บ่ายวันนั้น เย่เทียนเตรียมตัวจะไปที่บาร์
ซึ่งบาร์ที่เขาจะไปนั้นอยู่ไม่ไกลจากที่ที่เขาพักอยู่ ใช้เวลาเดินเท้าเพียงแค่สิบนาทีก็ถึง
เอี๊ยด!
เมื่อเขาเดินไปได้แค่ครึ่งทาง จู่ ๆ ก็มีรถโตโยต้าเอสยูวีคันหนึ่งมาจอดขวางหน้าเขา ในขณะที่เย่เทียนกำลังงุนงงอยู่นั้น หน้าต่างรถก็ค่อยๆ เลื่อนลง ทำให้เขาเห็นใบหน้าที่อ้วนพลิ้วและเต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่ในรถ
“เย่เทียน!”
เย่เทียนหันไปมองอีกฝ่าย หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็ตะโกนออกไปอย่างลังเลว่า "ใช่ไอ้อ้วนห่าวไหม?"
"ไอ่บัดซบเอ๊ย! ไม่เจอกันแค่แป๊บเดียว นายลืมพี่ใหญ่คนนี้เลยเหรอ?"
ไอ้อ้วนห่าวเปิดประตูรถออกมา จากนั้นรัวหมัดทั้งเบาและหนักไปที่เย่เทียนแล้วกอดไหล่ของเย่เทียนและพูดอย่างได้ใจว่า "เป็นไง รถใหม่ของข้า ตั้งสองแสนกว่าหยวนเลยนะเนี่ย!"
เมื่อเย่เทียนเห็นแบบนี้ เขาก็ส่ายหัวตอบด้วยรอยยิ้ม "ก็พอใช้ได้"
"อย่าแสร้งไปหน่อยเลยน่า อิจฉาล่ะสิไม่ว่า จะบอกให้นะ รถคันนี้จ่ายด้วยเงินสดนะ! เบาะหนังหรูหราของแท้ พื้นที่ภายในก็กว้าง กลางค่ำกลางคืนจะแวะข้างทางหรือจะพลิกสามร้อยหกสิบองศาก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก!"
ไอ้อ้วนห่าวยังคงพูดจาเย้ยหยันและชมตัวเองต่อหน้าเย่เทียนอย่างไม่หยุด
ซึ่งชายอ้วนคนนี้ชื่อเต็มชื่อว่าห่าวเหริน เป็นเพื่อนสนิทของเย่เทียนในสมัยที่เรียนมหาลัย
หลังจากจบมา ห่าวเหรินก็มาช่วยงานของพ่อในที่ทำงานรับเหมา เขาจึงถือได้ว่าเป็นคนที่มั่นคงเมื่อเทียบกับคนในรุ่นเดียวกันก็ได้
ห่าวเหรินค่อนข้างมีเงิน ด้วยทรัพย์สินหลายล้านหรือมากกว่านั้น แต่เมื่อเทียบกับเย่เทียนแล้วเขาถือว่าไม่เลวเลยล่ะ และเขาก็มักจะชวนเย่เทียนทำตัวเกลือกกลั้วไปทั่ว
"ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เห็นนายเลยล่ะ? โทรศัพท์ก็โทรไม่ติด ไปแอบทำตัวเหลวไหลที่ไหนหรือเปล่าเนี่ย?"
หลังจากพูดคุยกันสักพัก ห่าวเหรินก็ถามขึ้น
เย่เทียนยักไหล่ตอบ "เปล่า โทรศัพท์ของข้ามันเสียไปแล้ว ก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนเบอร์ไปด้วยเลย โทษทีนะที่ไม่ได้บอกนาย!"
หลังจากที่เย่เทียนฟื้นมาจากความตาย มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ ถ้าวันนี้ไม่ได้เจอห่าวเหริน เขาคงจะลืมเพื่อนคนนี้ไปแล้ว
"เอาล่ะ พี่น้องกัน จะพูดอะไรเยอะแยะ ไป วันนี้ข้าขอเลี้ยงเหล้านายสักวัน! ช่วงนี้ข้าเจอเทพธิดาในฝันที่บาร์แห่งหนึ่ง! นายไม่รู้หรอกว่าเธอสวยขนาดไหน เดี๋ยวข้าพาไปรู้จักซ้อใหญ่ในอนาคตของนายเอง!"
เมื่อห่าวเหรินพูดถึงเรื่องนี้ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย เขาไม่ปล่อยโอกาสให้เย่เทียนปฏิเสธและรีบพาเขาขึ้นรถไปทันที
แต่เมื่อไปถึงที่หมาย เย่เทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เพราะที่ที่ห่าวเหรินพามาคือร้านดรุณียั่วรัก!
เมื่อนึกถึงซูเหมย เย่เทียนมองไปที่ห่าวเหรินด้วยความสงสัย
"ที่นายบอกว่าเป็นเทพธิดา คงไม่ได้หมายถึงเจ้าของบาร์นี้ใช่ไหม?"
"ใช่ เธอนั่นแหละ ชื่อซู……"
ห่าวเหรินขมวดคิ้ว อย่ามองว่าเขาพูดจาสวยหรู ความจริงแล้วเขาเคยเจอผู้หญิงคนนี้สองสามครั้งเท่านั้น เขาไม่แม้แต่จะกล้าคุยกับอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่าไม่รู้จักชื่อจริงของซูเหมยอยู่แล้ว!
“ซูเหมย!” เย่เทียนต่อประโยคให้เขาอย่างไม่เกรงใจ
"ใช่ เธอชื่อซูเหมย อ้าว เย่เทียน แล้วนายรู้ได้ไงว่าเจ้าของบาร์ชื่อซูเหมย?"
ห่าวเหรินตบต้นขาตัวเองแล้วมองไปที่เย่เทียนอย่างประหลาดใจ
เย่เทียนตอบอย่างช่วยไม่ได้ว่า "เพราะข้ารู้จักเธอไงล่ะ ความสัมพันธ์ก็ถือไม่เลวด้วยนะ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ห่าวเหรินถึงกับหัวเราะออกมาเพราะไม่เชื่อเขา
"อย่างนายนะ? ตั้งแต่หัวจรดเท้ารวมกันยังไม่ถึงพันเลย แล้วจะไปรู้จักประธานซูได้ยังไงกันล่ะ? พอทีเถอะน่า ไม่จำเป็นต้องแต่งเรื่องหรอก!"
เมื่อพูดจบ เขาก็จอดรถและพาเย่เทียนเดินเข้าไปด้วยท่าทีที่คุ้นเคยต่อที่นี่
อันที่จริงแล้วห่าวเหรินแค่อวดต่อหน้าเย่เทียนก็เท่านั้น ซึ่งร้านดรุณียั่วรักนั้นถือเป็นสถานที่ผลาญเงินที่มีชื่อเสียงโด่งดังเลยล่ะ ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งก็เป็นเงินหลักหมื่น แม้แต่ห่าวเหรินที่มีทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านก็ไม่อาจมาผลาญเงินที่นี่บ่อยๆ ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่