ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 567

สรุปบท บทที่ 567 เจ้าของร้านหลู่ซีซาน: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ตอน บทที่ 567 เจ้าของร้านหลู่ซีซาน จาก ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 567 เจ้าของร้านหลู่ซีซาน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ ที่เขียนโดย Light-Knight เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

"ไอ้เวร มึงยังกล้าสู้เหรอวะ?"

เมื่อเห็นชายผมทองหัวแตก ชายหัวโล้นก็โกรธจัดในทันที "ไปอัดมันซะ! ส่งไอ้เวรตะไลสองตัวนี้คุยกับรากมะม่วงเดี๋ยวนี้!"

แต่ ตัวเขากลับถอยหลังไปหนึ่งก้าว

"ฟู่ยี่ ฝากคุณดูและเธอผู้หญิงด้วยนะ"

เย่เทียนยิ้มพูดอย่างขมขื่น เขาไม่คิดเลยว่าเซวฟู่ยี่จะหุนหันพลันแล่นขนาดนี้ แต่เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว คงต้องสั่งสอนนักเลงพวกนี้สักหน่อย

วินาทีต่อมา เย่เทียนก็พุ่งเข้าหาชายผมแดง และชกกำหมัดใหญ่เท่าหม้อของเขาออกไปแรงๆ

ผัวะ!

ชายผมแดงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เทียนอยู่แล้ว เขารู้สึกถึงความเจ็บบนใบหน้า และในทันใดนั้น เลือดกำเดาก็ไหลออกมา ทำให้เขาเจ็บจนร้องออกมาดังๆ แล้วนั่งลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด

แต่เย่เทียนไม่หยุดเพียงเท่านี้ จากนั้นเขาเหยียบหัวไหล่ของชายผมแดงที่นั่งอยู่กับพื้นแล้วกระโจนใส่ชายหัวโล้นดุจดั่งนกอินทรีกางปีก

"โหดขนาดนั้นเลยเหรอ?"

และนี่เป็นครั้งแรกที่เซวฟู่ยี่เห็นฝีมือของเย่เทียน และเขาก็ถึงกับอึ้งไปทันที

หยุนเหมิงหยานกับจี้เยียนหรันไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเธอทั้งสองคนต่างก็เคยเห็นฝีมือของเย่เทียนแล้ว และรู้ว่านักเลงกลุ่มนี้ไม่มีปัญญาชนะเขาได้

อย่าว่าแต่เซวฟู่ยี่คนเดียวที่แปลกใจ แม้แต่อันธพาลกลุ่มนี้ยังตกตะลึงและยังรู้สึกอึ้งกับฝีมือของเย่เทียนอยู่

โดยเฉพาะชายหัวโล้นประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ได้สติกลับมาทันที จากนั้นกัดฟันและกำหมัดต่อยไปที่เย่เทียนที่กำลังพุ่งเข้ามา

เย่เทียนทำเสียงฮึดฮัดและเตะไปที่กำปั้นของชายหัวโล้นอย่างไม่ลังเล

บุม!

เสียงทุ้มดังขึ้น หมัดและเท้าของทั้งสองปะทะกัน

ชายหัวโล้นรู้สึกได้ถึงแรงมหาศาลจากเท้าของเย่เทียน ทำให้เขาถึงกับทนไม่ไหวและถอยหลังออกไปจนแทบล้มลงกับพื้น

แต่เย่เทียนไม่รอให้เขาตั้งหลักได้ เมื่อเท้าแตะถึงพื้นเขาก็เตะออกไปอีกครั้ง

ผัวะ!

เย่เทียนเตะใส่ท้องของชายหัวโล้นอย่างแรง จนทำให้เขาเจ็บจนขดตัวลงไปอย่างทนไม่ได้

แต่ว่าเย่เทียนยังไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ เขาจึงขยับขาและพุ่งเข้าไปหาชายหัวโล้นด้วยความเร็วแสง ซึ่งนิ้วทั้งห้าของเขาเกร็งเป็นกรงเล็บ จากนั้นมือข้างหนึ่งของเขาจับข้อมือขวาของชายหัวโล้น ส่วนอีกข้าก็ล็อกไปที่ไหล่ขวาของชายหัวโล้นและกดลงไปแรงๆ

“โอ๊ย เจ็บ เจ็บ!”

ชายหัวโล้นถึงขั้นร้องลั่นออกมาและย่อตัวลงเพราะทนเจ็บไม่ไหว

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกคนรู้สึกตัว ชายหัวโล้นก็แพ้ให้เย่เทียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!

“พี่เย่ นี่มัน……”

เซวฟู่ยี่มองไปที่เย่เทียนด้วยสายตาไม่คาดคิด ไม่เคยคิดเลยว่าเย่เทียนจะเก่งขนาดนี้ ใช้เวลาสั้นๆ ก็สามารถล้มชายหัวโล้นคนที่เป็นหัวหน้าของอันธพาลกลุ่มนี้ได้แล้ว

"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"

ในขณะนั้นเอง รปภ.นับสิบคนก็เร่งเข้ามา ซึ่งในมือทุกคนถือกระบองไม้ยาง และหัวหน้ารปภ.ก็ตะโกนอย่างดุเดือดว่า "ใครหน้าไหนกล้ามาหาเรื่องที่ซันนี่เดย์ของเรา? คิดว่าจะรังแกซันนี่เดย์ของเรายังไงก็ได้งั้นเหรอ?"

"หืม? พวกแกอีกแล้วเหรอ?"

ทันใดนั้น เมื่อเห็นศีรษะของชายผมทองเต็มไปด้วยเลือด และเห็นชายหัวโล้นที่ถูกเย่เทียนล็อกตัวไว้ หัวหน้ารปภ. ก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที

"พี่ฮุย ครั้งนี้เราไม่ได้หาเรื่องนะครับ พวกเขาต่างหากที่มาหาเรื่องเราก่อน คงจะให้พวกผมยืนอยู่เฉยๆ ไม่ได้หรอกนะครับ?"

ชายผมแดงที่ไม่ได้รับการบาดเจ็บมากก็รีบลุกขึ้น

เมื่อหัวหน้ารปภ. ได้ยินอย่างนั้นเขาก็กวาดมองไปและสุดท้ายไปหยุดอยู่ที่เย่เทียนที่กำลังล็อกตัวชายหัวโล้นอยู่ จากนั้นค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น "คุณครับ คุณช่วยปล่อยเขาก่อนครับ!"

"หุบปาก!"

โดยที่ไม่รอให้หัวหน้ารปภ. พูดจบหลู่ซีซานก็พูดแทรกขึ้นว่า "ขนาดนายน้อยคนที่สองที่มีชื่อเสียงของตระกูลเซวคุณยังไม่รู้จัก แล้วยังมีหน้ามายืนอยู่อีกงั้นเหรอ? อย่าว่าแต่ละเมิดกฎ ต่อให้เขายุบร้านเราทิ้งก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา!"

รปภ. ทั้งสิบคนถึงกับเงียบไป โดยเฉพาะหัวหน้ารปภ. ถึงกับตาค้างและไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ

ในเมื่องหลู่ซีซานก็พูดอย่างนี้แล้ว แปลว่าเซวฟู่ยี่ต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดาแน่นอน!

เมื่อเห็นพวกเขายังทำหน้าอึ้งอยู่กับที่ หลู่ซีซานก็ขมวดคิ้วและพูดซ้ำอีกรอบว่า "ยืนทื่ออยู่ทำไม? ยังไม่รีบขอโทษคุณชายรองตระกูลเซวอีก!"

เมื่อรปภ. ที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบตั้งสติและตะโกนกับเซวฟู่ยี่ว่า "คุณชายรองตระกูล ขอโทษครับ!"

ฉากนี้ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจ และอดใจไม่ได้ที่จะกระซิบพูดคุยเกี่ยวกับสถานะตัวตนของเซวฟู่ยี่

สีหน้าของชายหัวโล้นก็เปลี่ยนไปทันที ต่อให้เขาจะโง่แค่ไหน เขาก็ต้องรู้ตัวว่าเหยียบหางเสือแล้ว

ไม่ใช่แค่ตัวเขาคนเดียวเท่านั้น แม้แต่ชายผมทองที่ถูกเซวฟู่ยี่ตีหัวแตกก็แสดงสีหน้าตกใจ เขาไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าเซวฟู่ยี่จะมีอำนาจใหญ่โตขนาดนี้ แม้แต่หลู่ซีซานที่หยิ่งผยองมาตลอดยังต้องเกรงใจเขา

เท่าที่รู้ ก่อนหน้านี้เคยมีผู้กำกับจากหน่วยงานตำรวจมาดื่มเหล้าที่นี่จนเมาและเผลอไปลวนลามพนักงานหญิง หลู่ซีซานก็สั่งให้คนจับเขาโยนออกไปจากร้าน แต่จากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับซันนี่เดย์เลยด้วยซ้ำ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ถึงภูมิหลังที่หนาแน่นของหลู่ซีซานคนนี้

เมื่อเห็นการแสดงออกของหลู่ซีซานในตอนนี้ แล้วเขาจะไม่ตกใจได้อย่างไร?

"ดิฉันหลู่ซีซาน เป็นเจ้าของบาร์แห่งนี้ ต้องขอความกรุณาจากคุณชายรองตระกูลเซว อย่าถือสาลูกน้องของดิฉันเลยนะคะ"

จนกระทั่งตอนนี้ หลู่ซีซานก็ก้มลงเพื่อแสดงความขอโทษกับเซวฟู่ยี่

"ผมไม่ถือสาพวกเขาหรอก"

เซวฟู่ยี่นั่งลงอีกครั้งและมองไปที่ชายหัวโล้นแล้วยิ้มพูดว่า "แต่พวกเขา……"

หลู่ซีซานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าควรทำยังไงต่อ เธอจึงหันหลังกลับไปแล้วพูดกับชายหัวโล้นอย่างเย็นชาว่า "ที่นี่ไม่ต้อนรับคนอย่างพวกคุณ กรุณาออกไปจากร้านเราเดี๋ยวนี้!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่