“เอางี้ คุณรีบโทรแจ้งหัวหน้าหลี่ในสถานีตำรวจ บอกว่ามีคนมาก่อความวุ่นวายในบริษัท ให้เขารีบมาจับตัวไปด่วน!”
“จากนั้นคุณแจ้งแผนกรักษาความปลอดภัยให้ทราบ ไม่ว่าจะเป็นคนดูกล้องวงจรปิด หรือคนที่เฝ้ายามอยู่ทุกจุด ให้พวกเขามารวมตัวกันทุกคน!”
เมื่อรู้ว่าเย่เทียนกำลังจะบุกเข้ามา เจิ้งเหวยกั๋วจะมีอารมณ์สนุกต่อได้อย่างไร? เขาผลักเสี่ยวหลินออกไปและออกคำสั่งให้กับพนักงานต้อนรับผ่านโทรศัพท์ทันที
“ประธานเจิ้งคะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เมื่อเห็นเจิ้งเหวยกั๋ววางสาย เสี่ยวหลินที่กำลังหน้าแดงก็ถามอย่างสงสัย
“มีสารเลวมาสร้างปัญหาข้างล่างตึก”
เจิ้งเหวยกั๋วจัดระเบียบเสื้อผ้าไปด้วยและกัดฟันพูดไปด้วย
“ประธานเจิ้งคะ ก็แค่คนคนเดียวไม่ใช่เหรอ ให้พวก รปภ.จัดการก็พอสิ ทำไมต้องลงไปด้วย?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสี่ยวหลินก็ขมวดคิ้วขึ้นทันทีและเข้าไปยืนขวางเจิ้งเหวยกั๋วอย่างไม่สบอารมณ์
เพราะเจิ้งเหวยกั๋วได้ปลุกอารมณ์ของเธอไปแล้ว และในตอนนี้เธอกำลังรู้สึกได้ที่ แล้วจะยอมปล่อยเจิ้งเหวยกั๋วออกไปง่ายๆ ได้อย่างไร?
“คุณไม่เข้าใจหรอก!”
เจิ้งเหวยกั๋วผลักเสี่ยวหลินออกไปแล้วส่ายหัวพูด “ช่างมันเถอะ บอกคุณก็คงไม่เข้าใจ ยังไงผมก็ต้องลงไปดูอยู่ดี!”
เมื่อเห็นท่าทีที่ยืนหยัดของเจิ้งเหวยกั๋ว เสี่ยวหลินจึงจะไม่ห้ามเขาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มุ่ยปากและแสดงความไม่พอใจอย่างไม่ต้องสงสัย
เพี๊ยะ!
จู่ๆ เจิ้งเหวยกั๋วก็ตบไปที่สะโพกของเสี่ยวหลินแรงๆ แล้วยิ้มพูดว่า “เจ้าหนูน้อย พี่จะชดเชยให้คืนนี้ก็แล้วกันนะ รับรองน้องจะไม่ผิดหวัง!”
หลังจากเจิ้งเหวยกั๋วแต่งตัวเรียบร้อย เขาไม่ได้สนใจเสี่ยวหลินอีก จากนั้นรีบออกไปจากออฟฟิศของเขาแล้วตรงไปในลิฟต์ด้วยความโกรธ
“ไอ้เด็กเวร ทำเสียอารมณ์หมด คอยดูว่าเอ็งจะได้คุกเข่าขอความเมตตาข้า!”
ในใจเจิ้งเหวยกั๋วคิดถึงเรื่องทรมานเย่เทียนอย่างไม่หยุด และไม่นานลิฟต์ก็ลงมาถึงชั้นที่หนึ่ง
ติ๊ง!
หลังจากเจิ้งเหวยกั๋วก้าวออกจากลิฟต์ ภาพที่เห็นมันทำให้เขารู้สึกเสียใจที่ลงมาที่นี่
เหนือสิ่งอื่นใด เพราะเขาเห็นคนกลุ่มหนึ่งนอนอยู่บนพื้นของล็อบบี้ขนาดใหญ่ และมีคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา ซึ่งนอกจากเย่เทียนแล้วจะเป็นใครได้อีก?
“ประธานเจิ้งครับ เรื่องเล็กแค่นี้ ทำไมท่านต้องลงมาเองครับ ให้พวกเราจัดการก็พอแล้วสิครับ!”
ในเวลานี้ รองหัวหน้า รปภ. ก็รีบพาลูกน้องสิบกว่าคนออกมาจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เมื่อเห็นเจิ้งเหวยกั๋วอยู่ในที่เกิดเหตุ เขาก็รีบปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้ววิ่งเข้าไปด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอ
“เรื่องเล็กงั้นเหรอ? ถ้าผมไม่ลงมาเอง บริษัทคงถูกคนอื่นรื้อถอนไปนานแล้ว!”
เจิ้งเหวยกั๋วเหลือบมองรองหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย จากนั้นชี้ไปที่เย่เทียนแล้วตะโกนว่า “ไอ้เหลือขอ! ยังไม่รีบเข้าไปจับตัวไอ้หมอนั่นมาอีก!”
รองหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยไม่กล้าบ่นอะไร ได้แต่พยักหน้าตอบเหมือนไก่จิกข้าวแล้วพาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เขาพามาเข้าไปล้อมเย่เทียน
แต่ในใจเขาไมพอใจกับคำว่ารองหัวหน้าสักเท่าไหร่
ถ้าหากเป็นไปได้ เขาอยากตัดคำว่ารองทิ้ง เหลือเพียงแค่หัวหน้า ดังนั้นเขาจึงต้องจัดการเย่เทียนให้เจิ้งเหวยกั๋วได้เห็น เผื่อเขาจะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเป็นหัวหน้า
“ไอ้เด็กเมื่องานซืน เก่งมาจากไหนถึงกล้ามาสร้างปัญหาในบริษัทแช่เจิ้งของเรา ถ้าไม่สั่งสอนเอ็งสักบ้าง วันหลังใครก็มาก่อเรื่องที่นี่ได้สินะ?!”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ รองหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยก็ตวาดออกมาแล้ววิ่งนำหน้าเข้าไปหาเย่เทียนโดยไม่ลังเล
“เจิ้งเหวยกั๋ว เจอตัวคุณยากจริงๆ เลยนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่