“เย่เทียน ฉันยังหนักใจอยู่เลยว่าจะหาแกไม่เจอ นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าแกจะมาหาฉันถึงที่แบบนี้!”
กับความโมโหของเซวฟู่ยี่ ตู้เคอหลินก็แค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย โดยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย และได้หันมองไปที่เย่เทียนอีกครั้ง
นี่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดคาดอะไรมากมาย เขานั้นเป็นแค่คุณชายใหญ่ที่ถูกเอาใจจนเสียคน จึงไม่ค่อยสนใจผลที่จะตามมาสักเท่าไหร่
เย่เทียนขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ตู้เคอหลิน ผมหักแขนคุณไปข้างหนึ่งคงยังไม่พอ คงต้องหักเพิ่มอีกข้างแล้วล่ะ!”
“เย่เทียน ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับแขนฉัน แกใช้มนต์ดำอะไรกันแน่?”
เย่เทียนไม่พูดยังไม่เป็นไร พอเย่เทียนพูดถึง ตู้เคอหลินก็โมโหขึ้นมาทันที
“คุกเข่าลงมาขอร้องสิ แล้วผมจะบอกคุณ!”
เย่เทียนขำอย่างไม่ชอบใจไม่ยอมหยุด เขาแค่สกัดจุดบนแขนของตู้เคอหลินเท่านั้น แค่หานักบู๊สักคนที่รู้จักจุดฝังเข็มบนร่างกายก็สามารถคลายมันได้อย่างง่ายดายแล้ว
การที่เขาทำแบบนี้ แค่อยากให้ตู้เคอหลินไปหาคนของสำนักกุยอีผ่านทางตู้เฮิงฉุนเท่านั้น แบบนี้เขาถึงสามารถรับรู้ข้อมูลของแก๊งหย่งเย่ได้มากขึ้น
“แกตายแน่!”
ตู้เคอหลินตกใจ พูดพร้อมกัดฟันแน่นว่า “เย่เทียน วันนี้มันต่างจากที่ผ่านมา ความอัปยศที่แกมอบให้ฉัน วันนี้ฉันจะให้แกต้องชดใช้เป็นร้อยเท่า!”
“คุณเนี่ยนะ? ไม่มีน้ำยาหรอก!” เย่เทียนส่ายหน้าอย่างดูแคลน
“เย่เทียน ฉันรู้ว่าแกสู้เก่ง แต่วันนี้แกได้ตายอย่างแน่นอน!”
ตู้เคอหลินหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ยกมือชี้ไปที่พี่น้องตระกูลเซียว “เห็นสองท่านนี้มั้ย? พวกเขาเป็นคนที่พ่อฉันเชิญมาด้วยราคาที่สูงลิ่ว มาเพื่อจัดการกับแกโดยเฉพาะ!”
“ถ้าแกคุกเข่าแล้วขอโทษฉันตอนนี้ ไม่แน่ฉันอาจจะให้แกได้ตายดีก็ได้!”
“นี่คุณยังไม่ได้นอนหรือกำลังฝันอยู่กันเนี่ย?”
เย่เทียนเบ้ปากอย่างไม่ให้เกียรติ แต่สายตาที่มองไปยังพี่น้องตระกูลเซียวกลับดูระมัดระวังขึ้นมา
“จะตายอยู่แล้วยังจะปากแข็งอีก?”
ตู้เคอหลินขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ ไม่อยากพูดมากกับเย่เทียนแล้ว จึงหันไปสั่งพวกบอดี้การ์ดว่า “นี่พวกแกจะมัวยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม! หักแขนทั้งสองข้างของไอ้สารเลวนั่นซะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง!”
“คุณชายตู้ กับไอ้หมอนี่ที่ดูปวกเปียกแบบนี้ ผมแค่คนเดียวก็เกินพอแล้วครับ!”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งกวาดตามองเย่เทียนด้วยความดูถูก แล้วพุ่งตัวเข้าไปคนเดียว ยกมือขึ้นมาแล้วชกไปที่หน้าของเย่เทียนอย่างแรง
ซิ่ว!
พอเห็นบอดี้การ์ดที่พุ่งเข้ามา เย่เทียนก็ยิ้มอย่างไม่ชอบใจออกมาที่มุมปาก ในตอนที่กำปั้นของบอดี้การ์ดคนนั้นจะชกโดนหน้านั้น เขาก็เอนหัวทันที ดูเเล้วเหมือนจะอันตราย แต่ความจริงเขากลับหลบออกอย่างปลอดภัย
“กะอีแค่ความสามารถแค่นี้ยังคิดที่จะเล่นงานผมอีก? กลับบ้านไปฝึกอีกร้อยปีเถอะ!”
เย่เทียนส่ายหน้าอย่างดูแคลน แล้วซัดกำปั้นออกไปอย่างฉับพลัน ชกใส่ที่ท้องของบอดี้การ์ดคนนั้นอย่างแรง
ตุบ!
หมัดกับเนื้อปะทะกันจนเกิดเป็นเสียงดัง บอดี้การ์ดคนนั้นได้พุ่งออกไปราวกับลูกธนูที่ออกจากคัน เด้งกลับออกไปกลางอากาศ แล้วกระแทกไปที่โซฟาอย่างแรง
บอดี้การ์ดที่น่าสงสาร ยังไม่ทันที่จะได้โอดครวญสักทีก็หมดสติไปแล้ว
ซี๊ด!
ภาพที่เว่อร์วังนั้น ทำให้ทุกคนตรงนั้นนอกจากพี่น้องตระกูลเซียวก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจดังซี๊ด สายตาที่มองเย่เทียนก็ดูซับซ้อนขึ้นมา
ต้องรู้ก่อนว่า บอดี้การ์ดคนนั้นอย่างน้อยก็น่าจะหนักร้อยห้าสิบปอนด์ แต่กลับถูกเย่เทียนชกจนกระเด็นออกไปอย่างง่ายดายแบบนี้ พละกำลังนี้มันไม่น่ากลัวไปหน่อยเหรอ?
ถึงแม้ตู้เคอหลินจะเคยเห็นความร้ายกาจของเย่เทียนมาแล้ว แต่พอตอนนี้ได้มาเห็นมันอีกครั้ง ในใจก็ปฏิเสธที่จะรู้สึกกลัวไม่ได้
ส่วนบอดี้การ์ดอีกสี่คนที่เหลือก็ถึงกับกลืนน้ำลาย ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ และในใจก็อยู่ไม่สุขเลยสักนิด
หันมองไปที่พี่น้องตระกูลเซียว สีหน้าที่เกียจคร้านนนั้นก็ได้หายไปไม่เหลือหลอ และแทนที่ด้วยสีหน้าที่ระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม ตู้เคอหลินก็รีบถอยไปหลบอยู่ข้างตัวพี่น้องตระกูลเซียว และรีบพูดไปว่า “พะ พี่น้องตระกูลเซียว พวกนายสองคนยังมัวนั่งอยู่ทำไม? ยังไม่รีบไปจัดการไอ้หมอนั่นอีก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่