“นายคือเย่เทียนใช่ไหม อย่าให้มันเกินไปนัก!”
เมื่อเห็นเย่เทียนที่ยืนอยู่ข้างๆเซวฟู่ยี่ สีหน้าเติ้งเหวินประหลาดขึ้นมา
เธอคิดไม่ตกเลยจริงๆ คนหน้าตาธรรมดาอย่างหมอนี่มีอะไรให้เซ่เจียชอบ? ให้หลู่ซีซานปลื้ม?
“ทำไม? เธอรู้จักฉันเหรอ?”
เย่เทียนผงะ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้รู้จักตัวเอง
“ถือว่ารู้จัก”
เติ้งเหวินส่ายหัวเล็กน้อย เห็นท่าทีที่เซวฟู่ยี่มีต่อเย่เทียนแล้ว จะไม่รู้ได้ยังไงว่าเย่เทียนนั่นแหละคือตัวการของเรื่องทั้งหมด เธอพูดเสียงนุ่มนวล “เห็นแก่ฉัน ให้เรื่องนี้จบเถอะ”
“น่าเสียดาย เหมือนฉันจะไม่รู้จักเธอนะ”
เย่เทียนยักไหล่ มุมปากคลี่ยิ้มมีเลศนัย เล่นหูเล่นตา “ฟู่ยี่ นายยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ ฉันว่าเอาอย่างนี้ไหม ให้สาวงามคนนี้อยู่เป็นเพื่อนนายสักวัน กินดื่มาอาบน้ำนอนเหมาบริการทุกอย่างไปเลย แล้วเราปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ”
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ อย่าว่าแต่เซวฟู่ยี่เลย กระทั่งทุกคนในที่นี้ยังอดผงะไม่ได้ ก่นด่าในใจว่าเย่เทียนจะต่ำช้าเกินไปแล้ว? อยู่เป็นเพื่อนายหนึ่งวัน? เห็นเติ้งเหวินเห็นคนแบบไหนกัน?”
เติ้งเจี้ยนข่ายโมโหถึงขีดสุด ไม่ว่ายังไงตระกูลเติ้งก็เป็นตระกูลใหญ่ที่มีหน้ามีตา จะตกลงรับคำขอไร้เหตุผลเช่นนี้ได้ยังไง เขาด่ากราดออกไป “นายเลิกเพ้อได้แล้ว ฉันจะบอกนายให้นะ ถ้านายบังอาจแตะพี่สาวฉันแม้แต่ปลายเล็บ ฉันไม่จบไม่สิ้นกับพวกนายแน่”
“อย่างนาย? นายคิดว่านายมีปัญญาเหรอ?”
นัยน์ตาสีนิลของเย่เทียนหรี่ลงเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาขยับเท้า พุ่งมาอยู่ข้างกายเติ้งเจี้ยนข่ายประหนึ่งวิญญาณ และจิ้มนิ้วออกไปเบาๆ
ปึง!
เติ้งเจี้ยนข่ายสูญเสียการควบคุมร่างกายอีกครั้ง ยืนค้างอยู่ที่เดิมด้วยท่าทางแข็งทื่อ หลังจากโดนเย่เทียนผลักเบาๆ แล้วจึงล้มลงไปทั้งที่ตาเบิกกว้าง ในใจผวาถึงขีดสุด
เติ้งเหวินตะลึงในใจ นัยน์ตาเป็นประกายคู่นั้นฉายแววที่แตกต่างออกไป แต่ยังไงซะเธอก็เคยเห็นอะไรมามาก จึงกลับมามีท่าทีปกติได้ไม่นาน และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่ในตอนนั้นเอง เสียงยุยงเต็มที่ของเย่เทียนดังขึ้นข้างหูเธอ “เธอวางใจเถอะ ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่ตระกูลเซวจะจัดงานเลี้ยง เธอช่วยไปเป็นคู่ควงสาวให้ฟู่ยี่เท่านั้น เธอเก็บไปคิดดูแล้วกัน!”
กลิ่นอายบุรุษของเย่เทียนโชยมาแตะปลายจมูก เติ้งเหวินอดใจสั่นหวั่นไหวไม่ได้ ถ้าเป็นคนอื่นมาแบบนี้เธอคงตบหน้าไปอย่างแรงแล้ว
แต่เนื่องจากเมื่อกี้เย่เทียนเร็วถึงขีดสุด เธออดระแวงไม่ได้ รู้ดีว่าหากเย่เทียนปองร้ายเธอ เธอคงหนีไม่พ้นโชคชะตาอันเลวร้าย!
คิดมาถึงตรงนี้ เติ้งเหวินจำต้องข่มความโมโหในใจลงไป ตาคู่สวยมองตรงไปที่เย่เทียน เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “นายรู้ไหมว่านายทำแบบนี้จะนำพาปัญหาอะไรไปหาตัวเอง”
“ปัญหา?”
เย่เทียนกลับยักไหล่ พูดด้วยท่าทีตามใจอารมณ์ “ฉันคนนี้กลัวปัญหาน้อยที่สุดแล้ว”
เติ้งเหวินพูดอะไรไม่ออกในบัดดล เธอสูดหายใจลึกเพื่อข่มความคุกรุ่นในใจ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเพื่อนสนิทตัวเองอย่างเซ่เจียจะชอบคนสภาพนี้
โดยเฉพาะการพบหน้าเย่เทียนครั้งแรกเป็นไปในสถานการณ์แบบนี้ด้วย ส่งผลให้ภาพจำที่เติ้งเหวินมีต่อเย่เทียนนั้นย่ำแย่ถึงขีดสุด
เจ้าคนตรงหน้าเป็นคนต่ำช้าโดยแท้เลยล่ะ!
“เอายังไง เธอตัดสินใจได้หรือยัง เวลาของเรามีค่ามากนะ”
“ไม่อย่างนั้นฉันจะลงมือแล้วนะ”
ขณะที่พูด เย่เทียนแกล้งทำท่าจะไปถอดกางเกงของเติ้งเจี้ยนข่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่