“คุณหลอกล่อให้ผมทำแบบนี้ คงไม่ได้มีความแค้นต่อผางติ้งกั๋วหรอกนะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียน เซวหมานจื่อก็ส่ายหัวแล้วยิ้มพูดอย่างเย้ยหยัน “ได้ยินจากน้องชายผมว่า หลังจากผางติ้งกั๋วเข้าร่วมทีมมังกรฟ้าแล้ว สองพี่น้องตระกูลผางก็ทำตัวหยิ่งจองหอง และไม่เห็นหัวคนอื่นเลย ฉะนั้นด้วยโอกาสในวันนี้ ผมอยากสั่งสอนให้พวกมันได้รู้ว่าดินแดนแห่งเมืองจินนี้ ไม่ใช่ใครหน้าไหนก็มาทำตัวแบบนั้นได้!”
เย่เทียนหัวเราะออกมาดังๆ แล้วพูดอย่างจนใจว่า “คุณก็ไม่ชอบสองพี่น้องตระกูลผางเหมือนกันเหรอ แล้วพวกเขาเกี่ยวอะไรกับหยวนเข่อเหวยล่ะ?”
“จะว่าแบบนั้นไม่ได้นะ หยวนเข่อเหวยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผางติ้งกั๋วมาก ในเมื่อวันนี้ตระกูลผางไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย หยวนเข่อเหวยก็โชคร้ายไปสิ!”
รอยยิ้มที่เย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซวหมานจื่อ “ถ้าจะโทษ คงต้องโทษที่มันสนิทกับตระกูลผาง!”
เย่เทียนจนใจอย่างที่สุด และพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ต่อให้ผมรับปากคุณ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องเจอเขาไม่ใช่เหรอ?”
“อย่างน้อยก็มีโอกาสเป็นไปได้!”
เซวหมานจื่อหัวเราะคิกคัก และดวงตาขนาดเท่าระฆังทองแดงคู่นั้นก็เปล่งประกายแสงอันดุดัน “อีกอย่างเรามากันสองคน ถ้าได้เจอกันจริงๆ คุณก็เต็มที่ไปเลย มีปัญหาผมจะรับผิดชอบเอง!”
“คุณพูดเองนะ! ถ้าผมเจอหยวนเข่อเหวยผมจะเล่นงานมันให้หนักไปเลย!”
แต่ว่า ทันทีที่เย่เทียนพูดจบ เสียงหัวเราะเยาะจากด้านหลังก็ดังขึ้น เย่เทียนหันกลับไปมองและเห็นว่าเป็นโอชิที่เพิ่งเตือนเขาในก่อนหน้านี้!
“อย่างเอ็งน่ะเหรอจะเล่นงานหยวนเข่อเหวยได้? ข้าว่าเอ็งน่าจะโดนเล่นงานแทนมากกว่า?!”
“หมานจื่อ ถ้าเป็นนายข้าอาจจะเชื่อก็ได้นะ แต่ถ้าเป็นไอ้หมอนี่ ต่อให้ตายข้าก็ไม่เชื่อหรอก”
“นั่นน่ะสิ ไอ้หมอนี่มันผอมแห้งขนาดนี้ จะรับหมัดของหยวนเข่อเหวยได้สักหมัดไหมยังไม่รู้เลย!”
เย่เทียนที่ได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วขึ้น สีหน้าของเซวหมานจื่อก็ไม่ได้ดีเช่นกัน เขาจึงตั้งใจจะพูดแทนเย่เทียน
แต่ดวงตาสีเข้มของเย่เทียนหันมองไปที่เขา ทำให้เขาเข้าใจอะไรบางอย่าง จากนั้นเย่เทียนก็พูดกับโอชิและพรรคพวกของเขาก่อนด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อพวกคุณไม่เชื่อ งั้นเราลองมาเดิมพันกันดูไหม?”
“เดิมพัน?”
โอชิกวาดมองเย่เทียนอย่างดูถูก “ว่ามา จะเดิมพันยังไง?”
“ง่ายๆ เลย”
เย่เทียนดีดนิ้วแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าผมเจอหยวนเข่อเหวยแล้วถ้าผมชนะเขาได้ พวกคุณไม่ใช่แค่ต้องขอโทษผมเท่านั้น แต่พวกคุณห้ามเสนอหน้าให้ผมเห็นอีก ว่าไง?”
ในความเป็นจริง เย่เทียนไม่ได้อยากสร้างความขัดแย้งกับโอชิและพรรคพวกของเขา เพราะถ้าพูดอย่างจริงจังแล้ว คนกลุ่มนี้ก็เป็นคนของถังเหวินหลงเหมือนกัน และยังเป็นคนในค่ายเดียวกันด้วย จึงไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนั้นหรอก
“ได้สิ!”
โอชิพยักหน้าตอบตกลงโดยไม่ลังเลใดๆ “แล้วถ้าเอ็งแพ้ล่ะ?”
“ถ้าผมแพ้ ผมจะออกจากวงการนี้ จะไม่เสนอหน้าให้พวกคุณเห็นอีก!”
“ได้! เอ็งพูดเองนะ!”
ดูเหมือนจะกลัวเย่เทียนเปลี่ยนใจ โอชิรีบพยักหน้าตอบตกลง “งั้นข้าขอเดิมพันกับเอ็ง!”
เมื่อได้รับคำตอบที่ชัดเจน เย่เทียนก็ยิ้มตอบและไม่ได้เสียเวลากับพวกเขาอีก
“ผู้เข้าร่วมการแข่งขันหมายเลข 27 เชิญมาที่สนามแข่งหมายเลข 7 ด้วยครับ!”
และในขณะนี้ สนาม 7 ก็มีเสียงประกาศดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่