“ไอ้หนู เก่งนักก็อย่าหนีแล้วกัน!”
“ถ้าคุณหนีไป สองแม่ลูกนี้ก็จะไม่มีชีวิตที่ดีในอนาคตแน่นอน!”
หยูเต๋อยี่ผู้ซึ่งถูกตบหน้า จ้องไปที่เย่เทียนด้วยความขุ่นเคือง กัดฟันและขู่
หยูเต๋อยี่ตะโกนเรียกญาติที่อยู่ข้างหลังเขาโดยไม่รอคำตอบจากเย่เทียน ขวางทางหนีทุกทางของเย่เทียน
“ผมไม่สนหรอกว่าพวกคุณแค่เฝ้ามองอยู่ข้างสนาม แต่ถ้าเด็กคนนั้นอยากหนี พวกคุณต้องห้ามมันไว้ ใครที่ไม่ห้าม ผมจะไม่ปล่อยเขาไปแน่!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ญาติเหล่านั้นก็ต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน พวกเขาย้ายตำแหน่งและขวางไว้หน้ารถ ตัดเครื่องมือการเดินทางของเย่เทียนที่จะไปจากที่นี่
“โอเค ผมไม่ไป!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เย่เทียนก็ยกคิ้ว และสายตาของเขามองไปที่หยูเต๋อยี่ก็เริ่มเย็นชา
หยูเต๋อยี่คนนี้ ทำเรื่องเลวๆในหมู่บ้านจนชินแล้ว เขาต้องการดูว่าไอ้สารเลวคนนี้มีขยะคนไหนที่อยู่เบื้องหลังเขา
"ถือว่ามึงแน่! รอไว้เถอะ!"
หยูเต๋อยี่หัวเราะอย่างเย็นชาไม่หยุด นั่งลงบนพื้นและไม่ลุกขึ้นมา
การตบของเย่เทียนเมื่อกี้นั้นโหดจริงๆ ตบจนตอนนี้เขายังไม่สามารถคืนสู่สภาพเดิมได้ ตอนพูดยังรู้สึกเจ็บ
“พี่เย่ ลุงของหยูเต๋อยี่เป็นรองผู้อำนวยการสถานีตำรวจ หากถูกจับ อาจถูกขังไว้สองสามวัน ดังนั้นคุณรีบไปจากที่นี่โดยเร็วจะดีกว่า!”
“คุณแข็งแกร่งขนาดนี้ เชื่อว่าพวกเขาจะไม่กล้าขวางทางคุณ”
หยูฝานเดินมาข้างกายเย่เทียนเพียงไม่กี่ก้าว ใบหน้าของเขาเป็นกังวลเล็กน้อย
ดังคำกล่าวที่ว่า ประชาชนไม่สู้กับเจ้าหน้าที่
หลายปีที่ผ่านมา เหตุผลที่หยูเต๋อยี่สามารถทำความชั่วได้ในหมู่บ้านเป็นเวลานาน ก็เพราะว่า อย่างแรก เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นส่วนมากมีแต่เรื่องเล็กๆ เช่นการขโมย การชกต่อย ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่เกินไป
ประการที่สอง เป็นเพราะเบื้องหลังเขามีลุงเขาอยู่
แม้ว่าจะเป็นการไปแจ้งความกับตำรวจ แต่ส่วนใหญ่แล้ว หยูเต๋อยี่แค่จ่ายค่าปรับเล็กๆน้อยๆก็สามารถออกจากคุกในสองสามวัน ซึ่งไม่มีอันตรายโดยสิ้นเชิง
แต่ครอบครัวที่โทรแจ้งตำรวจก็จะซวย หลังจากที่หยูเต๋อยี่ออกมาแล้ว เขาสามารถทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้น เช่นเอากาวปิดรูกุญแจ ขโมยไก่วางยาสุนัขฯลฯ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนยอมรับว่าเป็นความโชคร้ายก็ไม่ยอมไปยั่วยุหยูเต๋อยี่
“ไม่ได้ เมื่อกี้เขาบอกไว้อย่างชัดเจนแล้ว ถ้าผมไป พวกคุณสองคนจะทำอย่างไร?”
“ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคนพวกนั้นต้องการขวางทางผมขับรถออกไป จะให้ผมชนพวกเขาจนตายหมดเหรอ?”
เย่เทียนส่ายหัวเล็กน้อย ปฏิเสธความเป็นห่วงของหยูฝาน และพูดด้วยรอยยิ้ม"วางใจได้เลย คุณไม่ต้องกังวล ผมจัดการเรื่องนี้ได้!"
“เถ้าแก่เย่ นี่...”
เมื่อเห็นเย่เทียนไม่ฟัง หยูฝานก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
เพราะว่า ถ้าเย่เทียนจะไปจากที่นี่จริงๆ สองแม่ลูกก็จะไม่สามารถอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้อีกต่อไป
เย่เทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าเสื้อและกดหมายเลขของตี๋ต้าจื้อ
นี่คือเบอร์ติดต่อที่ตี๋ต้าจื้อทิ้งไว้ในกระดาษก่อนหน้านี้ เย่เทียนได้จดบันทึกไว้โดยบังเอิญ แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้ใช้เร็วขนาดนี้
“เฮ้ มีอะไรก็รีบพูด ผมยุ่งอยู่”
ใช้เวลาไม่นานในการเชื่อมต่อโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของตี๋ต้าจื้อ
มุมตาของเย่เทียนกระตุกเล็กน้อย ท่าทีอะไรของไอ้หนุ่มคนนี้ ไม่รู้จักเคารพเจ้านายของเขาหน่อยเหรอ?
แม้จะพูดแบบนี้ เย่เทียนก็ไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อยแค่นี้และตรงไปที่หัวข้อ
“ผมว่าผมน่าจะได้นั่งรถคนอื่นกลับแล้ว รบกวนคุณมาช่วยขับรถกลับไปที่บ้านของตระกูลซูในจ๊กกลางหน่อย”
“ผมมอบกุญแจรถให้หยูฝานแล้ว เมื่อคุณกลับมาก็ไปเอากับเขา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่