“ยืนทื่อทำไมกัน? ยังไม่รีบเข้าไปจับไอ้หมอนั่นมาอีก!”
แม้ว่าหัวหน้าหลี่จะรู้ดีว่าเจิ้งเหวยกั๋วกำลังกล่าวหาเย่เทียน แต่เขาไม่อยากยุ่งยากกับเจิ้งเหวยกั๋วอีก จึงได้แต่ออกคำสั่งโดยตรง
เพราะถึงอย่างไรแล้ว เหล่ารปภ. ก็คงไม่นอนเจ็บปวดคร่ำครวญอยู่บนพื้นโดยไร้สาเหตุหรอกว่าไหม?
โดยสรุปแล้ว การพาตัวเย่เทียนกลับไปก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด!
สำหรับโทษที่จะกล่าวหาเย่เทียนนั้น ไม่ใช่เรื่องของหัวหน้าหน่วยเล็กๆ อย่างเขาแน่นอน!
“หัวหน้าหลี่เหรอ? ผมรู้ว่าคุณต้องรับผิดชอบตามหน้าที่ แต่ว่า......”
เมื่อเห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเดินเข้ามา เย่เทียนก็เหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่เหนือแผนกต้อนรับ จากนั้นขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างเฉยเมยกับหัวหน้าหลี่ “ผมหวังว่าคุณจะให้เวลาผมสักสองสามนาทีนะ ไม่อย่างนั้นผมเกรงว่าคุณจะต้องเสียใจภายหลังแน่!”
หัวหน้าหลี่ถึงกับสะดุ้ง และสีหน้าความโกรธก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
เดิมทีบริษัทแช่เจิ้งเป็นหนึ่งใน 500 บริษัทชั้นนำของโลกอยู่แล้ว และทุกๆ ปียังมีอิทธิพลส่งผลต่อ GDP ของเมืองเอกอีกด้วย ดังนั้นเบื้องบนจึงมอบหมายให้ดูแลเขาเป็นพิเศษตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เจิ้งเหวยกั๋วยังเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เขาไม่เคยถือตัวกับพวกเขา และทุกครั้งที่เรียกพวกเขามาช่วยเหลือต้องมีผลประโยชน์เป็นข้อแลกเปลี่ยนเสมอ
มิฉะนั้นเขาจะรีบมาทันทีหลังจากที่ได้รับสายได้อย่างไร?
แต่ว่า ก่อนที่เขาจะพูดอะไร ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามที่ไร้นิรนามคนนี้กลับขอให้เขารออีกสองสามนาที ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องเสียใจภายหลังแน่?
แต่เขาเป็นถึงหน่วยงานข้าราชการ และไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย แล้วทำไมต้องรอตามคำขอของเย่เทียน? มันคิดว่ามันเป็นเหมือนกับเจิ้งเหวยกั๋วหรือ?
แน่นอน ถ้าเย่เทียนยอมพูดดีๆ เขาก็ใช่ว่าจะรอไม่ได้ แต่ใครให้เย่เทียนหยิ่งผยองขนาดนี้ล่ะ? ฉะนั้น ถ้าเขาดีกลับก็คงจะแปลกน่าดู
ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่เสียงพูดของเย่เทียนลดลง ทัศนคติของหัวหน้าหลี่ที่มีต่อเขาก็แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
“นี่คุณขู่ผมอยู่เหรอ?”
สีหน้าของหัวหน้าหลี่เริ่มจริงจังและเขาก็พูดอย่างเคร่งขรึม “ผมขอเตือนคุณก่อนว่าควรระมัดระวังคำพูดด้วยนะ ไม่อย่างนั้นผมจะฟ้องคุณในข้อหาข่มขู่เจ้าพนักงานได้!”
“ผมไม่รู้หรอกว่าคุณจะเคยแบล็กเมล์คุณเจิ้งเหวยกั๋วจริงหรือไม่ แต่ผมว่ารปภ. กลุ่มนี้คงไม่ล้มนอนกับพื้นโดยไม่มีสาเหตุหรอกนะ? แค่นี้ผมก็มีสิทธิ์ที่จะจับคุณแล้ว!”
“ผมขอแนะนำให้คุณปฏิบัติตามเราอย่างเชื่อฟัง ถ้าหากคุณคิดจะต่อต้านการจับกุม เรามีสิทธิ์ที่จะใช้กำลังในการจับกุมคุณด้วย!”
“แค่พวกคุณเนี่ยนะ? ผมคิดว่าพาผมไปไหนไม่ได้หรอก!”
เย่เทียนก็เริ่มไม่พอใจหัวหน้าหลี่
ดังคำกล่าวที่ว่า กฎหมายไม่มีอะไรมากไปกว่าความรู้สึกของมนุษย์หรอก
เพราะเย่เทียนไม่ได้ขอให้หัวหน้าหลี่และคนอื่นๆ ล้มเลิกภารกิจแล้วกลับไป แต่เขาแค่ขอให้พวกเขารอสักครู่เท่านั้น แล้วแค่นี้มันมากไปจริงหรือ?
“ยืนทื่ออยู่ทำไม? เข้าไปจับมันสิ!”
เมื่อเห็นทัศนคติที่หยิ่งจองหองของเย่เทียน มันก็ทำให้หัวหน้าหลี่ซึ่งหงุดหงิดอยู่แล้วยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก!
ตั้งแต่เขาสวมใส่ชุดตำรวจนี้ ใครบ้างที่ไม่เคยให้เกียรติเขา? แต่เย่เทียนกลับยั่วยุเขาอย่างไม่หยุด แล้วจะมีหรือที่เขาจะไม่เกิดอารมณ์ฉุนเฉียว!
ภายใต้คำสั่งของหัวหน้าหลี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหลือต่างก็มองหน้ากันและหยิบกระบองยางที่คาบอยู่บนรอบเอวออกมาแล้วเข้าไปล้อมเย่เทียนไว้อย่างชำนาญ
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แต่คุณสั่งลูกน้องมาทำแบบนี้กับผม คุณไม่กลัวผมจะฟ้องคุณในโทษฐานบังคับใช้กฎหมายที่มีความรุนแรง แล้วคุณต้องเสียตำแหน่งไปเหรอ?!”
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านี้ เย่เทียนกลับยิ้มตอบแล้วเพ่งมองไปที่หัวหน้าหลี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่