“ตระกูลตู้แห่งเมืองจินเหรอ?”
สำหรับการใช้อำนาจบาตรใหญ่ของตู้เฉี่ยวเฉี่ยว สีหน้าเย่เทียนกลับดูแปลกประหลาดขึ้นมา
เถ้าแก่ตู้เป็นถึงบุคคลในเทพนิยาย อาศัยแค่กำลังของตนเอง พยายามผลักดันให้ตระกูลตู้มาสู่ตำแหน่งปัจจุบันนี้ภายในเวลาสามสิบปีสั้นๆ เป็นบุคคลทะเยอทะยานแน่นอน
เย่เทียนยังพอจำได้เลือนรางเมื่อชาติที่แล้ว สุดท้ายเถ้าแก่ตู้ก็มีชีวิตอยู่ดี!
แน่นอนว่า เรื่องพวกนี้เกี่ยวข้องกับเย่เทียนไม่มากนัก สิ่งที่เย่เทียนครุ่นคิดคืออีกปัญหาหนึ่ง
กิจการสำคัญสุดของตระกูลตู้คือกิจการอัญมณี ที่ตู้เฉี่ยวเฉี่ยวมาจ๊กกลางครั้งนี้ เพื่อมาหายาวิเศษให้เถ้าแก่ตู้แค่นั้นจริงเหรอ? หรือว่าอยากเข้ามาแทรกในเหมืองหินหยกสักหน่อย?
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หลังจากนี้สักพัก ในที่สุดประตูใหญ่ของคฤหาสน์หลังน้อยถูกเปิดออกมาแล้ว
พนักงานต้อนรับสาวงามที่สวมชุดกี่เพ้าสองคนเข็นโต๊ะอาหารแบบเคลื่อนที่ได้เดินออกมาแล้ว ด้านบนยังจัดวางหน้ากากการ์ตูนแบบเดียวกันเอาไว้
“งานประมูลใกล้จะเริ่มต้นแล้ว เชิญเจ้านายทุกท่านเข้านั่งประจำที่ค่ะ”
ภายใต้การออกนำหน้าของตู้เฉี่ยวเฉี่ยว นักธุรกิจยามากมายที่รอคอยประมูลต่างหยิบหน้ากากขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในงาน เข้าไปด้านในคฤหาสน์หลังเล็กแล้ว
หลังจากใส่หน้ากากแล้วก้าวเข้าไปในคฤหาสน์หลังเล็ก เย่เทียนถึงพบว่าคฤหาสน์หลังเล็กถูกปรับปรุงเป็นพิเศษ
ทั้งส่วนภายในคฤหาสน์ถูกทำให้ว่างทั้งหมด ด้านในสุดเป็นเวทีเล็กอันหนึ่ง คิดว่าคงเป็นสถานที่ผู้นำการประมูลใช้ดำเนินการ และแสดงตัวยาสมุนไพรอันล้ำค่า
ด้านล่างเวทีเป็นเก้าอี้พลาสติกสีแดงมีพนักพิงหลังที่เรียบง่ายมากที่สุดหลายสิบตัว ด้านบนเก้าอี้ยังวางรีโมตคอนโทรลที่ขนาดประมาณมือถือไว้อีกอันด้วย นอกจากเอาไว้ระบุราคาประมูลแข่งเข้าไปแล้วจะนำไปใช้อะไรได้อีก
ไม่เพียงแค่นี้ หน้าต่างของคฤหาสน์หลังเล็กยิ่งปิดไว้ด้วยผ้าดำทั้งหมด ถ้าปิดประตูใหญ่ลงสนิท เกรงว่าคงมืดมิดยื่นมือไปก็มองไม่เห็นอะไรจริงๆ
เขาดึงซูเหมยไว้ถือโอกาสหาเก้าอี้นั่งลงมาแล้ว เย่เทียนกวาดตามองโดยรอบ เนื่องจากทุกคนใส่หน้ากากเหมือนกันไว้ทั้งหมด เวลานี้ใครจึงไม่รู้จักใครทั้งสิ้นจริงๆ
อย่างที่คาดการณ์ไว้ตอนแรกเริ่ม หลังจากที่ทุกคนนั่งลงเรียบร้อย ประตูใหญ่ถูกปิดลง ทั้งคฤหาสน์จมสู่ความมืดมิดถึงที่สุด
ปึง!
ไฟสปอตไลต์ดวงหนึ่งสาดส่องบนเวทีน้อยทันใด ผู้นำการประมูลที่ใส่หน้ากากเหมือนกันขึ้นมาบนเวทีในขณะเดียวกัน ชี้แจงกฎกติกาของการประมูลครั้งนี้ให้ทุกคนทราบกันสักหน่อย
นี่คืองานประมูลไร้เสียงและไม่ระบุชื่องานหนึ่ง ใส่ราคาที่อยากประมูลเข้าไปในอุปกรณ์ประมูลที่จัดไว้ให้ก็สามารถเข้าร่วมแข่งประมูลได้แล้ว นอกจากนี้ยังไม่อนุญาตให้ส่งเสียงใดๆ ต่อให้เป็นการพูดคุยเบาๆ กับเพื่อนก็ไม่ได้ทั้งนั้น
อีกอย่างยังมีอีกจุดหนึ่งคือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานประมูลนี้เป็นกลุ่มของร้านขายยาขนาดเล็กไม่กี่แห่งในจ๊กกลางรับรอง ตัวยาสมุนไพรที่ใช้ประมูลจึงมีจริงมีปลอม อาศัยสายตาแต่ละคนเอาเอง ออกไปจากที่นี่แล้วจะไม่มีการรับผิดชอบ
ผู้นำการประมูลไม่ชักช้า ชี้แจงเสร็จสิ้น ก็เริ่มต้นประมูลห่อสิ่วโอวที่ว่ากันว่ามีอายุหนึ่งร้อยห้าสิบปี
น้ำหนักสองจุดห้ากิโลกรัม ราคาเริ่มประมูลห้าล้าน จนกระทั่งถูกคนใช้ราคาสิบห้าล้านแย่งไปครอง
“ไม่เสียแรงเป็นตระกูลตู้แห่งเมืองจิน ยังมีเงินมากแสดงอำนาจบาตรใหญ่จริงๆ!” เหล่าคนรวยในงานพูดทอดถอนใจในใจ
ไม่มีเหตุผลอื่นใด การประมูลสองสามรอบติดกันนี้ ล้วนตกอยู่ในมือของคนเดียวกัน
ถึงแม้ว่านี่จะคืองานประมูลไร้เสียง และทุกคนยังใส่หน้ากากเหมือนกันไว้ แต่สองสามรอบนี้ ราคาในการประมูลสูงถึงเจ็ดสิบล้าน นอกจากตู้เฉี่ยวเฉี่ยวพวกเงินหนาที่มาจากเมืองจินคนนี้แล้ว ยังมีใครสามารถมีกำลังอันนี้ได้อีก?
ผู้หญิงคนนี้ไม่เห็นเงินเป็นเงินเสียงจริงๆ เลย ไม่ว่าจะเสนอราคาประมูลมาเท่าไร หล่อนก็ระเบิดราคาสูงกว่าสามเท่าขึ้นมา ทำเอาผู้ซื้อที่เดิมทีมีความคิดอยากซื้อตกใจจนถอยหนีไป
ต่อให้เป็นเย่เทียน แย่งบัวหิมะเจ็ดสิบปีมาได้เพียงสองอันเท่านั้นเอง อย่างอื่นส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือของตู้เฉี่ยวเฉี่ยวหมดแล้ว
ไม่ใช่ว่าเย่เทียนไม่มีเงิน หลังจากเขาส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากเฉินหวั่นชิง คุณหนูใหญ่เฉินก็โอนเงินห้าสิบล้านมาในบัตรเขาอย่างห้าวหาญมาก
แต่ว่าเย่เทียนรู้ชัดมากว่า คำกล่าวเกินจริงของงานประมูลนี้มากเกินไปเสียจริง!
ตัวยาสมุนไพรที่อายุยิ่งมาก มักจะดึงดูดชี่ทิพย์บนโลกได้มากไปด้วย ชี่ทิพย์บนโลกที่แฝงเร้นอยู่ก็ยิ่งมากเช่นกัน
ตู้เฉี่ยวเฉี่ยวจ่ายเงินเจ็ดสิบล้านประมูลสมุนไพรพวกนั้นไป นอกจากมีสองอย่าง โดยพื้นฐานอย่างอื่นนั้นเป็นของปลอม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่