ถึงแม้จากไปเป็นเวลาเกือบครึ่งปี แต่สำหรับจ๊กกลางนั้นซูเหมยยังคุ้นเคยมาก
ออกมาจาก คฤหาสน์ตระกูลซู ภายใต้การนำทางของซูเหมย ไม่นานทั้งสองก็มาถึงหน้าประตูร้านขายยาขนาดใหญ่ที่มีเอกลักษณ์แห่งหนึ่งแล้ว
“ป่ายเช่าถาง!”
เย่เทียนสังเกตดูรอบๆ รอบหนึ่งอย่างกับคนบ้านนอกเข้าเมือง พูดทอดถอนใจว่า “ร้านขายยานี้ยังใหญ่น่าดูจริงๆ นะ”
“มันแน่อยู่แล้ว! ป่ายเช่าถางร้านนี้เป็นร้านขายยาจีนที่ใหญ่สุดของจ๊กกลาง เป็นร้านเจ้าเก่าของกระทรวงสาธารณสุขเลย”
ซูเหมยพยักหน้าอย่างมั่นใจ พูดอธิบาย “พูดแบบไม่เกินจริงก็คือ สมุนไพรที่หากแม้แต่ป่ายเช่าถางยังไม่มี งั้นเกรงว่าทั้งจ๊กกลางก็คงไม่มีด้วย”
ระหว่างที่พูด ซูเหมยควงแขนของเย่เทียนอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ เดินไปข้างในร้าน
“ทั้งสองท่าน ไม่ทราบว่าพวกคุณต้องการซื้ออะไรเหรอครับ?”
สองคนเพิ่งก้าวเข้ามาในร้าน มีพนักงานเข้ามาต้อนรับทันที
เย่เทียนพูดอย่างไม่อ้อมค้อม “ยาที่ฉันต้องการซื้อค่อนข้างมาก ฉันว่านายไปตามผู้จัดการของพวกนายมาดีกว่ามั้ง!”
ถ้าซูเหมยไม่เตือนสติก็แล้วไป แต่ในเมื่อป่ายเช่าถางเรียกได้ว่าเป็นร้านขายยาจีนที่ใหญ่สุดในจ๊กกลาง คิดว่าอย่างไรเสียต้องมีสมุนไพรของปีที่แล้วด้วยมั้ง?
ก่อนหน้าที่จะเข้ามายังจ๊กกลาง เฉินหวั่นชิงให้บัตรมูลค่าสิบล้านกับเขามาใบหนึ่ง นอกจากต้องใช้มาซื้อตัวยาสมุนไพรของท่านปู่ซู เย่เทียนจึงไม่เกรงใจถือโอกาสซื้อสมุนไพรปีที่แล้วด้วยสักหน่อย
ใช้จ่ายขึ้นมาครั้งนี้อย่างน้อยคงหลักล้านขึ้นไป ไม่แน่ว่าเงินสิบล้านที่เขาเอามาน่าจะยังไม่พอล่ะ!
“นี่......”
พนักงานลังเลอยู่บ้างในชั่วขณะนั้น
แต่ทว่าคนที่ทำงานสายอาชีพนี้ เกรงว่าเจอลูกค้าที่พอเข้ามาก็อยากจะพบผู้จัดการเลย คงคิดโดยจิตใต้สำนึกว่าตนเองทำอะไรผิดเหรอ? กำลังมึนงงมากพอสมควรอยู่กระมัง?
“ฉันคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลซูซูเหมย สมุนไพรที่อยากเข้ามาซื้อในครั้งนี้อาจจะค่อนข้างแพง ให้ผู้จัดการของพวกคุณเข้ามาจะดีกว่า!”
ราวกับมองความกังวลของพนักงานออกแล้ว ซูเหมยจึงก้าวออกมาข้างหน้าเล็กน้อย
“เชิญทั้งสองท่านรอสักครู่ครับ”
ถึงแม้พนักงานจะไม่รู้จักซูเหมย แต่เห็นเธอสง่าผ่าเผยและใจกว้าง จึงไปเรียกผู้จัดการมาแล้ว
ชั่วพริบตาเดียว ก็ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าดังเป็นระยะลอยมาแต่ไกล ชายวัยกลางคนที่ใส่สูทเรียบร้อยยิ้มกริ่มวิ่งเข้ามาแล้ว
“หลานซูเธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไร? ทำไมไม่มาเยี่ยมอาก่อนสักหน่อยล่ะ?”
เขาอายุประมาณสี่สิบห้าสี่สิบหกปี ผมจอนมีหงอกอยู่บ้างเล็กน้อย คิ้วทั้งสองบากและบาง ดวงตาที่ซ่อนไว้ภายใต้แว่นตามีแสงแวววาวแฉลบผ่านไม่ขาดสาย ลักษณะหน้าตาของคนเจ้าเล่ห์โดยแบบฉบับ
เพียงแค่มองแวบหนึ่ง เย่เทียนก็ระมัดระวังต่อผู้ชายวัยกลางคนคนนี้แล้ว
คนที่ลักษณะหน้าตาแบบนี้ มักจะความคิดล้ำลึก ฝีมือร้ายกาจ ภายนอกดูอะไรไม่ออก แต่โดยส่วนตัวลงมือด้วยแผนการลับขึ้นมานั่นคือเกิดหายนะติดต่อกันเป็นแน่
ในความเป็นจริง การคาดการณ์ของเย่เทียนไม่ผิด ชายวัยกลางคนผู้นี้คือหยางหย่งซินผู้นำของตระกูลหยางที่ชื่อเสียงโด่งดังของจ๊กกลาง
ตำแหน่งของตระกูลหยางในจ๊กกลางนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าตำแหน่งของตระกูลฉินที่เจียงหนันแม้แต่น้อย แม้กระทั่งเทียบกันแล้วยังไม่มีอะไรที่สู้ไม่ได้ สมกับเป็นผู้มีอิทธิพลในจ๊กกลางเลยทีเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตระกูลหยางแห่งนี้อาศัยกิจการยารักษาสร้างตัวจนร่ำรวยขึ้นมา ระดับบารมีในหมู่ประชาชนไม่ใช่ตระกูลฉินจะสามารถเปรียบเทียบได้
“อาหยาง หนูเพิ่งกลับมาถึงได้ไม่กี่ชั่วโมงเองค่ะ อาการป่วยของคุณปู่หนู......”
หลังจากตื่นตะลึงไป ไม่นานซูเหมยก็ตอบสนองเข้ามา พูดแบบกลัดกลุ้ม “ดังนั้นหนูถึงเข้ามาซื้อยาหน่อยค่ะ”
“หลานซู เธออย่ากังวลเกินไปเลย ฉันเชื่อว่าท่านปู่ของเธอเขาเป็นคนดีสวรรค์คุ้มครอง จะต้องไม่เป็นอะไร”
บนหน้าหยางหย่งซินเผยสีหน้าเห็นอกเห็นใจออกมา แตะๆ ไหล่ของซูเหมยแบบปลอบใจเต็มที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่