ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 391

วันรุ่งขึ้น

เนื่องจากได้รับข้อความจากเฉินหวั่นชิงเมื่อคืน แม้ว่ามีเรื่องที่จะทำ แต่เย่เทียนยังคงไปรับเฉินหวั่นชิงที่ตระกูลเฉินอย่างเชื่อฟัง

และใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการเดินทาง ทั้งสองคนมาถึงจัตุรัสหวาฝูช็อปปิ้งมอลล์อย่างราบรื่น ภายใต้การนำของเฉินหวั่นชิง ทั้งสองเดินเท้ามาถึงสถานที่ที่พวกเขาจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว

ภายใต้ช่วงเวลาที่สร้างกระแสโดยไม่สนเรื่องเงินนี้ สื่อข่าวแทบจะทั้งเจียงหนัน แม้กระทั่งเมืองเจียงหวยต่างจับตาดูบริษัทแซ่เฉิน

แต่มาถึงปุ๊บ เย่เทียนและเฉินหวั่นชิงสองคนก็สัมผัสความผิดปกติได้ในบัดดล

ตรงจุดแถลงข่าวถูกผู้คนจำนวนมากล้อมเอาไว้ มีพนักงานของบริษัทแซ่เฉิน กลุ่มนักข่าวและสื่อต่างๆ กลุ่มนักธุรกิจ และมวลชนที่มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงานแถลงข่าว ทั้งหมดมารวมตัวกัน

เสียงเอะอะโวยวายดังเข้ามา เฉินหวั่นชิงอุดหูด้วยสัญชาตญาณ คิ้วเรียวขมวดเป็นปมมองดูภาพอันดุดันโหมกระหน่ำตรงหน้านี้

เย่เทียนตาแหลม เขามองปราดเดียวก็เห็นผู้ช่วยของเฉินหวั่นชิง กู้กวนชี จึงถามด้วยสัญชาตญาณ

"กวนชี เกิดอะไรขึ้น?"

กู้กวนชีที่ยุ่งจนหัวหมุนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีได้ยินเสียงของเย่เทียนแล้วรีบวิ่งเข้ามา

"คุณชายเย่ ฉันเองก็ไม่แน่ใจค่ะ ตอนมาถึงนี่ก็พบว่ามีคนนอนอยู่บนพื้น เหมือนว่าจะเป็นผู้ทดลองที่บริษัทของเราเชิญมา ถูกพิษตอนทดลองเซรั่มปลูกผมของเรา!"

"โดนพิษ?!"

เฉินหวั่นชิงตกใจ เซรั่มตัวนี้ที่ได้รับการวิจัยเธอเคยใช้งานด้วยตัวเอง นอกจากจะไม่มีพิษแล้ว ยังได้ผลดีมากด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทุ่มเงินสร้างกระแสอย่างบ้าคลั่งหรอก

แต่ทำไมตอนนี้ถึงมีคนโดนพิษล่ะ?

หรือว่าบริษัทแซ่เจิ้งแห่งเมืองเอกไม่เพียงแต่จ้างหลินไห่เฟิงสร้างข่าวปลอม แต่ยังเล่นตุกติกทำให้ขั้นตอนการผลิตเกิดข้อผิดพลาด?

นี่เป็นปัญหาใหญ่ เฉินหวั่นชิงไม่กล้าที่จะละเลย เธอรีบเดินเข้าไปทางฝูงชน

ในฐานะประธานบริหารของบริษัทเฉิน ภายใต้การสร้างกระแสอย่างบ้าคลั่งในช่วงนี้ มีคนรู้จักเฉินหวั่นชิงอยู่บ้าง

พอเห็นเธอปรากฏตัว กลุ่มนักข่าวก็ล้อมขึ้นไปทันที

"ประธานเฉิน เซรั่มปลูกผมของคุณมีปัญหา กัดกินหนังศีรษะจนสึกกร่อน คุณมีคำอธิบายอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ยคะ"

"ประธานเฉิน หรือว่าบริษัทของคุณผสมสารพิษลงในเซรั่มปลูกผมเพื่อเพิ่มผลกำไรเหรอครับ?”

ชั่วขณะนั้น นักข่าวทุกคนจ่อไมค์ไปที่เฉินหวั่นชิง

คิ้วเรียวของเฉินหวั่นชิงขมวดเป็นปม เธอตอบอย่างสุขุมใจเย็น "เรียนเพื่อนๆนักข่าวทุกท่าน ตอนนี้ฉันก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกท่านโปรดอย่าเพิ่งถามอะไรเลย ให้ฉันไปดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากันนะคะ!"

เย่เทียนที่ดูอยู่ด้านหลังลอบพยักหน้ากับตัวเอง ไม่ตื่นตระหนกแม้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน รักษาความสุขุมไว้ได้ สมกับเป็นภรรยาของฉันจริงๆ!

แน่นอนว่าเฉินหวั่นชิงไม่รู้เรื่องหรอกว่าเย่เทียนคิดอะไร เธอกวาดสายตามองไปที่กู้กวนชี

กู้กวนชีเข้าใจได้ในทันที เธอเรียกกลุ่มยามเข้ามากีดกันฝูงชนจนมีหนทางให้เดินในที่สุด

เย่เทียนไม่ได้พูดอะไร เขาเดินตามฝูงชนเข้าไป พอทอดสายตามองไปแล้วก็ต้องใจหายวาบ

เขาเห็นลุงวัยกลางคนคนหนึ่งนอนหมดสติอยู่บนพื้น ผมร่วงกว่าครึ่งหัว มีท่าทีว่าหนังศีรษะจะเน่าด้วย แถมยังมีตุ่มหนองขึ้นมาสามสี่ตุ่ม ราวกับแผลไฟไหม้ติดเชื้อ ดูน่าขยะแขยงมาก

เฉินหวั่นรู้แน่ชัดแล้วว่าสถานการณ์ฉุกเฉินมาก จึงหันมองเย่เทียนอย่างขอความช่วยเหลือ

“ฉันขอดูหน่อย!”

เย่เทียนกำลังจะก้าวออกมา ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นกะทันหันจากฝูงชน

และก็เห็นชายหนุ่มในชุดสูทคนหนึ่งก้าวออกมาจากฝูงชน ก้าวฉับไวเข้ามาอยู่ตรงหน้าเฉินหวั่นชิง และยื่นมือออกมา “สวัสดีครับประธานเฉิน ผมคือ พานเหลียงผิงแห่งโรงยาฝูจือ”

“ พานเหลียงผิง? ฉันรู้จักเขา เขาคือหลานของปรมาจารย์การแพทย์แห่งประเทศ ท่านพาน!”

“ฉันก็พอรู้อยู่บ้าง พานเหลียงผิงคนนี้อายุไม่มาก แต่วิชาแพทย์เก่งกาจสุดๆ”

“เขาอยู่ทางเหนือไม่ใช่เหรอ มาเจียงหนันตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“จะสนทำไมว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้มีเขาอยู่นี่น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะ”

เมื่อได้ยินเสียงวิจารณ์ของทุกคน พานเหลียงผิงมีความยโสฉายอยู่บนใบหน้า สายตาจ้องเขม็งไปที่เฉินหวั่นชิง

“คุณเฉิน ให้ผมดูหน่อยนะครับ”

เฉินหวั่นชิงได้ยินแล้วแอบขมวดคิ้วเล็กน้อย ข้างกายเธอมีหมอเทวดาอย่างเย่เทียนอยู่ ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นซะที่ไหน?

“ให้เขาไปลองดูสิ”

เวลานั้น เย่เทียนเอ่ยขึ้นเรียบๆ ในเมื่อมีคนจัดการปัญหานี้ได้ เขาก็ขี้เกียจออกโรง

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียน เฉินหวั่นชิงได้สติและพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนหมอพานด้วยนะคะ”

“ฮ่าๆ ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ได้รับใช้ประธานเฉิน เป็นเกียรติของผมครับ”

พานเหลียงผิงแกล้งหัวเราะอย่างถ่อมต้ว ทว่าการกระทำไม่รอช้า เขาเดินดิ่งเข้าไปหาคุณลุงที่นอนสลบอยู่

แม้ว่าปากเย่เทียนบอกว่าให้ พานเหลียงผิงไปลองดู แต่ตัวเขาก็ตามเข้าไป คอยจับตาดูสถานการณ์ของคุณลุงอย่างใกล้ชิด

พอมองดูดีๆ หน้าตาของเย่เทียนเริ่มฉายแววโมโห

เขาไม่รู้ว่าใครกันที่เล่นตุกติกลับหลัง หนังหัวกว่าครึ่งซีกของคุณลุงคนนี้ถูกทำลาย ฝีมือไร้คุณธรรมชนาดนี้ทำเอาเขาตะลึง

ขณะเดียวกัน พานเหลียงผิงตรวจดูอาการของคุณลุงเรียบร้อยแล้วก็มีแผนตั้งรับในใจ

เขาล้วงเอาเข็มเงินที่สั้นยาวไม่เท่ากันออกจากอก หลังจากฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอลล์ง่ายๆแล้วก็ลงมือฝังเข็มไปบนตัวคุณลุงอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นฝีมือของเขา เย่เทียนลอบพยักหน้ากับตัวเอง เจ้านี่ถึงจะดูสามหาว แต่มีความสามารถจริงๆ เกรงว่าอีกไม่นานคุณลุงก็จะฟื้นแล้ว

“เอ๋ เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงยังไม่ฟื้นล่ะ?”

ทว่ารออยู่พักใหญ่ คุณลุงก็ยังไม่มีทีท่าจะฟื้น พานเหลียงผิงพึมพำเบาๆ

เขาฝังเข็มอีกสองสามครั้งอย่างไม่อยากเชื่อ แต่คุณลุงยังคงไม่มีทีท่าจะฟื้น

เย่เทียนดูแล้วก็ขมวดคิ้วเช่นกัน เขาไม่ได้สนใจ พานเหลียงผิง เขาย่อตัวลงและจับชีพจร ถ่ายทอดชี่ทิพย์เข้าร่างกายคุณลุงอย่างบ้าคลั่ง แล้วพลันตะลึ!

อาการของคุณลุงคนนี้ไม่ใช่ง่ายๆแค่หนังศีรษะเน่าเท่านั้น หากไม่รีบรักษาเกรงว่าเขาจะอันตรายถึงชีวิต

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมหลังจาก พานเหลียงผิงฝังเข็มไปแล้วคุณลุงถึงไม่ยอมฟื้นสักที

“เพื่อทำลายบริษัทแซ่เฉิน ต้องเล่นกันถึงชีวิตเลยเหรอ?!”

เย่เทียนบันดาลโทสะ คิดไม่ถึงเลยว่าบริษัทแซ่เจิ้งจากจ๊กกลางจะจิตใจอำมหิตถึงเพียงนี้

“คุณถอยไปเถอะ คุณรักษาไม่หายหรอก เดี๋ยวผมจัดการเอง!”

พานเหลียงผิงยังครุ่นคิดอย่างหนักอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างหู เขาหันไปมองเย่เทียนตามสัญชาตญาณ

“คุณเป็นใครกัน? คนไข้ที่ผมยังรักษาไม่หายคุณจะไปมีวิธีอะไร?”

เห็นสีหน้าหงุดหงิดของเขาแล้วเย่เทียนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ความรู้สึกดีที่มีต่อ พานเหลียงผิงเมื่อกี้มลายหายไปจนหมดสิ้น

"ผมเป็นเหมือนกับคุณ เป็นหมอเหมือนกัน แต่โรคที่คุณรักษาไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะรักษาไม่ได้!"

ทันทีที่เย่เทียนพูดแบบนี้ออกมา พานเหลียงผิงก็บันดาลโทสะ ถึงเขาจะอายุน้อย แต่เขาได้รับการถ่ายทอดวิชาจากคุณปู่ของเขา มีชื่อเสียงในวงการแพทย์อย่างมาก เคยโดนเมินขนาดนี้เสียเมื่อไหร่?

และเมื่อเห็นเย่เทียนดึงเข็มเงินที่เขาฝังไว้ในตัวลุงได้อย่างง่ายดาย ก็แอบตกใจ

ฝังเข็ม ดึงเข็ม ล้วนต้องใช้เทคนิคทั้งนั้น

หากทำผิดพลาดไปเพียงเล็กน้อยก็จะก่อให้เกิดการเสียเลือด แต่เย่เทียนดึงเข็มออกจากตัวคุณลุงทีละเข็มโดยที่คุณลุงไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย บ่งบอกได้ว่าเย่เทียนพอมีความสามารถอยู่จริงๆ

เขาไม่มีวิธีรักษาคุณลุงจริงๆ สู้ยอมถอยออกมาดีกว่า เขาอยากจะเห็นจริงๆว่าเจ้าคนที่ไร้เหตุผลคนนี้จะมีความสามารถขนาดไหน!

เย่เทียนไม่สนใจเขาเลยสักนิด ตาของเขาจ้องเขม็งไปที่คุณลง ชีวิตคนแขวนอยู่บนเส้นด้าย จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด

ด้านนอกฝูงชน เฉินหวั่นชิงไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย เธอทุ่มเทไปเยอะมากสำหรับงานแถลงข่าวเปิดตัวเซรั่มปลูกผมในวันนี้ ถ้าเรื่องในวันนี้ไม่ได้รับการจัดการที่ดี อย่าว่าแต่เงินที่ลงทุนไปหายวับเลย แม้แต่บริษัทแซ่เฉินจะพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย!

"ประธานเฉินไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ คุณชายเย่เก่งมาก เขาออกโรงแล้วไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!"

ในช่วงเวลาสำคัญนี้ กู้กวนชีกำมือเล็กๆของเฉินหวั่นชิงและให้กำลังใจ

เฉินหวั่นชิงคลี่ยิ้มมุมปากฝืนๆ เวลานี้แล้วเธอไม่ได้พูดอะไรอีก สายตาจ้องมองไปที่เย่เทียนตลอด....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่