ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 457

เย่เทียนไม่ใช่คนวู่วาม ถึงจะโดนบีบบังคับจนไม่มีทางเลือกถึงได้มาเมืองเอก แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเมืองเอกเลย

ก่อนหน้านี้ตอนคาดคั้นกับหยุ่นหมัว นอกจากข่าวของแก๊งหย่งเย่แล้ว เย่เทียนรู้เรื่องลับอีกหลายเรื่อง เรียกได้ว่าเค้นหยุ่นหมัวซะแห้งสนิท

ในนั้นมีเรื่องเกี่ยวกับเมืองเอกไม่น้อย

ที่แท้หบังจากที่เย่เทียนจัดการหัวหน้าของเซิ่งเหอเซิ่ง จูยิ่วถิง ไปก่อนหน้านี้ เซิ่งเหอเซิ่งก็มีวิกฤติชิงอำนาจกันภายใน

บวกกับอิทธิพลใหญ่รอบๆเมืองเอกต่างอยากได้ส่วนแบ่ง เรียกได้ว่าทั้งเมืองเอกจลาจลกันหมด จนบัดนี้เพิ่งจะพอสงบลงบ้าง

เซิ่งเหอเซิ่ง จ้าวอำนาจในอดีตแตกหัก เมืองเอกอันใหญ่หลวงถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน!

ฝ่ายหนึ่งคือพรรคมังกรอัคคีเดือดข้ามคูน้ำแห่งเมืองหลิน อีกฝ่ายคือแก๊งท้องถิ่นในเมืองเอกที่ยอมอัปยศเพื่อรอวันผงาดมาหลายปี แก๊งซินเซ่งอัน

ส่วนฝ่ายสุดท้ายสืบทอดกองกำลังของเซิ่งเหอเซิ่งมากว่าครึ่งหนึ่งแก๊งหย่งเซ่งเหลียนที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ส่วนจระเข้เป็นหัวหน้าลำดับสามของเซิ่งเหอเซิ่งในครานั้น ผู้นำสูงสุดของแก๊งหย่งเซ่งเหลียนในตอนนี้!

คาดเดาได้ไม่ยากว่าทำไมตอนนั้นจระเข้ถึงไม่สนสายตาของเหล่าศัตรูที่จ้องมองมาอย่างหิวกระหาย และบุกโจมตีเชิ่งหู่อย่างแข็งกร้าว

ยังไงซะ ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เทียน เซิ่งเหอเซิ่งอันยิ่งใหญ่จะแตกแยกกันได้ยังไง?

สิ่งที่สำคัญที่สุดของที่สุด ตามข้อมูลที่หยุ่นหมัวบอก การล่มสลายของแก๊งมังกรทำให้แก๊งS.P.Lไม่มีฐานทัพในประเทศจีนอีกต่อไป ที่เขามาประเทศจีนแตไม่ได้ไปเมืองเจียงหนันก่อน ก็เพราะต้องการฉวยโอกาสที่เมืองเอกกำลังโกลาหล สนับสนุนกองกำลังอิทธิพลขึ้นมาใหม่

ความจริงแล้ว ด้วยกำลังของสมาชิกแก๊งS.P.L เขาได้กลายเป็นผู้นำเบื้องหลังของแก๊งซินเซ่งอันไปแล้ว!

น่าเสียดายที่เย่เทียนไม่สนสมบัติอันน้อยนิดของแก๊งซินเซ่งอัน และไม่คิดจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องวุ่นๆของเมืองเอก!

ที่เขามาเมืองเอกในคราวนี้ก็เพราะเฉินหวั่นชิงขอมา

แต่ในเมื่อมาแล้ว เย่เทียนไม่รังเกียจที่จะทำอะไรบางอย่าง!

ไม่ว่ายังไงหลังจากช่วยเจ้าของร้านปิ้งย่างกำจัดพวกนักเลงอย่างเหลยหั่วแล้ว เย่เทียนไม่ได้อยู่ต่อนาน คล้อยหลังจากเติมท้องให้อิ่มอย่างว่องไว เขาก็รีบโบกแท็กซี่ไปที่ฮันเตอร์บาร์!

เห็นภาพแสงสีกะพริบวูบวาบจากฮันเตอร์บาร์ตรงหน้าแล้ว เย่เทียนแสยะยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ได้

ในความเป็นจริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เย่เทียนมาฮันเตอร์บาร์ สมัยก่อนที่นี่เป็นหนึ่งในสิบแปดร้านที่คึกคักมากที่สุดใต้เครือเซิ่งเหอเซิ่ง ครั้งหนึ่งเขาก็เคยมาอาละวาดอยู่ครั้งหนึ่ง!

คิดไม่ถึงว่าเพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน ฮันเตอร์บาร์ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง กระทั่งดูจากจำนวนคนเข้าออกแล้ว คึกคักยิ่งกว่าเมื่อก่อนเสียอีก!

คิดไปแบบนั้น เย่เทียนก็เงยหน้าขึ้นมองป้ายร้านของฮันเตอร์บาร์ ริมฝีปากกระตุกรอยยิ้มเย็นอย่างอดไม่ได้ เดินเข้าไปด้านในโดยไม่ลังเล

เมื่อบุกเข้ามาข้างในฮันเตอร์บาร์แล้ว เสียงเพลงกระหึ่มก็ดังเข้าหูมาในบัดดล แสงสีนีออนสาดเข้ามาเต็มตา

กลุ่มชายหญิงที่แต่งตัวเปิดเผยในฟลอร์โยกตัวไปมาอย่างบ้าคลั่งตามจังหวะดนตรีที่โหมให้เต้นสุดๆ ถึงขั้นส่งเสียงคำรามราวสัตว์ป่าเป็นครั้งคราว เป็นการร่ายรำของเหล่ามารจริงๆ!

นอกเหนือไปจากนี้ บนที่นั่ง ตรงบาร์ ต่างมีคู่หนุ่มสาวที่โอบไหล่ถึงเนื้อถึงตัว อิงแอบหยอกล้ออยู่ด้วยกัน

ยังไงซะนี่ก็ยังไม่ดึกมาก เย่เทียนไม่รีบร้อน เขาหาที่นั่งและนั่งลงโดยไม่คิดมาก สั่งเฮนเนสซีมาหนึ่งแก้วและสังเกตสถานการณ์ที่บาร์เงียบๆ

"คนหล่อ อยากเลี้ยงเหล้าฉันสักแก้วมั้ยคะ?"

แต่เย่เทียนนั่งลงได้ไม่กี่นาทีก็มีผู้หญิงที่แต่งตัวสะสวยคนหนึ่งเดินเข้ามา นั่งลงข้างเย่เทียนอย่างเย้ายวน

เย่เทียนเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อมองหญิงสาวที่แต่งหน้ามาจัดจ้าน เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเธอทำอาชีพอะไร แล้วจะมีความสนใจได้ยังไง

อีกอย่าง เย่เทียนไม่ได้มาเที่ยวเล่นนะ เขามีเวลาว่างซะที่ไหน

“เรื่องเลี้ยงเหล้าคุณไม่มีปัญหา แต่ คุณต้องช่วยอะไรผมอย่างหนึ่ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่