เทียนหลานเขยที่ทั้งคุ้นเคยแปลกหน้าคนนี้ เฉินจุนเหอรู้สึกสิ้นหวังอย่างสมบูรณ์
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน คนที่ยืนเคียงข้างเย่เทียนมีไม่มาก แต่เกือบทุกคนเป็นคนมีอิทธิพลที่มีชื่อเสียง คนเดียวก็น่ากลัวยิ่งกว่าแขกทั้งหมดที่เขาเชิญอีก
แน่นอนแบบนี้ได้เปรียบกว่า เฉินหยังยังสามารถช่วยเหลือบริษัทแซ่เฉินได้มากมาย? ยังมีอะไรสำคัญอีกบ้าง? เย่เทียนจะไปช่วยเฉินหยังอ้อนวอนได้อย่างไร?
ฉินเจิ้งเป็นราชาแห่งเจียงหนันที่ไม่ได้สวมมงกุฎ แต่เขากลับเข้ามาทักทายเย่เทียนด้วยตนเอง นี่คงไม่ได้ล้อเล่นนะ?
เย่เทียนเห็นสถานการณ์ อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปตบที่ไหล่ของเฉินหวั่นชิง เขาสามารถเดาอารมณ์ของ เฉินหวั่นชิงคร่าวๆได้ แต่เธอต้องแยกแยะและยอมรับสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เทียนก็หยิบบัตรธนาคารจากกระเป๋าของเขาและมอบให้ฉินเจิ้ง
“นายท่านฉิน บัตรใบนี้ มี 2พัน10ล้าน 2พันล้านเป็นเงินต้นที่คุณให้ยืม และ 10ล้านถือเป็นดอกเบี้ย!”
ฟุ่บ!
เย่เทียนพูดสั้นๆ แต่กลับทำให้ดวงตาของแขกที่มาร่วมงานเบิกกว้าง และพวกเขาอดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น
สมองของทุกคนคิดถึงเรื่องราคาหุ้นที่ปั่นป่วนของบริษัทแซ่เฉินเมื่อหลายวัน ในใจแต่ละคนก็รู้ว่าตระกูลเฉินจะพุ่งขึ้นมาอย่าฉับพลัน!
ตระกูลฉินถือเป็นตระกูลแรกในเจียงหนัน และตระกูลเฉินเป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ ทั้งสองเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง คิดจะไม่พุ่งขึ้นก็ยากแล้ว!
ในเมื่อ ถ้าหากทั้งสองตระกูลไม่ใช่ว่าจะร่วมมือกัน งั้นทำไมตระกูลฉินถึงให้ตระกูลเฉินยืมเงิน? แถมนั่นยังเป็นเงินจำนวนมหาศาล!
หลังจากแปลกใจในตอนแรก ฉินเจิ้งก็เก็บบัตรธนาคารขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
เกรงว่าตระกูลฉินจะเป็นตระกูลแรกที่สมควรได้รับในเจียงหนัน พวกเขาก็ยังไม่สามารถเพิกเฉยต่อเงิน 2 พันล้านได้
แน่นอน ถ้าเขาเลือกได้ เขายินยอมให้เย่เทียนไม่ต้องคืนเงิน 2 พันล้านนี้ดีกว่า
ในเมื่อ หากมีวัสดุทางการแพทย์เพียงพอ มีเย่เทียนปรมาจารย์ สามารถช่วยกลั่นยาเม็ดอายุให้ฟรีหนึ่งปี นั่นจะสร้างผลกำไรมากกว่า 2 พันล้าน!
ฉากนี้ยิ่งกระตุ้นเฉินหวั่นชิงมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เดิมเธอยังคิดว่าเงินนั้นมาจากบุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเย่เทียน กลับคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนยืมมาจากตระกูลฉิน
สิ่งนี้ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางเย่เทียน เธอรู้ดีว่า ชายคนนี้เกรงว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่มากกว่าที่เธอคิดแน่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...