“รบกวนช่วยฉันส่งหวั่นชิงกลับโรงแรมด้วย”
แม้ว่าเย่เทียนจะสนใจหัวหน้าผู้อยู่เบื้องหลังของเสี้ยงเหวินแต่เขาเองก็จะต้องจัดการเฉินหวั่นชิงเสียก่อนและคนที่ดีที่สุดที่จะพาไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลยก็คือช่างภาพเซ่อันนี่เอง
“คุณเย่ ตู้เคอหลินเป็นคุณชายใหญ่ที่นิสัยเสีย เรื่องในวันนี้เขาคงไม่ยอมวางมือเป็นแน่ ผมว่าพวกคุณควรจะออกจากเกาะนกนางนวลให้เร็วที่สุดคงเป็นการดี!”
ไม่ทันรอเซ่อันตอบ เจ๊หยกก็แทบรอไม่ไหวที่จะออกเสียงพูดเตือน
“คุณเย่ คุณเฉิน เจ๊หยกพูดถูก”
เซ่อันพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “ชื่อเสียงของตู้เคอหลินบนเกาะนกนางนวลแห่งนี้ไม่ดีนัก หากวันนี้เขาเสียหน้าขนาดนี้ เขาก็คงจะต้องหาวิธีแก้แค้นคุณเป็นแน่”
“ไม่เป็นไรหรอก หากเขากล้าเข้ามายุ่งวุ่นวาย ฉันเองก็มีวิธีจัดการเขาเช่นกัน!”
เย่เทียนผู้มีความมั่นใจในฝีมือตัวเองก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ
เมื่อมองไปเห็นท่าทางที่ไร้ความกลัวของเย่เทียน สีหน้าของเซ่อันก็ดูแปลกใจขึ้นเล็กน้อย
เป็นไปได้ไหมว่าถึงแม้ว่าชีวิตที่อยู่บนเกาะนกนางนวลที่ดูไม่คุ้นเคยแต่เย่เทียนก็ไม่ได้รู้สึกว่าตู้เคอหลินเป็นสิ่งคุกคาม?
เขาไปเอาความมั่นใจมากมายมาจากไหน?เป็นคุณชายใหญ่ของมหาเศรษฐีจากแห่งใดกัน?
“ฉันเข้าใจแล้ว”
เซ่อันจ้องมองไปที่เย่เทียนจนเมื่อรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เขาจึงได้พยักหน้าตอบรับ “เช่นนั้นพวกเราจะพาคุณเฉินกลับไปก่อน คุณเองก็ระวังตัวด้วย”
หลังจากที่รอส่งเฉินหวั่นชิงสามคนนั้น เย่เทียนก็ได้เดินตามเสี้ยงเหวินไปที่ห้องดีลักซ์ชั้นบนสุดของโรงแรมเฟยเฟิง
“คุณเย่ หัวหน้าได้รออยู่ด้านในแล้ว เช่นนั้นผมขอไม่เข้าไปกับคุณนะครับ”
เสี้ยงเหวินเคาะประตูด้วยความเคารพและหลังจากได้คำตอบรับจากด้านใน เขาก็ได้ช่วยผลักประตูพร้อมกับทำท่าทางผายมือเชิญชวน เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการที่จะเข้าไปด้วย
เย่เทียนพยักหน้าเล็กน้อย และเข้าไปในห้องโดยไม่ลังเล
ท้ายที่สุดมันเป็นห้องดีลักซ์ที่ด้านในตกแต่งได้อย่างเรียบง่ายและหรูหรา มีชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวนั่งอยู่บนโซฟาตัวนุ่มและด้านหน้าของเขามีชุดน้ำชากังฮูเต้วางอยู่
ชายวัยกลางคนมีใบหน้าที่เด็ดเดี่ยว ศีรษะโกนผมเสียจนสะอาดสะอ้าน กล้ามเนื้อของเขาปูดโปนขึ้นในเสื้อเชิ้ตสีขาว เมื่อมองดูก็รู้แล้วว่าคงเป็นหัวหน้าที่แตกต่างจากคนทั่วไป เขาเป็นคนที่ออกกำลังเป็นประจำ
ที่จริงแล้วคนมีเงินส่นมากมักจะหันไปสนใจความเพลิดเพลิน น้อยคนนักที่จะออกกำลังกายจนเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างแข็งแกร่งเช่นนี้
“คุณเย่ มันช่างเป็นละลาบละล้วงที่เชิญคุณมาอย่างกะทันหันเช่นนี้ หวังว่าคงจะถูกตำหนิ”
เมื่อเห็นเย่เทียนปรากฏขึ้น ชายวัยกลางคนก็ไม่รอช้าที่จะลุกยืนขึ้น “ผมชื่อหลู่อี้ และดูท่าน่าจะอายุเยอะกว่าคุณไม่น้อยเลย หากคุณไม่ว่าอะไรเรียกผมว่าพี่ชายก็ได้นะครับ”
“ประธานหลู่ไม่ทราบว่าที่ท่านเรียกผมมา มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?”
เย่เทียนยักไหล่พร้อมกับนั่งลงบนโซฟาอย่างเกียจคร้าน
“ในเมื่อคุณได้ทำการประมูลสร้อยคอรักนิรันดร์แล้ว เช่นนั้นคุณก็คือลูกค้าผู้มีเกียรติของบริษัทเราครับ”
หลู่อี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่จากนั้นไม่นานก็ได้คลายออกพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หากน้องชายเย่รู้สึกว่าต้องการ ผมสามารถจัดหาคนไปส่งพวกคุณที่สนามบินได้นะครับ”
“ผมต้องขอบคุณประธานหลู่สำหรับความหวังดีนะครับ แต่ว่า......”
เย่เทียนส่ายหัวปฏิเสธความหวังดีของหลู่อี้ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คนเกรดต่ำอย่างตู้เคอหลิน ผมไม่เอามาอยู่ในสายตาหรอกครับ!”
“เอ๊ะ?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่