“เดี๋ยวนะ การแข่งขันคัดเลือกมันธรรมดาแบบนี้ทุกปีเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำถามของเย่เทียน ใบหน้าของฉินชิงหู่กับเฉิงหลงก็แดงขึ้นทันที
“เย่เทียน เยียนหรัน พวกคุณนั่งก่อนสิ!”
ฉินชิงหู่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมขื่น จากนั้นชี้ไปที่เก้าอี้พับสองตัวข้างเขา กระทั่งทั้งสองนั่งลงเขาจึงค่อยๆ อธิบายขึ้นมาว่า
“เราก็ไม่อยากให้มันเรียบง่ายขนาดนี้หรอกนะ แต่มันจำเป็นจริงๆ......”
หลังจากนั้นสักพัก เย่เทียนถึงจะเข้าใจสถานการณ์ได้
พูดตามตรงก็คือ เนื่องจากสถานการณ์ของสถานที่การจัดงาน ซึ่งทุกอย่างในนี้ รวมไปถึงเต็นท์กันแดด ล้วนเป็นความรับผิดชอบของกองทัพในแต่ละภาคของตน!
ซึ่งเบื้องบนมีการบริการรับส่งเท่านั้น จึงมีเฮลิคอปเตอร์ให้ทุกเขตทหารหน่วยละหนึ่งเครื่อง ฉะนั้น ในพื้นที่ที่มีจำกัดนี้ โดยพื้นฐานแล้วอย่าคิดจะนำของอย่างอื่นเข้ามาได้อีก
แต่แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย สถานที่จัดงานจึงไม่ถูกเปิดเผยล่วงหน้า แม้แต่ฉินชิงหู่และพรรคพวกของเขาก็เพิ่งรู้สถานที่หลังจากได้เดินทางมาถึง
ด้วยเหตุนี้ ไม่มีทางที่ใครจะขับรถส่งของมาก่อนได้แน่นอน!
“เย่เทียน กฎของการแข่งขันคัดเลือกง่ายมาก......”
หลังจากอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับสถานที่จัดการให้กับเย่เทียนแล้ว ฉินชิงหู่ก็ใช้โอกาสนี้ในการอธิบายกฎการแข่งขันให้กับเย่เทียนฟัง
ในส่วนนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากสิ่งที่เย่เทียนคาดเดาไว้มากนัก ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องต่อสู้ 4 รอบ และต้องชนะทั้ง 4 ครั้งเท่านั้นถึงจะเข้าสู้รอบต่อไปได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่ได้แจ้งว่าจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมการแข่งขันไปกี่คน แต่แน่นอนว่ายิ่งอยู่อันดับที่สูงกว่าก็ยิ่งปลอดภัย
นอกจากนี้ ในกระบวนการแข่งขัน ไม่มีข้อจำกัดใดๆ นอกจากการที่ไม่สามารถใช้อาวุธและการที่ไม่สามารถฆ่าคู่ต่อสู้ได้!
หลังจากการรอเกือบ 20 นาที เสียงทุ้มดังขึ้นในเต็นท์ด้านหน้า ฉินชิงหู่ก็รีบลุกขึ้นทันทีและพูดว่า “เย่เทียน คนน่าจะมากันครบแล้วนะ เราไปกันเถอะ!”
ในขณะที่พูด ฉินชิงหู่ก็ได้เดินนำหน้าไปก่อนแล้ว
เมื่อเย่เทียนเดินออกจากเต็นท์กันแดด เขาก็พบว่าเต็นท์โดยรอบก็มีคนอื่นๆ เดินออกมาด้วย และทุกคนก็เดินตรงไปยังเวทีขนาดเล็กตรงหน้าราวกับกำลังเดินขบวนพาเหรด
เย่เทียนจับมือที่เรียวงามของจี้เยียนหรันแล้วเดินตามฉินชิงหู่ไปข้างหน้าในระยะหนึ่งเมตร
แต่ว่า ก่อนที่จะเดินไปไกลกว่านี้ ไหล่ของเย่เทียนก็ถูกตบอย่างกะทันหัน ทำให้เขาต้องหันไปมอง และเห็นว่าเป็นชายร่างใหญ่คนหนึ่งที่ตัดทรงทหารกำลังมองเขาด้วยท่าทางยั่วยุ
เย่เทียนขมวดคิ้วขึ้นทันที เพราะชายคนนี้คือคนที่นั่งเฮลิคอปเตอร์มากับเขาพร้อมกัน ตามการแนะนำจากเซวหมานจื่อแล้ว หมอนี่มันชื่อโอชิ และมันยังพอมีชื่อเสียงเล็กน้อย
“ไอ้หนู ข้าไม่รู้หรอกว่าเอ็งเก่งมาจากไหน แต่ข้าขอเตือนเอ็งไว้ก่อน ที่นี่ไม่ใช่สถานที่หลอมทองคำนะ! ข้าขอแนะนำว่า เดี๋ยวขึ้นไปบนเวที เอ็งรีบยอมแพ้แล้วกลับไปดื่มนมนอนซะ!”
ทันทีที่เสียงพูดของเขาจบลง และก่อนที่เย่เทียนจะตอบสนอง ดวงตาที่งดงามจี้เยียนหรันก็มองไปที่เขาและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “คุณพูดอะไรอยู่? ฉันจะบอกคุณว่าเย่เทียนเก่งมากเลยนะ!”
“เก่งมาก? แต่ผมดูไม่ออกเลยนะ!”
โอชิส่ายหัวและพูดอย่างดูถูก “ดูจากการแต่งตัวและสภาพร่างกายแล้ว ถ้าข้าเดาไม่ผิด เอ็งน่าจะเป็นคุณชายใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่