เวลาสองทุ่มในประเทศจีน
เย่เทียนเดินสะพายกระเป๋าออกมาจากสนามบินคนเดียว เมื่อเห็นการจราจรที่หนาแน่น เขาเผลอยิ้มออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
แม้ว่าอากาศในเมืองจินจะไม่ได้ดีเท่าสามเหลี่ยมทมิฬ แต่พูดถึงด้านความปลอดภัยแล้ว ทางนี้ถือว่าดีกว่ามาก อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนเอาปืนมายิงกลางถนนอีก
เมื่อเขาเดินออกมาจากสนามบิน ก็เห็นรถออดี้สีดำคันหนึ่งมาจอดรออยู่หน้าสนามบินนานแล้ว
"คุณชายเย่ ทางนี้ครับทางนี้!"
หยางซิงไห่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับซึ่งรอจนเบื่อแล้วก็รีบลงรถมาเพื่อเข้าไปช่วยเย่เทียนถือกระเป๋าทันที
เย่เทียนไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ กับการที่หยางซิงไห่มารับ ได้แต่พยักหน้าทักทายและเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ
การที่หยางซิงไห่มาอยู่นี่ได้ ก็เพราะเขาเป็นคนบอกให้มารับที่สนามบินแน่นอน
นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เมื่อให้เย่เทียนอยู่ที่เมืองจิน ก็มีแต่หยางซิงไห่เท่านั้นที่คอยรับใช้เขา ดังนั้นเรื่องแบบนี้เขาไม่เรียกหยางซิงไห่แล้วจะเรียกใช้ใครได้อีก?
เมื่อรถออดี้ขับรถออกมาบนถนนสายหลัก ในที่สุดหยางซิงไห่ก็อดสงสัยไม่ได้และหันไปถามเย่เทียนอย่างระมัดระวังว่า "คุณชายเย่ คุณตั้งใจมาเมืองจินก็เพื่อจะมาเข้าร่วมการแข่งขันทีมสายฟ้าไม่ใช่เหรอครับ? แล้วคุณไปสามเหลี่ยมทมิฬตอนไหน?"
"ทีมสายฟ้าทางนั้นยอมรับผมเป็นกรณีพิเศษ"
เย่เทียนเหลือบมองหยางซิงไห่ด้วยความเกียจคร้าน แต่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไร และพูดอย่างใจเย็นว่า "พอดีว่าทางสามเหลี่ยมทมิฬมีเรื่องนิดหน่อย ก็เลยให้ผมรีบไปจัดการ คงจะลองใจผมว่าคุ้มไหมที่รับผมเข้ามา!"
"น่าทึ่งมากเลยครับคุณชายเย่!"
หยางซิงไห่พูดพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้กับเย่เทียนและแอบดีใจที่เลือกมาอยู่ข้างเย่เทียน
ต้องเข้าใจว่าทีมสายฟ้านั้นเป็นหนึ่งในสามทีมที่เก่งที่สุดในประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งรวมของคนที่ฉลาดแหลมคมกว่าผู้คนที่ไม่ต่ำกว่าสิบล้านหรือร้อยล้านคนเลยก็ว่าได้ที่อยาก แต่พวกเขากลับยอมรับเย่เทียนให้เข้าร่วมในทีมเป็นกรณีพิเศษ แสดงว่าเย่เทียนต้องเก่งมากแน่นอน!
และถ้าเย่เทียนยิ่งเก่งมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะช่วยให้เขาได้ฟื้นฟูตานเถียนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แล้วทำไมเขาจะไม่ดีใจล่ะ?
เย่เทียนยิ้มให้กับคำชมของหยางซิงไห่และเปลี่ยนเรื่องถามว่า "จะว่าไป หลายวันที่ผมไม่อยู่น่าจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นใช่ไหม เพราะเมื่อกี้ตอนที่ผมออกมาระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบินเข้มงวดกันมาก"
"ใช่ครับคุณชายเย่ คุณเดาถูกแล้ว ไม่กี่วันมานี้มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น"
หยางซิงไห่พยักหน้ พร้อมกับทำสีหน้าจริงจัง "ตอนนี้เข้ามาในเมืองจินนั้นง่าย แต่จะออกไปนั้นยากครับ!"
"ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?"
หลังจากที่ได้ฟังคำตอบแล้ว เย่เทียนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
อันที่จริง เขาก็แค่พูดไปตามน้ำ แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ เพราะการที่สามารถทำให้มาตรการความปลอดภัยในสนามบินเข้มงวดขึ้นได้ขนาดนี้ แน่นอนว่าคงไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน!
"คุณชายเย่ หลายวันก่อนหน้านี้ ในวันสุดท้ายของการแข่งขันการคัดเลือกของทีมสายฟ้า และขากลับมีเฮลิคอปเตอร์ระเบิดด้วย แม้ว่ามันจะอยู่ชานเมืองและประชาชนไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่คนในเฮลิคอปเตอร์ไม่มีใครรอดมาได้เลยนะครับ!"
หยางซิงไห่ค่อยๆ อธิบายและพูดต่อว่า "ถึงแม้ทางทหารจะออกมาบอกว่ามันคืออุบัติเหตุ แต่หลายวันมานี้สายตรวจและมาตรการความปลอดภัยด้านอื่นก็เข้มงวดขึ้นมาก เกรงว่าการระเบิดของเฮลิคอปเตอร์ครั้งนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจมากกว่า!"
เย่เทียนพยักหน้าและถามต่อว่า "รู้จักชื่อผู้ตายด้วยไหม?"
"คุณชายเย่ เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่