ตู้ม!
เย่เทียนไม่ทันระวังจึงโดนผู้ชายเสื้อหนังชนเข้าอย่างแรง ร่างเขากระเด็นออกไปโดยควบคุมไม่ได้และกระแทกใส่รถอย่างแรง
วินาทีต่อมา เขากระเด้งหงายตัวขึ้น สีหน้าที่มองผู้ชายเสื้อหนังฉายแววสนุก
เขายอมรับว่าการทนทานต่อการโจมตีของเจ้านี่เหนือกว่าคนปกติ แต่หากเทียบกับเซวหมานจื่อยังห่างกันไกลอย่างไม่ต้องสงสัย
ยังไงซะเซวหมานจื่อมีวิชาวัชระร่างป้องกันสกิลเทพ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีจุดโจมตีเดียวเท่านั้นที่ทลายได้
กลับมามองผู้ชายเสื้อหนัง เขาแค่ใช้ร่างเลือดเนื้อของตัวเองไปทำความคุ้นชินกับความเจ็บปวดเท่านั้น ร่างกายก็ยังต้องรับผลที่ตามมา!
“เย่เทียน ฉันขอแนะนำให้นายเลิกดิ้นรนโดยเปล่าประโยชน์ได้แล้ว”
ผู้ชายเสื้อหนังไม่รู้ว่าเย่เทียนคิดอะไรอยู่ เขายิ้มเย้ยหยัน “ไม่แน่ถ้าฉันอารมณ์ดีอาจจะเหลือศพเต็มตัวให้นายก็ได้”
เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึก ข่มความเลือดร้อนเดือดพล่านในกายลง และมองผู้ชายเสื้อหนังด้วยความเย็นชา
“ใครเหลือศพเต็มตัวให้ใครยังไม่แน่หรอกนะ!”
วินาทีที่สิ้นเสียง เย่เทียนรวบรวมชี่ทิพย์ไว้ที่สองขา พุ่งไปหาผู้ชายเสื้อหนังประหนึ่งสายฟ้า และต่อยเข้าที่หัวของผู้ชายเสื้อหนังด้วยหมัดเหล็กของตัวเองอย่างแรง
ปึ้ง!
เนื่องจากสองขามีชี่ทิพย์แล้ว ความเร็วของเย่เทียนเรียกได้ว่าเร่งถึงขีดสุด ผู้ชายเสื้อหนังไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวก็โดนต่อยเข้าที่หัว
ไม่รอให้ผู้ชายเสื้อหนังได้ตอบโต้ เย่เทียนก็กระโดดขึ้นจากจุดที่ยืนอีกครั้ง และต่อยเข้าที่หัวของผู้ชายเสื้อหนังอย่างแรงด้วยหมัดอันโหดเหี้ยม
อย่างที่เย่เทียนคาดการณ์ไว้ ผู้ชายเสื้อหนังโซเซจนเกือบล้ม
ยังไงซะสมองก็เป็นหนึ่งในจุดสำคัญของมนุษย์ เวลาที่โดนกระแทกอย่างหนักย่อมกระทบการเคลื่อนไหวของร่างกาย
“นายมันสมควรตาย!”
หลังจากโดนต่อยไปสองหมัดรัว ผู้ชายเสื้อหนังราวกับโดนยั่วโมโห ปากเขาคำรามอย่างกราดเกรี้ยว และกางแขนสองข้างพยายามจะพันธนาการเย่เทียน
แต่เย่เทียนจะยอมโดนล็อคตัวง่ายๆได้ยังไง เขางอเข่าลงเล็กน้อย หลบจากสองมือของผู้ชายเสื้อหนังได้อย่างหวุดหวิด และต่อยที่หัวเขาอย่างแรงอีกครั้ง
ปึ้ง!
หนนี้ผู้ชายเสื้อหนังทนไม่ไหวอีกต่อไปในที่สุด เขาโซซัดโซเซถอยหลังไปหลายก้าว สุดท้ายก็ทรงตัวไม่อยู่และล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้นอย่างแรง
“ฉันก็นึกว่านายมีร่างไร้เทียมทานซะอีก ดูท่าก็เท่านี้เองนี่หว่า!”
เย่เทียนไม่ได้ฉวยโอกาสนี้ไล่บี้ แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมราวกับกำลังรอ นัยน์สีนิลเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
“ไอ้สารเลว! ฉันจะฆ่านาย!”
ผู้ชายเสื้อหนังได้ยินดังนั้นก็รีบคลานขึ้นมา คำรามเสียงเกรี้ยวกราดด้วยความพาล และพุ่งเข้าไปหาเย่เทียนประหนึ่งคนบ้า
เขาอ้าแขนออกเสมือนอินทรีโบยบิน ปิดตายสองข้างซ้ายขวาของเย่เทียน ไม่ให้โอกาสเขาหลบ
“คิดว่าฉันกลัวนายจริงๆรึไง?”
เย่เทียนหัวเราะเย็นๆ หลอมรวมชี่ทิพย์ไว้ที่เท้าสองข้าง วิ่งเสริมแรงสองสามก้าวและกระโจนขึ้นกลางอากาศ สองขาของเขาราวกับนิวเคลียร์ ถีบเข้าที่หน้าของผู้ชายเสื้อหนัง
ถ้าเป็นคนอื่นๆทั่วไปคงไม่กล้าเข้ารับกระบวนท่าของเย่เทียนตรงๆ
ยังไงซะสองขาของเย่เทียนก็มีชี่ทิพย์หลอมรวมอยู่ ถ้าโดนถีบเข้าจังๆต่อให้เป็นแผ่นเหล็กก็คงทะลุ
แต่น่าเสียดาย ผู้ชายเสื้อหนังนตอนนี้ดูเหมือนจะถูกยั่วโมโหอย่างสมบูรณ์ เขาที่บันดาลโทสะเพียงแต่เอียงหัวเล็กน้อย ไม่ได้ดึงสองแขนที่ยื่นออกมากลับ และพยายามจะจับเย่เทียนด้วยการฝืนท่านี้ไว้
“โง่เง่า!”
เย่เทียนหัวเราะเย็นๆ สองขาเปลี่ยนมุมเล็กน้อยและถีบเข้าที่หน้าอกของผู้ชายเสื้อหนังอย่างแรง
ตู้ม!
แต่ทั้งๆที่โดนเข้าหนักขนาดนี้ ผู้ชายเสื้อหนังกลับถอยหลังแค่สองก้าว ไม่มีสีหน้าเจ็บปวดเลยสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่