ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 390

ตอนที่เย่เทียนเจอหน้าหลิวชิง เขาก็ได้เข้าใจว่าทำไมหลิวชิงถึงหายตัวไป เข้าใจว่าทำไมรู้เรื่องเชิ่งหู่แล้วก็ยังไม่ไปช่วย

ไม่ใช่อื่นใด หลิวชิงได้เสียแขนไปแล้วข้างหนึ่ง!

มือซ้ายของเขาถูกคนตัดไปตั้งแต่หัวไหล่ลงไป มือขวาก็เสียไปสองนิ้ว ไม่ได้ดีไปกว่าเชิ่งหู่เลย

ด้วยสภาพของเขาตอนนี้ เมื่อไหร่ที่โผล่หัวออกไป ก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น!

นอกจากหลิวชิง ยังมีสมาชิกของมังกรฟ้าอีกสิบกว่าคนที่เย่เทียนเคยเห็นหน้า

คนพวกนี้ถ้าไม่ใช่หัวหน้าที่ทุ่มเทของมังกรฟ้า ก็เป็นสมาชิกที่ซื่อสัตย์ของมังกรฟ้า ต่อให้ตอนนี้มังกรฟ้าจะถูกลบชื่อไปแล้ว พวกเขาก็ยังรวมตัวอยู่ด้วยกัน

“คุณชายเย่!”

ทุกคนที่เห็นการปรากฏตัวของเย่เทียนต่างพากันตื่นเต้นขึ้นมา แต่เย่เทียนกลับไม่รู้สึกเจ็บปวด

ไม่นึกเลยว่าช่วงที่ตัวเองเดินทางไปจ๊กกลาง เจียงหนันจะเกิดเรื่องที่ใหญ่โตแบบนี้ขึ้น

ภาพของเมื่อวานยังคงวนเวียนอยู่ในสายตา แต่มาวันนี้กลับกลายเป็นภาพที่น่าอนาถไปซะแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเชิ่งหู่ หรือว่าหลิวชิง ถ้าแขนขาของพวกเขายังอยู่ เย่เทียนก็สามารถต่อให้พวกเขาได้ แต่ตอนนี้พวกเขาคงต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ

เย่เทียนไม่ใช่คนที่มีเมตตาอะไร แต่พอได้เห็นภาพนี้กับตา ในใจก็ยากที่จะรับไหวเหมือนกัน

“ตอนนี้เหลือกันแค่นี้แล้วใช่มั้ย?”

สายตามองผ่านทุกคน ร่างกายของพวกเขาทุกคนต่างได้รับบาดเจ็บ แต่สีหน้ายังถือว่าใช้ได้ “คุณชายเย่ ตอนนี้รวมๆ กันแล้ว พวกเรายังเหลืออีกราวๆ สามร้อยครับ”

หลิวชิงพูดด้วยน้ำเสียงที่หดหู่ “การทรยศของหยางซิงเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง ทำเอาเราตั้งตัวไม่ทัน”

“ที่สำคัญ คิดว่าเบื้องหลังของหยางซิงน่าจะมีนักบู๊คอยหนุนหลังอยู่ เกรงว่าฝีมือน่าจะร้ายกาจด้วยครับ!”

“พวกคุณยังไม่ต้องคิดอะไรมากมายขนาดนั้น พักรักษาตัวอย่างวางใจก่อนเถอะ!”

เย่เทียนขมวดคิ้วขึ้นมา แต่ก็อดทนไม่ได้ถามออกมา ยื่นมือไปตบๆ ที่ไหล่ของหลิวชิง แล้วลองถามไปว่า “ไม่อย่างนั้น รอจนพวกคุณหายดีแล้ว ผมค่อยส่งพวกคุณไปอยู่ต่างประเทศเป็นไง?”

มีทั้งคนที่เจ็บ มีทั้งคนที่พิการ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่หยางซิงมีนักบู๊คอยหนุนหลังเลย ต่อให้ไม่ม่ ถ้าขืนพวกเขายังอยู่ต่อ เกรงว่ามีแต่จะตายเปล่าเท่านั้น

ยังไงก็เคยรู้จักกันมา บวกกับพวกเขาก็ช่วยตนไว้เยอะ เย่เทียนจึงไม่อยากให้พวกเขาตัดสินใจทำเรื่องอะไรที่มันโง่เขลาแบบนั้น

“คุณชายเย่! เราไม่ไป!”

ทันทีที่เขาพูดจบ หลิวชิงก็รีบส่ายหน้าแล้วตอบกลับอย่างเกลียดชังว่า “คนทรยศอย่างหยางซิง ทำให้พี่น้องมากมายต้องตาย ถ้าไม่แก้แค้นให้พวกเขา แล้วผมจะมีหน้าอยู่ต่อได้ยังไง!”

“คุณชายเย่ พี่หลิวพูดถูกแล้ว พวกเราไม่ไป!”

“ต่อให้ต้องไปจริงๆ งั้นก็ต้องฆ่าคนทรยศอย่างหยางซิงให้ได้ก่อน!”

คนสิบกว่าคนไม่มีใครยอมไปทันที พอพูดถึงหยางซิง แววตาก็เหมือนลุกเป็นไฟ

พอเห็นสีหน้าที่แน่วแน่ของพวกเขา เย่เทียนก็ได้แต่ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

การที่เขาจะส่งพวกเขาออกไปด้วยความหวังดี พวกเขากลับไม่ยอมรับมันไว้

แต่ว่า มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร

ถึงแม้เมื่อก่อนมังกรฟ้านั้นยิ่งใหญ่มาก เป็นราชาแต่เพียงผู้เดียวของเจียงหนัน แต่ความจริงมันกลับไม่เป็นปึกแผ่นความจงรักภักดีภายในนั้นเข้าขั้นเลวร้าย ไม่อย่างนั้นจะตกอยู่ในสภาพอย่างทุกวันนี้ได้ยังไง

การทรยศของหยางซิงในวันนี้ มันก็ทำให้พวกเขาสามัคคีกันขึ้นมา ต่อไปพวกเขาที่เหลือก็ไม่มีทางทรยศอย่างแน่นอน!

“คุณชายเย่ เรื่องนี้มันเป็นความผิดของผม ถ้าตอนนั้นผมไม่ให้หยางซิงขึ้นรับตำแหน่ง ก็คง…”

พอทุกคนนั่งลงอีกครั้ง หลิวชิงก็อยากรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

“อะไรที่ควรเกิดมันก็เกิดไปแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะมาโทษกันเอง”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ เย่เทียนก็พูดขัดขึ้นมาก่อน “ถ้าจะให้โทษ ก็ต้องโทษในความหน้าไหว้หลังหลอกของไปหยางซิง”

กลัวว่าหลิวชิงจะไม่ยอมจบเรื่องนี้ เย่เทียนจึงได้เปลี่ยนเรื่อง แล้วถามสิ่งที่สงสัยออกไป

“เมื่อกี้คุณบอกว่า คุณสงสัยว่าเบื้องหลังของหยางซิงอาจจะมีนักบู๊หนุนหลังอยู่นั้น คุณมีหลักฐานอะไรรึเปล่า?”

“คุณชายเย่ คุณอาจจะยังไม่รู้ ตอนนั้นคนที่บุกเข้ามาในวิลล่าของผมนั้นมีแค่คนเดียว แถมยังมีโล่ป้องกันกายคอยปกป้องเหมือนกับคนที่ชื่อหวางซานนั่น กระสุนไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย”

หลิวชิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มลึก “แต่ว่า ผมแค่คาดการณ์ว่ามันน่าจะเป็นนักบู๊ระดับดำ ส่วนเรื่องที่ว่าจะน่ากลัวกว่านั้นมั้ยผมที่ไม่ใช่นักบู๊ก็ไม่มีความมั่นใจเลย”

ทันใดนั้น ในหัวของเย่เทียนก็เป็นประกาย และมีความเป็นไปได้ที่ร้ายแรงมากๆ ผุดขึ้นมา

ถ้าแก๊งS.P.Lเป็นคนที่คอยควบคุมหยางซิงอยู่เบื้องหลังล่ะ?

ไม่ต้องสงสัยว่านี่เป็นความคิดที่ค่อนข้างบ้าบิ่น แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็สามารถอธิบายเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถเมื่อตอนกลางวันได้แล้ว

แก๊งS.P.Lสั่งให้หยางซิงไประเบิดรถของเฉินหวั่นชิง ถึงขั้นให้ระเบิดเฉินหวั่นชิงจนตาย โชคดีที่ตนรีบกลับมา ไม่อย่างนั้นก็ไม่อยากคิดถึงผลที่จะออกมาเลย!

เย่เทียนไม่ได้อยู่ต่อนาน หลังจากที่ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นคร่าวๆ เขาก็หมุนตัวแล้วเดินจากไป

แน่นอนว่า ก่อนที่จะไปเขาก็ไม่ลืมที่จะย้ำเตือนพวกเขาไปว่า ก่อนที่คนจะรู้ไพ่ตายของหยางซิงก็ห้ามทำอะไรโดยพลการเด็ดขาด คอยรักษาตัวอย่างเงียบๆ ก็พอ

ระหว่างที่ขับรถกลับวิลล่า เย่เทียนคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็หยิบมือถือออกมาแล้วโทรหาใครบางคน

“ผมได้ส่งรถไปที่บ้านตระกูลซูแล้วครับ”

อีกฝ่ายรับสายอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงที่เย็นชาของตี๋ต้าจื้อก็ได้ดังขึ้น

เย่เทียนส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ผมไม่ได้จะถามเรื่องนี้ ผม…..”

“งูตัวนั้นมันใหญ่เกินไป คาดว่าอย่างน้อยสามวันผมถึงจะสามารถจัดการได้”

ยังไม่ทันที่เย่เทียนจะได้พูดจบ ตี๋ต้าจื้อก็พูดขัดทันที

หางตาของเย่เทียนกระตุกเบาๆ “และไม่ใช่เรื่องนี้ ผม…..”

“หินกักเก็บชี่ทิพย์ยังอยู่ในรถ ผมไม่ได้เอาไป ยิ่งไม่รู้ว่าใครจะเอา…..”

“หุบปากไปเลย! ตั้งใจฟังผมให้จบ!”

ตอนนี้เย่เทียนทนไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่าคุณเป็นคนรับใช้ของผมรึไง? มีคนรับใช้ที่ไหนกล้าพูดขัดเจ้านายต่อเนื่องแบบนี้?”

“ศพของงูตัวนั้นคุณสามารถหาที่ฝังไปก่อนได้ ต้นวิสเทียเรียอะไร จะหินกักเกบชี่ทิพย์อะไรพวกนั้นคุณดูว่าสามารถส่งมาทางเครื่องบินได้มั้ย ผมต้องการให้คุณมาที่เจียงหนันให้เร็วที่สุด”

“คุณแน่ใจเหรอครับ?”

สีหน้าของตี๋ต้าจื้อดูประหลาดขึ้นมา

“คุณคิดว่าผมเหมือนคนที่กำลังพูดเล่นกับคุณอยู่อย่างนั้นเหรอ?”

เย่เทียนคิ้วกระตุก นี่มันคนรับใช่ประสาอะไร การทำตามคำสั่งที่ว่าอยู่ไหน?

“เข้าใจแล้วครับ”

ตี๋ต้าจื้อตอบไปอย่างใจเย็นคำหนึ่ง จากนั้นก็วางสายไปทันที

“แม่งเอ๊ย…วางสายอีกแล้ว!”

เย่เทียนโกรธจะแทบบ้า รู้สึกสงสัยจากใจจริงว่าตอนนั้นตัวเองตัดสินใจถูกรึเปล่า

มันใช่คนรับใช้ที่หามาซะเมื่อไหร่ นี่มันอาเฮียชัดๆ เขาคงจะทำให้ตนอกแตกตายเข้าสักวัน!

แน่นอน ถ้ามีโอกาสได้เลือกอีกครั้ง เย่เทียนก็ยังคงจะเลือกตี๋ต้าจื้อมาเป็นคนรับใช้อยู่ดี ถึงไอ้หมอนี่จะไม่เหมือนชาวบ้าน แต่อย่างน้อยฝีมือก็ไม่ธรรมดาจริงๆ

ตอนนี้เจียงหนันวุ่นวายขนาดนี้ ไหนจะบริษัทแซ่เจิ้งของจ๊กกลาง ไหนจะคนทรยศอย่างหยางซิง ยังมีกองกำลังอย่างแก๊งS.P.Lอีก การมีคนอย่างตี๋ต้าจื้ออยู่ด้วยมันก็สามารถแบ่งเบาภาระของเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ติ้ง!

ยังไม่ทันที่เย่เทียนจะวางมือถือลง เสียงข้อความก็ได้ดังขึ้น

เย่เทียนอ่านคร่าวๆ แล้วคิ้วก็ขมวดเป็นปม

ไม่ใช่ใดอื่น ข้อความนั้นถูกส่งมาจากเฉินหวั่นชิง

เนื้อหสก็ไม่ได้มีอะไร เธอแค่บอกว่าคืนนี้จะนอนที่บ้านเก่าของตระกูลเฉิน พรุ่งนี้เช้าให้เขาไปรับเธอเพื่อส่งไปที่งานเปิดตัวยาปลูกผมตัวใหม่

ติ้ง!

เหมือนรู้ว่าเย่เทียนกำลังคิดอะไรอยู่ ยังไม่ทันที่เย่เทียนจะได้ตอบกลับ ข้อความใหม่ก็ถูกส่งเข้ามา

ยังคงเป็นข้อความที่ส่งจากเฉินหวั่นชิงเหมือนเดิม บอกว่างานเปิดตัวในครั้งนี้ถูกกำหนดไว้นานแล้ว แถมงานนี้ยังเชิญดาราดังมาอีก จึงไม่สามารถเปลี่ยนวันได้

เมื่อพูดถึงขนาดนี้ ทำไมเย่เทียนจะไม่รู้ล่ะว่าต่อให้เกลี้ยกล่อมเฉินหวั่นชิงไปก็คงไม่สำเร็จ จึงทำได้แค่ส่ายหัวอย่างจนใจ

การได้แต่งงานกับภรรยาที่บ้างานแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่