ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 640

เย่เทียนค่อยๆ เดินเข้า จ้องมองอิจิโร ยามาโมโตะ อย่างผู้ที่เหนือกว่า “ตามที่เราสองคนได้ตกลงกันก่อนหน้านี้ คุณก็ควรบอกทุกอย่างที่คุณรู้ให้ผม!”

“เธอน่าจะกำลังตามหานักธุรกิจสาวชาวจีนที่ถูกเราลักพาตัวมาใช่มั้ย?”

อิจิโร ยามาโมโตะ ไอไปสองที พอหายใจสะดวกขึ้นมาหน่อยถึงไปพูดออกมา “บอกตามตรง ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”

“นี่คุณกำลังล้อผมเล่นอย่างนั้นเหรอ?!”

เย่เทียนตกใจ กระดิกขาแล้วหยิบดาบทาชิที่เคยเป็นของอิจิโร ยามาโมโตะ ขึ้นมา ใบดาบที่แหลมคมจ่อไปที่คอของ อิจิโร ยามาโมโตะ “คุณคิดว่าผมไม่กล้าฆ่าคุณจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?”

อิจิโร ยามาโมโตะ ไม่ได้สนใจความเย็นที่อยู่ตรงคอ แล้วจ้องมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่ลึกซึ้ง “ถ้าเธอคิดจะฆ่าฉัน แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงต้องอ้อมแรงด้วยล่ะ?”

“ผมยอมรับว่าไม่อยากฆ่าคุณจริงๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้าฆ่า แต่เป็นเพราะผลที่จะตามมามันวุ่นวายเกินไป ผมเป็นคนที่เกลียดความวุ่นวายที่สุด”

เย่เทียนพูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “แต่ หลังจากที่เสียแรงไปมากขนาดนี้ ผมไม่อยากให้มันต้องสูญเปล่าเลย”

“ผมจะให้ทางเลือกคุณสองทาง บอกผมมาดีๆ ว่าพวกคุณเอาเธอไปไว้ไหนกันแน่ อีกทางก็คือต่อให้จะมีผลที่ร้ายแรงอะไรตามมาคุณก็อย่าหวังที่จะได้รอดไปจากวันนี้เลย!”

“ตั้งแต่ตอนที่เธอขึ้นสังเวียนแล้วบอกว่าจะท้าดวลฉัน คนที่อยู่ข้างล่างก็รายงานฉันว่าผู้หญิงคนนั้นได้หนีไปแล้ว”

อิจิโร ยามาโมโตะ เงียบไปทันที แล้วมองตรงไปที่เย่เทียนอยู่หลายวิ ถึงได้ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น “ฉันให้ลูกศิษย์สองคนที่เหลือของฉันไปตามหา จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้เบาะแสเลย”

พอเย่เทียนได้ยินอย่างนั้น ก็ได้กวาดตามองไปรอบๆ ตามสัญชาตญาณ อย่าว่าแต่ลูกศิษย์ชายหญิงสองคนนั้นของอิจิโร ยามาโมโตะ เลย แม้คนอื่นๆ ก็ยังหนีไปจนหมด ไม่เห็นเงาใครสักคน

นีมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ถึงพวกผู้ชมจะอยากรู้ว่าการต่อสู้ของเย่เทียนกับอิจิโร ยามาโมโตะ ใครจะแพ้จะชนะ แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งสองได้ใช้สุดกำลังแล้ว เพื่อคำนึงถึงชีวิตของตัวเอง พวกเขาจะกล้าอยู่ดูต่อได้ยังไง

เนื่องจากนี่มันเป็นการต่อสู้ขั้นสุดยอดของผู้แข็งแกร่งระดับดินสองคน พอเขาเป็นแค่นักพนันธรรมดา จะไปทนรับลูกหลงจากการต่อสู้ระดับนี้ได้ยังไง

“ครั้งนี้ผมจะเชื่อคุณก็ได้ แต่ถ้าให้ผมรู้ว่าคุณโกหกผม ต่อให้คุณหนีไปสุดขอบฟ้า ผมก็จะทำให้คุณได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่ทรมานที่สุดในโลก!”

เย่เทียนจ้องมองอิจิโร ยามาโมโตะ อย่างลึกซึ้งไปหลายวิ พอเห็นว่าเขาไม่เหมือนคนที่โกหก ถึงได้โยนดาบในมือลงไปบนพื้นหมุนตัวแล้วเตรียมที่จะจากไป

“รอเดี๋ยว!”

แต่พอเย่เทียนหมุนตัวไป น้ำเสียงที่แก่ชราของอิจิโร ยามาโมโตะ ก็ดังเข้ามาในหูอีกครั้ง “เดี๋ยวจะหาว่าฉันไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเธอเลย ศิษย์พี่ของฉันนักดาบเสแสร้ง ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ก็มาที่สามเหลี่ยมทมิฬเหมือนกัน ฝีมือของเขาอยู่เหนือกว่าฉัน”

“นักดาบเสแสร้ง ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ อย่างนั้นเหรอ?”

พอเย่เทียนได้ยินอย่างนั้น คิ้วก็ค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน ชื่อนี้มันทำให้เขานึกถึงคนสองคนขึ้นมา หัวหน้าสาขาของกิลดิ์แห่งความลับฮาชิโมโตะ มินาโตะ กับสาวน้อยน่ารักที่ชื่อฮาชิโมโตะ คันนะนั่น

ถูกต้อง! ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ก็คือพ่อของฮาชิโมโตะ คันนะ อันดับสองของกิลดิ์แห่งความลับ!

“แล้วนี่กำลังวางแผนชั่วอะไรกันอยู่?”

เย่เทียนจ้องมองอิจิโร ยามาโมโตะ อย่างลึกซึ้ง ในใจก็รู้สึกสับสนยิ่งกว่าเดิม

ในชาติที่แล้ว เขาน้นเคยพบกับฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ตั้งหลายครั้ง รู้ดีว่าคนคนนี้ถ้ไม่มีผลประโยชน์ก็จะไม่ตื่นเช้า อยู่ดีๆ จึงไม่มีทางถ่อมาที่สามเหลี่ยมทมิฬแน่นอน

ต่อให้ตัดความเกี่ยวข้องของชาติที่แล้วออก แต่การที่อันดับสองของกิลดิ์แห่งความลับอย่างฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ กับระดับสูงของแก๊งภูเขา สองคนที่เป็นศิษย์สำนักเดียวกันมาที่สามเหลี่ยมทมิฬพร้อมกัน ขอแค่ไม่ได้โง่ ก็น่าจะเดาออกว่ามันต้องมีอะไรอย่างแน่นอน!

“ทำไมพวกคุณถึงต้องลักพาตัวซูเหมยด้วย?”

ทันใดนั้น ในหัวของเย่เทียนก็มีลำแสงวิ่งผ่าน แล้วจับประเด็นสำคัญได้อย่างชัดเจน

“ซูเหมย? เธอคงหมายถึงหญิงชาวจีนนั่นใช่มั้ย?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่