ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 45

สรุปบท บทที่ 45 ชอบกินของเหลือ: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ตอน บทที่ 45 ชอบกินของเหลือ จาก ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 45 ชอบกินของเหลือ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ ที่เขียนโดย Light-Knight เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียน ห่าวเหรินก็ส่ายหัวอย่างขมขื่น

อย่าว่าเขาเป็นคนใจกว้างเลย ความจริงแล้วการที่จะรักผู้หญิงคนหนึ่งมาสี่หน้าปี และสุดท้ายยังถูกทอดทิ้งอย่างไร้ความปรานีด้วย แค่คิดก็เจ็บใจแทนเขาแล้ว

"ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว เรามาดื่มของเราต่อกันเถอะ"

ห่าวเหรินพูดกับตัวเองและหยิบขวดขึ้นมาดื่ม

"ห่าวเหริน?"

ในขณะนั้นเอง หยูเสี่ยวเหวินที่อยู่ไม่ไกลก็เหลือบมองมาที่พวกเขาโดยไม่ตั้งใจ และทันทีที่เธอเห็นเย่เทียนกับห่าวเหรินนั่งดื่มอยู่ข้างโต๊ะ สายตาของเธอเปลี่ยนเป็นความรังเกียจทันที

ผู้ชายที่มากับเธอก็มองมาทางนี้และถามด้วยความสนใจว่า "มีอะไรเหรอ คุณรู้จักพวกเขาเหรอ?"

"ฮิฮิ รู้จักสิ ไอ้อ้วนคนนั้น ตอนเรียนอยู่ในมหาลัย เขาตามจีบฉันมาสามสี่ปีเลยล่ะ"

หยูเสี่ยวเหวินควงแขนของผู้ชายคนนั้นและพูดด้วยมั่นใจ

"อย่างนี้นี่เอง?"

ผู้ชายคนนั้นหัวเราะออกมา ทันใดนั้นก็เกิดไอเดียขึ้น และเขาก็กอดหยูเสี่ยวเหวินแล้วเดินไปหาพวกเขา

"สองท่านครับ ได้ยินเสี่ยวเหวินบอกว่าพวกคุณเป็นเพื่อนของเธอเหรอครับ? ผมเลยอยากเข้ามาทำความรู้จักกับพวกคุณหน่อย ผมชื่อหวางจื้อเฟย! ทางบ้านเปิดกิจการเครือโรงแรมครับ โรงแรมเบ่งบานโฟร์ซีซั่นส์ห้าดาวในเจียงหนันก็คือกิจการของครอบครัวผมเองครับ"

เขาแสร้งทำเป็นพูดคร่าวๆ แต่ความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของเขานั้นก็ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจเข้ามาโอ้อวดเท่านั้น

จากนั้นเขาจงใจมองไปที่ห่าวเหรินและพูดว่า "แล้วไม่ทราบว่า ครอบครัวของคุณทำงานเกี่ยวกับอะไรครับ?"

ห่าวเหรินขมวดคิ้ว ซึ่งเขารู้ดีกว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งใจดูถูกเขาอยู่ แต่เมื่อแอลกอฮอล์ขึ้นสมอง เขาจึงตอบด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวว่า "ผมเป็นผู้บริหารของบริษัทบริษัทรับเหมาฮุยหวง!"

"บริษัทก่อสร้างเลยเหรอครับ?"

เมื่อได้ยินอย่างนั้น หวางจื้อเฟยก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที การที่จะเปิดบริษัทก่อสร้างได้ อย่างน้อยเขาต้องเป็นบุรุษอันดับหนึ่งในเจียงหนันแล้ว

แต่ที่ไหนได้ หยูเสี่ยวเหวินที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า "คุณชายหวาง คุณอย่าไปเชื่อมันนะคะ อย่างมันเหรอจะเปิดบริษัทก่อสร้างได้ เป็นผู้รับเหมามากกว่า!"

ขณะที่พูดอยู่ เธอตั้งใจควงแขนหวางจื้อเฟยอย่างภาคภูมิใจและมองห่าวเหรินเหมือนเป็นคนต่ำต้อยคนหนึ่ง "ห่าวเหริน นี่คุณยังไม่เลิกนิสัยแย่ๆ แบบนี้อีกเหรอ ตอแหลเอาโล่ ขี้โม้เอาเหรียญ ตอนคุณตามจีบฉันคุณก็พูดแบบนี้เหมือนกัน ฉันก็โดนคุณหลอกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว! ตั้งแต่ที่ฉันทิ้งคุณไป คุณก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ? วันๆ เอาแต่ดับทุกข์ด้วยสุรากับพวกคนไร้ประโยชน์! ฉันก็ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำพูดไหนมาพูดกับคุณแล้วเหมือนกัน!"

เย่เทียนถึงกับขมวดคิ้ว เพราะหยูเสี่ยวเหวินคนนี้ด่าเหมารวมเขาไปด้วยแล้ว

"ฮ่า ฮ่า ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง! ดอกฟ้ากับหมาวัด ทั้ง ๆ ที่เป็นหมาวัด แต่กลับมาผลาญเงินในไนต์คลับแบบนี้ ถามจริง แค่ผู้รับเหมาเล็กๆ คนหนึ่ง คุณมีกำลังจ่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือว่ามื้อนี้ให้ผมเลี้ยงคุณดีไหมครับ?"

ดวงตาของหวางจื้อเฟยเต็มไปด้วยความรังเกียจ และรอยยิ้มอันเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นในมุมปาก

ห่าวเหรินรู้สึกโกรธจนหน้าแดงและสั่นไปทั้งตัวเพราะหมาสองตัวที่กำลังเห่าอย่างไม่หยุด

แม้เขาจะโกรธมาก แต่สิ่งที่หยูเสี่ยวเหวินพูดนั้นก็เป็นความจริง และเขาก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ!

"ประธานห่าวครับ ไอ้หมอนี่เป็นใครเหรอ? มากับผู้หญิงหน้าเงินแต่ยังกล้าคุยโวจังนะครับ?"

ในขณะที่ห่าวเหรินกำลังรู้สึกจนปัญญาอยู่นั้น เสียงที่เสียดสีอย่างรุนแรงก็ดังขึ้น

หยูเสี่ยวเหวินหันมองไปทันทีและเพ่งมองไปที่เย่เทียนด้วยความโกรธ "นี่คุณว่าใครหน้าเงิน!"

"ประธานห่าวครับ ผมจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยอยู่กับคุณมาหลายเดือนเลยไม่ใช่เหรอครับ? ก่อนหน้านี้คุณยังเคยบอกผมอยู่เลยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีทักษะในเรื่องนั้นเลย คุณก็เลยทิ้งเธอไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะหาไอ้หน้าหม้อที่เหมาะสมกับเธอได้แล้วนะครับ!"

เย่เทียนไม่แม้แต่จะเหลือบมองเธอเลยด้วยซ้ำ ได้แต่พูดกับห่าวเหรินด้วยรอยยิ้ม

ห่าวเหรินผงะไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อฟังเย่เทียนพูดจนจบ เขาก็รู้ทันเย่เทียนและเล่นตามน้ำไปด้วยเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ

หวางจื้อเฟยโกรธขึ้นมาทันที และสองตาที่ลุกเป็นไฟก็จ้องเขม็งไปที่เย่เทียน "คุณว่าใครหน้าหม้อนะ!"

"นี่คุณก็แปลกดีนะ ผมยังไม่ได้เอ่ยชื่อใครเลย ทำไมต้องรีบร้อนตัวด้วย?"

เย่เทียนเหลือบมองไปที่พวกเขาและถามด้วยความสงสัย

หวางจื้อเฟยแทบจะกระอักเลือดออกมา ในขณะที่เขากำลังจะเถียง แต่เย่เทียนก็ยิ้มพูดต่อ

"แต่……สิ่งที่คุณคิดก็ถูกเหมือนกันนะ เพราะไอ้หน้าหม้อที่ผมพูดถึงก็คือคุณจริงๆ คนหนึ่งหน้าเงิน ส่วนอีกคนหน้าหม้อ ดูแล้วก็เหมาะสมกันดีนะ!"

เย่เทียนมุ่ยปากเบาๆ สำหรับผู้หญิงอย่างหยูเสี่ยวเหวินนั้นเขาเจอมาเยอะแล้ว ต่อให้ห่าวเหรินไม่เคยมีอะไรกับเธอ ก็ใช่ว่าเธอจะเป็นสาวซิง!

หยูเสี่ยวเหวินรู้ตัวว่าเถียงไม่ไหวเย่เทียน เธอจึงไม่คิดจะเถียงกับเขาอีก จากนั้นเธอเลือกใช้ไม้อ่อนแล้วกระซิบข้างหูหวางจื้อเฟยอย่างออดอ้อนว่า

"คุณชายหวางคะ มันดูถูกเค้าอยู่นะ ตัวเองก็รู้ว่าครั้งแรกของเค้าคือตัวเอง! ตัวเองบอกว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าของร้านบาร์นี้ไม่ใช่เหรอคะ ให้คนมาไล่ไอ้สองคนนี้ออกไปเลยสิ!"

สายตาที่เฉียบคมประกายผ่านดวงตาของหวางจื้อเฟย และตอนนี้เขาค่อยๆ ใจเย็นลงแล้ว

หยูเสี่ยวเหวินจะใช่ของมือสองหรือไม่ เขาไม่สนใจ เพราะเขาไม่เคยคิดจริงจังกับเธออยู่แล้ว

แต่ไอ้สวะที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มันทำให้เขาโกรธมาก และเขาจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ อย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยกมือขึ้นแล้วตะโกนออกไปว่า "รปภ. รปภ. มานี่หน่อย!"

ทันทีที่พูดจบ รปภ. สี่คนก็เดินเข้ามา

เมื่อเห็นฉากนี้ห่าวเหรินก็ตื่นตระหนกมาก ร้านดรุณียั่วรักแห่งนี้มีเบื้องหลังที่เส้นใหญ่ขนาดไหน ซึ่งไม่ใช่คนอย่างเขาสามารถต่อกรได้อย่างแน่นอน!

หลังจากที่ไตร่ตรองแล้ว ถ้าถูกลากตัวออกไปจริงๆ เขากับเย่เทียนต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาลแน่นอน!

หวางจื้อเฟยหัวเราะเยาะแล้วชี้ไปที่เย่เทียนกับห่าวเหรินและออกคำสั่งว่า "ผมหวางจื้อเฟย ถูกพวกมันสองคนดูถูก ช่วยลากพวกมันออกไปแล้วกระทืบให้เละไปซะ! เกิดอะไรขึ้นผมรับผิดชอบเอง!”

หยูเสี่ยวเหวินกอดอกไว้แน่นๆ เธอเกลียดเย่เทียนจนเข้าไส้ เธออยากเห็นเย่เทียนต้องลำบาก และตอนนี้เธอสดชื่นเหมือนกับเอาไอศกรีมมาเทใส่ตัว

แต่รปภ. ทั้งสี่คนไม่ได้สนใจพวกเขาเลย และหนึ่งในสี่คนนั้นก็เดินไปหาเย่เทียน และถามว่า "พี่เทียนครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับ?"

"ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่สองคนนี้มาขัดจัดหวะผมกับประธานห่าวคุยธุระ และประธานห่าวรู้สึกว่าไม่อยากเห็นหน้าสองคนนี้ในร้านนี้อีก!"

เย่เทียนยักไหล่และออกคำสั่งอย่างอ้อมค้อม

"ครับ!"

รปภ.ทั้งสี่คนรับทราบและเข้าใจตรงกัน จากนั้นกระโจนเข้าหาหวางจื้อเฟยและผู้หญิงของเขาเหมือนฝูงหมาป่า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่