พอเห็นผู้คนมากมายที่ออเต็มอยู่ตรงหน้าตึกอำนวยการ สีหน้าของเฉินหวั่นชิงก็ดูบึ้งตึงขึ้นมาทันที
ถึงเธอจะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มีคนกลุ่มใหญ่ผู้ดูแลสิบกว่าคนและกำลังโวยวายกันอยู่ มันจะเป็นเรื่องเล็กไปได้ยังไง?!
พอคิดได้อย่างนั้น เฉินหวั่นชิงก็รีบเปิดกระจกรถ เสียงโวยวายด้านนอกก็ดังเข้ามาทันที
เพียงแต่ คนที่โวยวายนั้นมีมากเกินไป คนนู้นทีคนนี้ทีวุ่นวายอย่างกับตลาดสด ฟังไม่ออกเลยว่ากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่
เย่เทียนได้ขับรถไปจอดไว้ข้างทาง หลังทั้งคู่ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปใกล้ ถึงพอฟังออกว่าพูดเรื่องอะไรกันอยู่
“นี่มันเลทมาตั้งกี่วันแล้ว? รีบจ่ายค่าแรงให้เราเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นพวกเราจะหยุดงานประท้วง!”
“ใช่ๆ ฉันยังต้องไปจ่ายค่าเช่าห้องอีก!”
“เมื่อก่อนก็ไม่เคยมีปัญหา เดือนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? ทำงานล่วงเวลานิดหน่อยก็ช่างมัน แต่นี่เงินเดือนก็จะไม่จ่ายแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
เหล่าคนงานต่างพากันทำหน้าเคร่งเครียด จากการแสดงความเห็นของตัวแทนที่อยู่ด้านหน้า คนที่อยู่ข้างหลังก็พากันพูดขึ้นมา จนสร้างแรงกดดันได้อย่างมหาศาล
ผู้ดูแลที่ถูกล้อมไว้ร้อนรนจนเหงื่อออกเต็มหน้า สีหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่รู้จะทำยังไงดี
“ทุกคนอย่าเพิ่งใจร้อน! ใจเย็นกันก่อน!”
“ตอนนี้เรื่องเงินเดือนผมเองก็ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราขอเวลาสักสองสามวัน ให้เราได้ตรวจสอบดูก่อน แล้วเราจะมีคำตอบให้ทุกคนอย่างแน่นอน!”
ชายวัยกลางคนที่ใส่สูทเรียบร้อยรีบก้าวออกมา เพื่อทำให้ทุกคนใจเย็นลง
“ที่คุณบอกว่าไม่รู้นี่มันหมายความว่ายังไง? คุณเป็นผู้อำนวยการของโรงงานทำไมถึงไม่รู้ล่ะ?!”
“อีกอย่าง สิบวันก่อนรองผอ.ก็บอกว่าจะตรวจสอบ แล้วตอนนี้ตรวจอะไรได้บ้างแล้วล่ะ?”
“จะบอกพวกคุณไว้แล้วกัน จ่ายค่าแรงให้เรามาซะ ไม่อย่างนั้นวันนี้เราก็จะหยุดงานประท้วง!”
แต่น่าเสียดาย พอชายวัยกลางคนพูดจบ พวกคนงานก็พูดสวนขึ้นมาทันที คิดว่าเขานั้นกำลังดึงเวลาอยู่ และไม่ยอมกลับไปกันอย่างแน่นอน
ชายวัยกลางคนแซ่ฟ่าน ชื่อซวนพยางค์เดียว เป็นผู้ดูแลสูงสุดที่บริษัทแซ่เฉินส่งมา
ความจริงเขาก็เป็นแค่แพะ ปกติก็มีงานมากมายต้องให้ทำ ไม่ค่อยได้พบหน้าพนักงานมากมายแบบนี้เท่าไหร่
ตอนนี้เมื่อไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เขาถึงได้รับสาย แล้วรีบมาที่นี่อย่างร้อนรน
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ขึ้นไปดูรายละเอียดที่ข้างบน ก็ถูกคนงานที่ตาดีมองออก แล้วถูกขวางไว้ในที่สุด
พอเห็นเหล่าคนงานที่กำลังโมโห ฟ่านซวนก็ทำหน้าหงุดหงิด และไม่สามารถเข้าใจได้เลย
บริษัทแซ่เฉินนั้นเป็นธุรกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ใช่แค่ในเจียงหนัน แม้แต่ในเมืองเจียงหวยยังถือว่าพอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เคยเบี้ยวเงินเดือนของคนงานเมื่อไหร่กัน?
ยิ่งไปกว่านั้น เงินเดือน เดือนที่แล้วได้โอนออกไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนั้นเขาเป็นคนเซ็นแล้วบอกให้รองผอ.ไปจัดการด้วยตนเองเลยนะ!
ตอนนี้บอกว่าจะไปตรวจดู แต่คนกลุ่มนี้กลับไม่ยอมให้เขาไปเลย
ส่ิงสำคัญคือ รองผอ.ลางานตั้งแต่เมื่อวาน บอกว่าแม่ป่วยเลยจะกลับบ้านรอบหนึ่ง นี่มันก็ทำให้เขาปวดหัวจนแทบกระอักเลือดแล้ว
แกนะไม่ลางานก็ไม่มีอะไร พอลาปุ๊บก็เกิดเรื่องปั๊บ ฉันต้องมารับหน้าแทน นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!
“ทุกคน ทุกคน ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ พวกคุณช่วยหยุดก่อนได้มั้ย? ผมรับปากว่าจะต้องให้คำตอบที่ที่คนพอใจอย่างแน่นอน!”
แต่ไม่ว่าฟ่านซวนจะเกลี้ยกล่อมยังไง เหล่าคนงานก็ไม่เอาด้วย อารมณ์ก็เริ่มรุนแรงมากขึ้น
เมื่อตัวแทนคนงานผิวเข้มที่อยู่ข้างหน้าสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนๆ เขาก็ยิ้มเยาะออกมาที่มุมปาก ราดน้ำมันลงกองไฟแล้วตะโกนออกมา
“ในเมื่อพวกมันไม่ยอมจ่ายค่าแรงให้เรา งั้นเราก็บุกเข้าไป รื้อของเพื่อชดเชยกับค่าแรงกันเลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่