ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 691

เจอเข้ากับคำถามของเติ้งเหวิน ไม่มีใครในที่นี้กล้าแทรกแซงเรื่องของพวกเขา ต่างปิดปากรักษาความเงียบไว้

แต่ การปรากฏตัวของเติ้งเหวินทำให้เติ้งเจี้ยนข่ายมีที่พึ่งพิง พอเห็นไม่มีใครพูด จึงลอบถอนหายใจและย้อนกลับ “พี่เสี่ยวเหวิน อย่าไปเชื่อเขานะ ผมเดิมพันกับเขาเป็นส่วนตัวก็จริง แต่ผมไม่เคยพูดว่าจะเดิมพันด้วยสองแขนเลย เขาจงใจหาเรื่องเอาคืนผมชัดๆ”

เติ้งเจี้ยนข่ายหันมองเซวฟู่ยี่อีกครั้งและโวยวาย “ฉันรู้ว่ายังติดนายอยู่สิบล้าน ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้สักหน่อย นายจำเป็นบีบคั้นฉันขนาดนี้ด้วยเหรอ?”

เซวฟู่ยี่โมโหมาก ไม่คิดเลยว่าเติ้งเจี้ยนข่ายจะหน้าไม่อายถึงเพียงนี้

แต่เทียบกันแล้ว เขาเจ็บใจฝูงชนที่รอดูเรื่องสนุกอยู่ ณ ที่นี้มากกว่า เจ้าพวกนี้ไม่มีใครก้าวออกมาเลยสักคน คิดว่าคุณชายรองเซวอย่างเขาโกรธไม่เป็นหรือไง

คิ้วเรียวของเติ้งเหวินขมวดมุ่นมากขึ้น ในเมื่อเธอได้เป็นหนึ่งในผู้จัดการงานแข่งม้า ย่อมไม่ใช่คนโง่เขลา

ถึงแม้ตอนนี้เหล่าฝูงชนในที่นี้ไม่มีใครกล้าตอบ แต่ท่าที่ของพวกเขาบ่งบอกว่ามีการเดิมพันเช่นนี้อยู่จริงๆอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่พวกเขาโดนแก้แค้นหลังจบเรื่อง จึงไม่กล้าพูดอะไรเท่านั้น

แม้จะรู้ดีว่าเป็นอย่างนี้ เติ้งเหวินกลับไม่ได้จี้อะไร ยังไงซะสถานการณ์แบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นประโยชน์ต่อเธอ

“คุณชายรองเซว ฉันไม่สนว่านายบาดหมางอะไรกับเจี้ยนข่ายมา และไม่สนว่าพวกนายมีการเดิมพันกันจริงหรือไม่ แต่นายจำไว้ด้วยว่าที่นี่คืองานแข่งม้า!”

เติ้งเหวินสื่อเป็นนัยๆว่าที่นี่คือถิ่นของตัวเองตามประสาผู้มากประสบการณ์ ก่อนจะเปลี่ยนวิธีพูด “ฉันเข้าใจว่านายกับเจี้ยนข่ายยังหนุ่มยังแน่น บางครั้งอาจจะใช้อารมณ์ไปบ้าง”

“ไม่ว่าเขาจะทำอะไรผิด ฉันขอโทษแทนเขาด้วย หวังว่าคุณชายรองเซวจะเห็นแก่หน้าฉัน อย่ายืดเยื้อกันต่อไปเลย”

คำพูดของเธอเรียกได้ว่าบอกไปหมดแล้วทั้งแง่ดีและแง่ร้าย เชื่อว่าต่อให้ผู้เชี่ยวชาญการเจรจามานี่ ก็คงไม่รู้จะตอบกลับว่ายังไงดี

เซวฟู่ยี่เงียบไปในบัดดล พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าถ้าเอาเรื่องกันต่อ ไม่แน่อาจโดนเติ้งเหวินผูกใจเจ็บเอา

ต่างจากเติ้งเจี้ยนข่าย เติ้งเหวินเป็นลูกหลานสายหลักของตระกูลเติ้ง และเป็นถึงหนึ่งในสามสาวงามแห่งเมืองจิน!

คนที่ตามจีบเติ้งเหวินอย่างน้อยๆก็ต่อแถวตั้งแต่เขตเมืองไปถึงชานเมืองได้ ถ้าเจ้าพวกนั้นรู้เข้า อาจจะไม่ทำอะไรตัวเองตรงๆเพราะตระกูลเซว แต่เสียงถากถางลับหลังคงไม่น้อยแน่

กลับกัน หากเดินลงตามบันไดของเติ้งเหวิน อาจจะทิ้งภาพลักษณ์ที่ดีไว้ ไม่แน่อีกหน่อยอาจเกิดอะไรขึ้นก็ได้

เซวฟู่ยี่เปรียบเทียบข้อดีข้อด้อย รู้สึกว่าไม่ว่าทางไหนก็ไม่เสียเปรียบ

ยังไงซะตอนแรกเขาแค่อยากสั่งสอนเติ้งเจี้ยนข่ายเท่านั้น และเป็นการเตือนคนอื่นด้วยว่าเขาไม่ใช่คนที่มีเรื่องด้วยได้ บัดนี้จุดประสงค์ถือว่าบรรลุแล้ว จะยืดเยื้อกันต่อไปทำไมล่ะ?

คิดมาถึงนี่ เซวฟู่ยี่ตัดสินใจและกำลังจะบอก เสียงเรียบๆของเย่เทียนกลับดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง

“เธอคงเป็นผู้จัดการที่นี่ใช่ไหม ฉันเห็นว่ากล้องวงจรปิดของที่นี่ล้วนแต่ทันสมัยที่สุด น่าจะอัดเสียงได้ใช่ไหม เชื่อว่าเรื่องพนันของพวกเขาก่อนหน้านี้ก็คงบันทึกไว้ เธอไปเปิดดูก็น่าจะรู้แล้วนี่”

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ สายตาทุกคนพากันจับจ้องไปที่เย่เทียน

“เวรเอ๊ย! ไอ้นี่อยากให้มีเรื่องกันเหลือเกินนะ เรื่องแบบนี้ยังคิดขึ้นมาได้”

“วิธีนี้สุดยอดจริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันแบบนี้จะตัดต่อภาพกล้องวงจรปิดคงไม่ได้!”

“ไม่ได้การแล้ว เจ้านี่วางแผนได้ถี่ถ้วนไม่มีพลาด กลับไปต้องสืบที่มาที่ไปของเขามาให้ได้”

ฝูงชนที่ล้อมรอบอยู่คุยกันเสียงเบา ส่วนหลู่ซีซานที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็กำลังมองเย่เทียนอย่างพิจารณาด้วยตาคู่สวย นัยน์ตาฉายประกายประหลาด

ชิวอวี้ไม่เคยเห็นเย่เทียน จึงถามหลู่ซีซานตามสัญชาตญาณ “คุณหนู หมอนั่นคือเย่เทียนเหรอคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่