ขณะที่เย่เทียนและหลู่อี้เจอกันนั้น ตู้เคอหลินก็ได้กลับมายังที่ส่วนตัวของเขาบนเกาะนกนางนวล แม้ว่าจะผ่านมาระยะหนึ่งแล้วแต่สีหน้าของเขาก็ยังคงซีดเผือดอยู่
บนเกาะนกนางนวลแห่งนี้ไม่เคยมีใครทำให้เขาต้องเสียหน้า ใครๆก็ต่างพากันเรียกคุณชายตู้กันอย่างเคารพสรรเสริญ?
อย่างไรก็ตามในวันนี้ได้มีชายที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าปรากฏตัวและกล้ามาหักหน้าเขา หากไม่นำศักดิ์ศรีนี้กลับมาแล้วเขาจะมีหน้าอยู่บนเกาะนกนางนวลได้อย่างไร?
“คุณชายตู้ ทำไมสีหน้าถึงดูไม่ได้เช่นนี้?คงไม่ได้ไม่สบายหรอกใช่ไหม?”
ชายหยาบกร้านร่างใหญ่รวมตัวกันเล่นโป๊กเกอร์อยู่ เมื่อสังเกตเห็นตู้เคอหลินเพิ่งเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นจึงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“ป่วยแม่มึงน่ะสิ!”
ตู้เคอหลินยังคงหงุดหงิดเป็นอย่างมาก จะไปอารมณ์ดีได้อย่างไรกัน เขาสบถคำพูดหยาบคายกลับไป
“คุณชายตู้ คุณไม่ได้ไปประมูลหรอกเหรอครับ?มีใครทำอะไรให้คุณต้องขุ่นเคืองใจงั้นเหรอ?พวกเราจะไปตัดตอนมันเดี๋ยวนี้!”
ชายหยาบกร้านสองสามคนที่นั่งเล่นไพ่อยู่ตระหนักถึงสิ่งนี้ดี พวกเขาต่างมองหน้ากันพร้อมกับวางไพ่ลงและคำรามร้องออกมาอย่างผีห่าซาตาน
“ไม่รู้ว่าเป็นพวกอันธพาลจากไหนก็ไม่รู้ถึงได้มากล้าแย่งการประมูลกับฉัน สร้อยคอเส้นเดียวแต่กลับประมูลไปตั้งหนึ่งร้อยสามสิบล้าน น่าโมโหจริงๆ”
“แถมยังมีเสี้ยงเหวินหมารับใช้ตัวนั้นอีกที่กล้าลำเอียงไอ้เด็กเวรนั่น จงใจใช้หลู่อี้มากดดันฉัน ปล่อยมันไปไม่ได้จริงๆ!”
ตู้เคอหลินถือโอกาสหยิบแอลกอฮอล์ออกมาหนึ่งขวดและกระดกลงท้องไปหลายอึกก่อนที่จะกัดฟันค่อนแคะออกมา
“นี่……..”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ชายหยาบกร้านร่างใหญ่ที่กำลังโห่ร้องอยู่ก็ถึงกับต้องปิดปาก
แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อฟังคำสั่งของตู้เคอหลินแต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนบ้า แม้ว่าจะจัดการเอาเถ้าแก่ใหญ่อย่างหลู่อี้ออกไปได้และไปปะทะกับอีกฝ่ายที่ยอมควักเงินถึงหนึ่งร้อยสามสิบล้าน ต่อให้เป็นสมองหมูก็คงรู้ดีว่ามันคงเป็นเรื่องใหญ่มากเป็นแน่
หากต้องการจัดการเก็บกวาดคนรุ่นที่สองเช่นนี้ หากอีกฝ่ายทำให้เป็นเรื่องใหญ่และมาสอบสวนก็คงหนีไม่พ้นตู้เคอหลินอยู่ดี แล้วพวกเขาจะหนีพ้นเหรอ?
“คุณชายตู้ ยังไงซะมันก็เป็นเรื่องที่งานประมูล เดิมทีคนที่เสนอราคาสูงก็ต้องเป็นคนที่ได้อยู่แล้ว พวกเรา..... ”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ชายหยาบกร้านร่างกำยำก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองกัน จากนั้นก็มีคนลุกยืนขึ้นมาในทันใด
“พวกนายหมายความว่ายังไง?!”
“พวกแกนี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ ทุกๆวันกินของของฉัน ใช้ของของฉันแล้วพอตอนนี้ถึงเวลาที่ฉันต้องการใช้งานกลับมาทำตัวขี้ขลาดแบบนี้น่ะเหรอ?!”
“คุณชายตู้ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ความหมายของพวกเราคือ.....”
เมื่อเห็นตู้เคอหลินที่ดูโกรธ ชายหยาบกร้านร่างใหญ่หลายคนต่างก็พากันตื่นตระหนกและพยายามอธิบายออกไป
“ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายอะไรกับฉัน หรือว่าพวกแกไม่เคยได้ยินประโยคที่ว่าอธิบายเพื่ออำพรางอย่างนั้นเหรอ?”
น่าเสียดายที่ตู้เคอหลินไม่ยินยอมที่จะฟังพวกเขาพูดแต่อย่างใด เขาพูดด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยมว่า “อย่ามาโทษว่าฉันพูดจาน่าเกลียด ฉันเสียเงินไปมากเพื่อเลี้ยงดูพวกแก หากฉันเอาศักดิ์ศรีนี้กลับคืนมาไม่ได้ พวกแกก็เตรียมตัวสำรอกเอาเงินฉันออกมาได้เลย!”
“นี่……”
ชายหยาบกร้านร่างใหญ่ไม่กี่คนยิ้มออกมาอย่างขมขืื่นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมา “คุณชายตู้ วางใจได้เลยครับ เราจะเรียกประชุมทีมและเอาคืนให้คุณให้ได้!”
ขณะเดียวกัน เย่เทียนก็ได้ลาหลู่อี้และกลับไปที่โรงแรมที่พักอยู่
เมื่อเห็นว่าเขากลับมาอย่างปลอดภัย เฉินหวั่นชิงที่ใจเป็นกังวลก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ระหว่างทางกลับ เจ๊หยกกับเซ่อันก็ได้พูดให้เธอฟังถึงความใจแคบของตู้เคอหลินหรือแม้แต่การยกตัวอย่างออกมาหลายอัน
หลังจากรู้พฤติกรรมแย่ๆของตู้เคอหลินแล้ว เฉินหวั่นชิงก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลเย่เทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่