ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 389

เมื่อใบหน้าถูกตบอีกครั้ง เจี่ยงเกาเฟยก็ตกอยู่ในสภาพที่มึนงงโดยสมบูรณ์แล้ว

ไม่ใช่แค่เขา แม้แต่โมฮอกกับพวกลูกน้องที่อยู่ข้างหลังต่างพาก็ช็อก จ้องมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง

ไอ้หมอนี้มันบ้าไปแล้วรึไง? เรื่องถึงขั้นนี้แล้วยังกล้าทำร้ายลูกพี่ของเราอีก ต่อให้อยากตายก็ไม่ต้องทำกันโจ่งแจ้งขนาดนี้ก็ได้มั้ง?

“ยังมัวยืนบื้ออยู่ทำไม? ไปจัดการมัน? ฟันมันให้ตาย!”

เจี่ยงเกาเฟยโกรธจนแทบเสียสติแล้ว

อยู่มาจนถึงป่านนี้ เขายังไม่เคยเจอใครที่ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือขนาดนี้

คนที่ตัวเองเรียกก็มาถึงแล้ว โดยทั่วไปแล้วไอ้หมอนั่นควรจะตกใจตัวสั่นจนต้องคุกเข่าอ้อนวอนแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมถึงยังกล้าทำร้ายตนอีก?

“ไอ้หนู แกเป็นคนที่รนหาที่ตายเอง จะมาโทษเราไม่ได้นะ!”

“แกคงเบื่อชีวิตมากแล้วสินะ?”

“ชาติหน้าก็หัดดูตาม้าตาเรือบ้าง ใช่ว่าทุกคนที่แกจะสามารถไปหาเรื่องได้!”

พวกลูกกระจ๊อกที่โมฮอกตะโกนด่าทอเย่เทียนอย่างดุร้าย

“คนเยอะก็ไม่ได้หมายความว่าจะชนะสักหน่อย”

เย่เทียนส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “เอาเลย! มาดูกันว่าฉันจะเป็นคนรุมพวกนาย? หรือพวกนายที่จะเป็นฝ่ายรุมฉัน?”

“จะมัวเสวนากับมันทำไม! จัดการมัน!”

เจี่ยงเกาเฟยถอยไปหลบอยู่ด้านหลังลูกน้อง จ้องมองเย่เทียนด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม และตะโกนใส่ลูกน้องสิบกว่าคนอย่างบ้าคลั่ง

ลูกพี่ของตนเองเร้ามาตั้งหลายครั้ง โมฮอกกับพวกลูกน้องจะกล้าลังเลได้ยังไง จึงได้ยกมีดดาบขึ้น กู่ร้องแล้วพุ่งใส่เย่เทียน

เย่เทียนส่ายหัวด้วยความรำคาญ คัมภีร์หวงในร่างกายได้ไหลเวียนขึ้นมา นิ้วมือบิดงอ แล้วดีดลูกบอลแรงดันอากาศออกไปอย่างต่อเนื่อง เล็งไปยังลูกกระจ๊อกที่วิ่งอยู่หน้าสุด

ซุบ!

แคร้ง!

มีดดาบในมือของพวกที่วิ่งอยู่หน้าสุดหล่นลงพื้น จนเกิดเสียงดังที่ชัดเจน

ส่วนมือขวาที่จับมีดของพวกเขาต่างก็ทิ้งดิ่งลง มีรูเพิ่มขึ้นมาที่มือ และกำลังมีเลือดสดๆ พุ่งออกมาไม่ยอมหยุด

ทันใดนั้น คนทั้งหมดก็ได้หยุดวิ่ง หันมามองกันไปกันมา และไม่กล้าเดินหน้าต่อ

“ที่พากันหยุดนี้มันหมายถึงอะไรได้บ้าง? มาสิ! เข้ามา!”

พวกเขาไม่รู้เลยว่าพวกนั้นบาดเจ็บได้ยังไง เหตุการณ์ประหลาดแบบนี้พวกเขาไม่สามารถทนรับได้เลย

“ถ้าพวกนายไม่ยอมเข้ามา งั้นก็ถึงตาฉันล่ะ!”

เย่เทียนขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ เขาทำการกระทืบเท้า ไม่ถอยแต่รุกหน้า พุ่งเข้าไปในฝูงชน

ท่ามกลางฝ่ามือที่โบยบิน เหมือนหมาป่าที่เข้าไปอยู่กลางฝูงแกะ ในเวลาไม่ถึงห้านาที มีดดาบในมือของลูกกระจ๊อกมากมายก็หล่นลงพื้น ลงไปนอนโอดครวญด้วยความเจ็บปวด คนเดียวที่ยังยืนอยู่ก็คือเจี่ยงเกาเฟยเท่านั้น!

เย่เทียนมองซ้ายมองขวา ปรบมืออย่างพึงพอใจ ทำสีหน้าจะยิ้มไม่ยิ้ม แล้วเดินตรงไปยังเจี่ยงเกาเฟยที่ตกใจจนช็อกไปนานแล้ว

“นะ นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”

แววตาของเจี่ยงเกาเฟยเต็มเปี่ยมไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ พอเห็นเย่เทียนที่กำลังเดินตรงมาที่ตน ก็ยิงตกใจจนฟุบลงไปนั่งกับพื้น “กะ แกอย่าเข้ามานะ!”

เจี่ยงเกาเฟยกำลังคิดอะไรอยู่ เย่เทียนได้เข้าใจ และไม่อยากจะรู้ด้วย

เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าเจี่ยงเกาเฟยอย่างรวดเร็ว เย่เทียนก็พูดอย่างดุร้ายว่า “ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดแล้ว ว่าฉันต้องการหักแขนทั้งสองข้างของนาย”

“ส่วนตอนนี้ ฉันเปลี่ยนใจแล้ว กับคนเก่งแต่กับคนที่อ่อนแอกว่าอย่างแก ฉันคิดว่าจำเป็นต้องเพิ่มขาอีกสองข้างด้วย!”

พูดจบ เย่เทียนก็ยกเท้าขึ้นมาทันที แล้วเหยียบลงไปที่เจี่ยงเกาเฟย

แกร้ก!

“อ้า!”

มือซ้ายของเจี่ยงเกาเฟยได้หักลงแล้ว

แกร้ก!

“อ้า!”

ขาขวาของเจี่ยงเกาเฟยได้หักลงแล้วเสียงกระดูกหักดังแกร้กแกร้ก เจี่ยงเกาเฟยถูกเสียงกรีดร้องของเจี่ยงเกาเฟยกลบไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่