เย่เทียนซึ่งยืนอยู่ข้างกายเซวฟู่ยี่ก้าวออกมา พูดด้วยหน้าตาสบายๆ “พวกนายอยากสู้ไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นก็รีบหน่อย เวลาของฉันมีค่ามาก”
“ไอ้เวรนี่ยังกล้าจะเหิมเกริมอีก?!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกน สมุนที่เหลือพลันได้สติ และเบนสายตาไม่หวังดีจากเซวฟู่ยี่ไปที่เย่เทียน
“เวลาของนายมีค่ามากใช่ไหม งั้นก็ดี พวกเราจะช่วยให้นายสมหวัง!”
“ทุกคนลุยพร้อมกัน อัดไอ้คนมีตาหามีแววไม่นี่ให้เละไปเลย!”
เหล่าลูกสมุนของเติ้งเจี้ยนข่ายคำรามกราดเกรี้ยวออกมาทันที และพากันเงื้อกำกำปั้นพุ่งไปหาเย่เทียน
ที่พวกเขาได้เป็นลูกสมุนของเติ้งเจี้ยนข่ายนอกจากที่บ้านพอมีอิทธิพลแล้ว ตัวพวกเขาเองพอมีความสามารถอยู่บ้าง ในนั้นมีคนที่เคยฝึกฝีมือการต่อสู้มาไม่น้อย
บัดนี้มีโอกาสเอาใจเติ้งเจี้ยนข่ายดีขนาดนี้ พวกเขาไม่ยอมพลาดหรอก และนึกตั้งใจกับตัวเอง ต้องให้เจ้าคนไม่รู้ที่ต่ำที่สูงตรงหน้าได้เห็นดีแน่!
น่าเสียดาย พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าความคิดเช่นนี้พาพวกเขาไปมีเรื่องกับคนแบบไหน
เมื่อเห็นเหล่าลูกสมุนพุ่งเข้ามา กำปั้นของคนที่นำอยู่กำลังจะต่อยโดนเย่เทียน เย่เทียนกลับขยับเท้า พาร่างของเขาหลบประหนึ่งเป็นวิญญาณ
“เอ๋? คนล่ะ?”
คนผู้นั้นรู้สึกว่าตรงหน้าว่างเปล่า กำปั้นที่ต่อยออกไปแตะไม่โดนแม้แต่ชายเสื้อของเย่เทียน เย่เทียนที่เมื่อกี้ยังอยู่ตรงหน้ากลับหายวับไป
แคร่ก!
ไม่รอให้เขารู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงกระดูกหักแผ่วเบาดังขึ้นข้างหู แล้วถึงรู้สึกเจ็บปวดชนิดลึกเข้าวิญญาณจากเท้าขวา
“อ๊าก!”
วินาทีต่อมา คนผู้นั้นร้องโหยหวนเจ็บปวดอย่างทนไม่ไหว หน้าตาซีดเซียวลงในบัดดล เหงื่อเม็ดโตผุดออกจากหน้าผากไม่หยุด ขาอ่อนและคุกเข่าลงพื้นอย่างควบคุมไม่ได้
ผู้ที่ออกแรงเตะนอกจากเย่เทียนแล้วจะมีใครอีก? ในเมื่อเจ้าพวกนี้คิดไม่ดีกับเขา เขาก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจ
“พวกนายนี่ชื่นชอบการคุกเข่าเป็นงานอดิเรกเหรอ ฉันยังไม่ตายเลย ทำไมแต่ละคนต้องมาคุกเข่าให้ฉันด้วย?”
เย่เทียนส่ายหัวพร้อมพูดเสียงดังฟังชัด ใบหน้าฉายรอยยิ้มไร้พิษภัย หากคนไม่รู้เรื่องมาเห็นอาจจะคิดว่าเย่เทียนคือคนที่โดนรังแกอยู่ก็ได้!
เวลานั้นคนผู้นั้นพูดอะไรออกที่ไหน เขาสูดหายใจเข้าทางปากไม่หยุด สายตาที่มองเย่เทียนเริ่มฉายแววหวาดกลัว
เขาไม่คิดเลยว่าเย่เทียนจะลงมือได้เหี้ยมโหดเพียงนี้ เตะแค่ครั้งเดียวก็เล่นเอากระดูกขาขวาเขาหัก คราวนี้เห็นทีต้องไปนอนที่โรงพยาบาลสักสี่ห้าวันแล้ว
ถึงตอนนี้ ลูกสมุนคนอื่นๆถึงพุ่งเข้าไป แต่ละคนมองเย่เทียนกับคนที่ล้มอยู่ที่พื้นด้วยสีหน้างุนงง
“พวกนายมัวยืนนิ่งอยู่ทำไม?!”
เนื่องจากพวกลูกสมุนบัง เติ้งเจี้ยนข่ายที่อยู่ด้านหลังจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นพวกเขาชะงักงันจึงเร่งเร้า “หรือคิดว่านี่ยังขายหน้าไม่พอ? ยังไม่รีบจัดการให้เสร็จแล้วไปจากที่นี่!”
พวกลูกสมุนได้ยินแล้วรีบตั้งสติ สบตากันแล้วไมกล้าเสียเวลาต่อไป พุ่งไปหาเย่เทียนพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายอีกครั้ง
แต่เมื่ออยู่เบื้องหน้าพลังแข็งแกร่ง ไม่ว่าพวกเขาจะเจ็บใจเพียงใด ไม่ว่าพวกเขาจะกระเสือกกระสนเพียงใด ก็หนีไม่พ้นชะตากรรมที่โดนอัดติดพื้น!
โดนเตะเข้าทางซ้าย โดนหมัดเข้าทางขวา ลูกสมุนอีกสองคนล้มลงพื้นอย่างดูไม่ได้
เย่เทียนเร็วถึงขีดสุด ทุกคนรู้สึกเพียงลายตา เมื่อตั้งสติได้ เสียงใสกังวานของการตบหน้าดังขึ้นข้างหูเป็นระลอก เหล่าลูกสมุนโดนเย่เทียนตบจนล้มลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่