“ราคาสร้อยข้อมือเส้นนี้คือ 137,000 ค่ะ”
พนักงานขายยิ้มพูดราคา “ช่วงนี้ทางร้านเรามีโปรโมชั่น จะมีส่วนลด 2% ให้คุณลูกค้านะคะ”
“ว้าว! สร้อยข้อมือเส้นนั้นสวยมาก!”
แต่ว่า ก่อนที่เย่เทียนจะตอบ เสียงของสาวสวยคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
เย่เทียนหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ และเห็นสาวรูปงามคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลัง ในขณะนี้ สาวสวยคนนั้นจับจ้องไปที่สร้อยข้อมือของจี้เยียนหรันด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
ซึ่งผู้หญิงคนนั้นไม่ได้สนใจเย่เทียนและคนอื่นๆ เลย เธอได้แต่ตะโกนบอกพนักงานขายอย่างเย่อหยิ่งว่า “ฉันอยากได้สร้อยข้อมือเส้นนั้น! ส่งมาให้ฉันที!”
“คือว่า......”
พนักงานขายขมวดคิ้วทันทีด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิงคะ คือว่าทางร้านเรามีสร้อยข้อมือรุ่นนี้แค่เส้นเดียวนะคะ พอดีคุณผู้หญิงสองท่านนี้เลือกก่อน หรือว่าอีกสองวันคุณค่อย......”
“บอกให้เอามาก็เอามาสิ คุณดูสภาพสองคนนี้จะมีปัญญาซื้อเหรอ?”
โดยไม่รอให้พนักงานขายพูดจบ หญิงสาวที่ได้ยินว่าสร้อยข้อมือรุ่นนี้เหลือเพียงเส้นเดียวเท่านั้น เธอจึงขมวดคิ้วและตัดคำพูดทันที “เร็วเข้าสิ! ไม่อย่างนั้นฉันจะบอกผู้จัดการนะ!”
“คุณผู้หญิงคะ คือว่าดิฉัน......” พนักงานขายอึดอัดใจมาก
“เดี๋ยวนะ นี่คุณหมายความว่าไง? ทั้ง ๆ ที่พวกเรามาดูก่อนนะ เรื่องอะไรจะต้องเอาให้คุณด้วย!”
ในที่สุดหยุนเหมิงหยานที่ตั้งตัวได้ก็ยกมือเท้าสะเอวแล้วพูดอย่างไม่พอใจ
“มาก่อนแล้วยังไง? พวกเธอมีปัญญาซื้องั้นเหรอ?”
หญิงสาวชำเลืองมองพวกเขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม “ยืนทื่ออยู่ทำไม? ยังไม่รีบถอดสร้อยข้อมือให้ฉันอีก!”
เนื่องจากทั้งสามมาเข้าร่วมการแข่งขันการคัดเลือกของทีมสายฟ้า อีกอย่างเพิ่งมาถึงเมืองจินไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเย่เทียนกับจี้เยียนหรันไม่เท่าไหร่ แต่หยุนเหมิงหยานยังสวมชุดฝึกลายพรางธรรมดาตัวหนึ่ง จึงทำให้ผู้อื่นดูถูกอย่างเลี่ยงไม่ได้
“นี่คุณหมายความว่าไง? ฉันบอกว่าฉันจะไม่ซื้อเหรอ? นี่คุณอยากได้ขนาดนั้นเลยใช่ไหม? แต่ฝันไปเถอะ!”
เมื่อถูกดูหมิ่นแบบนี้ หยุนเหมิงหยานก็โกรธขึ้นทันที จากนั้นเธอถอนสร้อยข้อมือออกจากแขนของจี้เยียนหรันแล้วยื่นให้กับพนักงานขายและพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า “รบกวนใส่กล่อง แล้วมาเช็กบิลกับฉันเลยนะ!”
พนักงานขายเพิ่งรับสร้อยข้อมือไป แต่หญิงสาวคนนั้นรีบเดินเข้ามาแล้วคว้าสร้อยข้อมือไปจากพนักงานขายทันที
“เลิกอวดดีได้แล้ว ไม่ดูสภาพการแต่งตัวของตัวเองจริงๆ ยังกล้ามาซื้อสร้อยแบบนี้ได้ไง?”
หญิงสาวชำเลืองมองหยุนเหมิงหยานอย่างดูถูก จากนั้นหยิบบัตรธนาคารจากกระเป๋าแล้วยื่นให้กับพนักงานขาย “ฉันจะซื้อสร้อยเส้นนี้ เอาบัตรไปรูดซะ!”
“เดี๋ยวนะคะคุณผู้หญิง แต่ว่า......”
พนักงานขายมองไปที่บัตรธนาคารใบนั้นด้วยสีหน้าขมขื่น เธอจะรับก็ไม่ได้ ไม่รับก็ยังไงอยู่
“เป็นไรไป? ยังไม่รีบไปรูดบัตรอีก?!”
หญิงสาวเริ่มโมโห จากนั้นเธอโยนบัตรธนาคารใส่หน้าพนักงานขายอย่างเย่อหยิ่ง “เธอฟังไม่เข้าใจเหรอ? ยังไม่รีบไปอีก!”
“คุณ......ดิฉัน......”
สีหน้าของพนักงานขายบูดบึ้ง เห็นได้ชัดว่าเธอโกรธมาก แต่ด้วยจรรยาบรรณในวิชาชีพที่ดีของเธอ ทำให้เธอยังไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา
อย่าว่าแต่พนักงานคนนี้เลย แม้แต่กลุ่มของเย่เทียนก็ทนไม่ไหวกันแล้ว นี่มันจะดูถูกคนเกินไปไหม?
“จะมากไปแล้วนะ!”
โดยเฉพาะหยุนเหมิงหยานโกรธมากจนชี้นิ้วไปที่หญิงสาวคนนั้นและพร้อมที่จะใช้กำลังทันที
“เหมิงหยาน ฉันเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่