เซวฟู่ยี่แอบรู้สึกโชคดีที่หนนี้มากับเย่เทียน ถ้ามีแค่เขาคนเดียว เขาไม่รู้จริงๆว่าควรทำยังไง
“เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าชนะแน่ๆ”
เมื่อเห็นเชอร์ชิลนำเข้าเส้นชัยไปก่อน เย่เทียนคลี่ยิ้มอย่างอดไม่ได้เช่นกัน
“พี่เย่ อัตราเสียของเชอร์ชิล 1.5 เท่าเชียวนะ ครั้งนี้พวกเราได้กำไรเจ็ดสิบห้าล้านเต็มๆ!”
เซวฟู่ยี่ตื่นเต้นดีใจมาก คราวนี้ได้ทั้งทุนที่เขาเสียเมื่อครึ่งเดือนก่อนรวมถึงกำไรกลับมาด้วย
“ผิดแล้ว พูดให้ถูกคือเราชนะมาหนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านถ้วน!”
เย่เทียนกลับส่ายหัว และพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ “นอกจากนี้ ดูเหมือนพวกเราจะได้แขนมาคู่หนึ่งด้วย”
เห็นเขาพูดเรื่องแบบนี้ออกมาอย่างราบเรียบ แต่เขาสะท้อนใจมากเช่นกัน
เงินหลักร้อยล้านเป็นจำนวนที่คนมากมายไม่ได้แตะตราบชั่วชีวิต บัดนี้พวกเขาแค่ชนะการแข่งม้าหนึ่งครั้งเท่านั้น ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มิน่าล่ะถึงมีคนมากมายกลายมาเป็นผีพนัน!
“พี่เย่ ถ้าพี่ไม่เตือนผมลืมไปเลยนะ”
เซวฟู่ยี่ได้สติ สายตาฉายแววเย็นเยียบ ลุกพรวดขึ้นเดินไปทางเติ้งเจี้ยนข่าย
เติ้งเจี้ยนข่ายในตอนนี้สีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด ถึงห้าสิบล้านจะไม่เยอะ ใช่ว่าเขาจ่ายไม่ได้ อย่างมากก็แค่เจ็บใจไปหลายวัน
แต่ปัญหาสำคัญคือแขนสองข้างที่ลงเดิมพันนั่นแหละ เป็นโจทย์หินที่สุด!
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่เชื่อว่าเจ้าเซวฟู่ยี่จะกล้าเอาแขนสองข้างของฉันจริงๆ”
ครุ่นคิดอยู่นานก็หาข้ออ้างใดๆไม่เจอ เติ้งเจี้ยนข่ายจึงตัดสินใจว่าจะไม่ยอมรับ เขาลุกขึ้นด้วยสีหน้าอึมครึม พยายามจะกลับก่อนเซวฟู่ยี่มานี่
เพียงแต่ เขาเพิ่งเดินออกจากเก้าอี้นวดได้ไม่กี่ก้าว ก็ประจันหน้ากับพวกเย่เทียนสองคนที่มาเก็บค่าพนัน
“คุณชายเติ้ง นายลืมอะไรรึเปล่า?”
“เซวฟู่ยี่ ครั้งนี้ถือว่าเป็นคราวซวยของฉัน”
เติ้งเจี้ยนข่ายโยนเหรียญตราทองคำขาวในมือไปให้ และพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “แต่นายก็อย่าได้ใจนัก ช้าเร็วฉันต้องเอาคืนแน่!”
พูดจบ เขาก้าวเท้าออกอีกครั้ง พยายามเดินอ้อมสองคนนั้นออกมา
“คุณชายเติ้ง การพนันของเราไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะ”
แต่ เซวฟู่ยี่ที่อุตส่าห์ชนะทั้งทีจะยอมปล่อยเติ้งเจี้ยนข่ายไปง่ายๆได้ยังไงกัน เขายื่นมือออกไปขวาง
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ สายตาทุกคนล้วนจับจ้องมาที่เซวฟู่ยี่ พวกเขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเขาเตรียมทำให้เติ้งเจี้ยนข่ายลำบาก
นี่ก็เป็นเรื่องที่ว่าอะไรไม่ได้ การพนันเมื่อครึ่งเดือนก่อนเติ้งเจี้ยนข่ายทำกับเซวฟู่ยี่เกินไปมาก เล่นกันจนเรื่องถึงผู้ใหญ่อย่างอารองเซว ไม่ต้องเดาทุกคนก็รู้ว่าหลังเซวฟู่ยี่กลับไปต้องโดนลงโทษแน่ ย่อมต้องผูกใจเจ็บกับเติ้งเจี้ยนข่าย
บัดนี้มีโอกาสดีๆที่จะได้แก้แค้น มีหรือที่เซวฟู่ยี่จะยอมปล่อยเติ้งเจี้ยนข่ายไปง่ายๆ?
สิ่งเดียวที่แตกต่างคือพวกเขาไม่รู้ว่าเซวฟู่ยี่จะจัดการเติ้งเจี้ยนข่ายยังไง
ต่อให้รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทั้งคู่เดิมพันกันก่อนหน้านี้คือแขนสองข้าง แต่พวกเขาก็เห็นเป็นคำพูดตอนโมโหขาดสติเท่านั้น ไม่จริงจังหรอก
ยังไงซะสองคนนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา หากเล่นกันถึงขั้นนั้นจริงย่อมพาลไปถึงอิทธิพลเบื้องหลังทั้งสองฝ่าย เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นเซวฟู่ยี่หรือเติ้งเจี้ยนข่าย ก็ไม่อยากให้เรื่องราวดำเนินไปในทิศทางนั้นหรอก
เติ้งเจี้ยนข่ายพูดด้วยสีหน้ามืดมน “เซวฟู่ยี่ แล้วนายต้องการอะไรอีก?”
เซวฟู่ยี่ได้ยินดังนั้นก็ลำบากใจขึ้นมา ยังไงซะเติ้งเจี้ยนข่ายก็เป็นคนระดับเดียวกับเขา ต่อให้บัดนี้เขาชนะการพนันจริงๆก็ไม่มีทางตัดแขนสองข้างของเขาจริงๆหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่