โซนปฐมพยาบาล แผลที่ขาของเซวหมานจื่อถูกพันเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง สายตากระดิ่งดั่งเสือคู่นั้นจับจ้องไปยังเย่เทียน ถึงแม้ว่าการที่เย่หย่งหงเหยียบย่ำเขาต่อหน้าสายตามากมายจนทำให้ศักดิ์ศรีของเขาต้องป่นปี้นั้นจนเขาโมโหอย่างสุดขีด แต่พอนึกถึงเรื่องที่เย่เทียนจะสู้เป็นตายกับเย่หย่งหง มันก็ทำให้เขาโมโหไม่ออกจริงๆ
อย่ามองว่าตอนอยู่ในลานประลองเย่หย่งหงจะโหวกเหวกโวยวาย แต่เขาก็รู้ดี เขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่หย่งหงเลยการที่โวยวายแบบนั้นก็เพราะไม่อยากขายหน้าเท่านั้นแหละ
ถ้าให้พูดจากใจจริง หากเย่เทียนกับเย่หย่งหงเกิดสู้เป็นตายกันขึ้นมาจริงๆ เซวหมานจื่อไม่คิดว่าเย่เทียนจะชนะเลย
นี่มันก็เป็นเรื่องที่พอให้อภัยให้ เขาเคยสู้กับทั้งสองคนมาแล้ว แต่ตอนที่ประมือกับเย่เทียน เขาไม่ได้รู้สึกอ่อนแอเหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าเย่หย่งหงเลยนี่แหละเป็นเหตุผลที่เขามองว่าเย่หย่งหงจะเป็นฝ่ายที่ชนะ
“เย่เทียน คุณ…..”
พอคิดถึงตรงนี้ เซวหมานจื่อก็ทนไม่ไหวจนต้องพูดออกมา เพื่ออยากเกลี้ยกล่อมไม่ให้เย่เทียนไปสู้เป็นตายกับเย่หย่งหง
“หมานจื่อ ในเมื่อบาดเจ็บแล้วคุณก็ไม่ต้องคิดอะไรมากมายขนาดนั้น พักผ่อนอยู่ที่นี่ให้เต็มที่เถอะ!”
แต่ว่า ยังไม่ทันที่เซวหมานจื่อยังไม่ทันได้พูดออกมา เย่เทียนก็พูดขัดเขาก่อน “ผมลองดูแล้ว ขาของคุณไม่ได้เป็นอะไรมาก รอให้เนื้องอกขึ้นมาใหม่ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
“ผมยังต้องทำการแข่งอีก อยู่ต่อกับคุณไม่ได้แล้ว คุณรอฟังข่าวดีที่ผมคว้าแชมป์ไว้ได้เลย!”
พูดจบ เย่เทียนไม่รอให้เซวหมานจื่อได้ทันตั้งตัว หมุนตัวแล้วเดินออกไปข้างนอกแล้ว
ความจริงแล้ว การตัดสินใจสู้เป็นตายกับเย่หย่งหงนั้น ส่วนหนึ่งก็ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบด้วย แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางเสียใจแน่นอน!
เดิมทีตอนแรกเขาแค่อยากทำกับเย่หย่งหงเหมือนที่ทำกับตู่เคอหลิน แต่เย่หย่งหงกลับหาเรื่องเขาด้วยการทำร้ายคนที่อยู่รอบตัวเขา ความโกรธในครั้งนี้ เขากลืนไม่ลง
แน่นอนว่า สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องที่ถูกขับออกจากตระกูลเย่มันทำให้เย่เทียนยังจำฝังใจ จนถึงวันนี้ก็ยังปล่อยวางไม่ลง!
ถ้าเป็นคนอื่นละก็ ด้วยนิสัยของเขาอย่างมากก็แค่ตาต่อตาฟันต่อฟัน และไม่มีทางทำให้เรื่องใหญ่โตจนถึงขั้นเอากันถึงตายหรอก
“เย่เทียน ช่วยมากับผมหน่อย”
แต่ว่า พอเย่เทียนเดินออกจากโซนปฐมพยาบาล เขาก็ได้พบกับถังเหวินหลงกับซ่านหงเลี่ยงที่อยู่ตรงหน้า
เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็เดินตามทั้งคู่ไป มาถึงพื้นที่ข้างๆ ที่ไม่มีคน
“ท่านถัง หัวหน้าซ่าน ไม่ทราบว่าที่พวกคุณเรียกผมมามีธุระอะไรเหรอครับ?”
พอเห็นสองคนตรงหน้าหยุดเดิน เย่เทียนก็ถามไปด้วยความสงสัย “นี่ผมยังต้องไปร่วมงานประลองอีก ถ้ามีอะไรก็รีบพูดเถอะครับ!”
“คุณไม่ต้องเข้าร่วมการประลองที่เหลือแล้ว”
ถังเหวินหลงหันไปสบตากับซ่านหงเลี่ยงก่อนค่อยส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เมื่อกี้ผมได้หารือกับหัวหน้าซ่านแล้ว ด้วยความสามารถระดับดินของคุณมีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าร่วมทีมสายฟ้าแล้ว”
“หืม?!”
เย่เทียนตกใจ แล้วมองถังเหวินหลงด้วยสีหน้าที่ประหลาด จากนั้นก็หันมองไปที่ซ่านหงเลี่ยง เพื่อขอความเห็นจากผู้รับผิดชอบของทีมสายฟ้าคนนี้
“เย่เทียน ตาแก่ถังไม่ได้โกหกคุณ การแข่งที่เหลือคุณไม่ต้องเข้าร่วมแล้ว ตอนนี้ทีมสายฟ้าของเราได้รับคุณเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการแล้ว”
ซ่านหงเลี่ยงทำไมจะไม่เข้าใจสิ่งที่เย่เทียนต้องการจะสื่ออยู่แล้ว จึงพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ส่วนเรื่องรางวัลของการแข่ง เราจะให้คุณตามมูลค่าของแชมป์ให้กับคุณ”
“หัวหน้าซ่าน นี่มันจะไม่ดูผิดกฎไปหน่อยเหรอครับ?”
เย่เทียนหันมองถังเหวินหลงด้วยสายตาที่แฝงด้วยความใน ทำไมเขาจะไม่รู้ คงเป็นเพราะเรื่องวุ่นวายที่เขากับเย่หย่งหงก่อขึ้นที่ลานประลอง ถึงทำให้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่คนนี้ไปปรึกษากับซ่านหงเลี่ยงได้
“เย่เทียน คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ถึงคุณจะไม่ต้องทำการแข่งขันต่อ แต่นั่นก็เป็นเพราะเรามีภารกิจจะมอบให้กับคุณ” ซ่านหงเลี่ยงส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “เมื่อกี้เพิ่งได้รับข้อมูลใหม่ล่าสุดมา คุณหนูซเหมยของตระกูลซูแห่งจ๊กกลาง ตอนที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศซ่านเธอได้ถูกลักพาตัวไป มีความเป็นไปได้สูงว่าตอนนี้จะถูกพาตัวไปที่สามเหลี่ยมทมิฬแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่