เห็นลักษณะท่าทางแบบคนโลภมากอันนั้น หลู่ซีซานไม่สามารถตอบสนองเข้ามาได้ทันท่วงที พิจารณานิสัยของเขาไม่ออกโดยสิ้นเชิง
หยิบยกเรื่องราวเมื่อสักครู่มาพูดถึง คนหนึ่งคือนักแข่งรถสุขุมจริงจัง คนหนึ่งคือคนโลภที่ขี้เหนียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพฤติกรรมเลวร้ายของเย่เทียนที่สโมสรม้าก่อนหน้านี้ นิสัยที่ไม่เกี่ยวข้องกันพวกนี้ผสมปนเปอยู่ภายในตัวเย่เทียน เดิมทีทำให้เธอมองไม่ออกว่าสรุปคนไหนถึงเป็นเย่เทียนตัวจริงกันแน่
บรื้นๆ!
ในเวลานี้เอง เย่เทียนขับเฟอร์รารี่อยู่ใกล้จะถึงยอดเขาด้านบนแล้ว เสียงดังกระหึ่มที่แสบหูกลับล่องลอยเข้ามาก่อน หลู่ซีซานได้ยินชัดเจน นี่คือเสียงคำรามของรถมอเตอร์ไซค์คันแล้วคันเล่าทั้งหมด
“นี่คือ?”
หลู่ซีซานขมวดคิ้วขึ้นในขณะนั้น แอบบ่นพึมพำว่ากลางคืนแบบนี้ บนยอดเขายังมีแก๊งซิ่งรถมากขนาดนี้ได้อย่างไรล่ะ? หรือว่ากำลังจัดการแข่งขันอะไรเหรอ?
กลับเป็นมุมปากเย่เทียนที่อดวาดยิ้มเยาะขึ้นมาไม่ได้ ส่ายหน้าแบบจำใจ พูดทอดถอนใจ “เล่นไม้นี้อีกแล้ว ไม่มีรูปแบบใหม่สักนิด เปลี่ยนวิธีบ้างไม่ได้เหรอ?”
สังเกตเห็นสีหน้าของเย่เทียนไม่ปกติ หลู่ซีซานรีบสอบถามว่า “คำพูดนี้คุณหมายความว่าอะไร? หรือว่าคุณรู้จักคนข้างบนเหล่านั้น?”
“อาจจะรู้จักมั้ง!”
เย่เทียนยักไหล่ พูดแบบแฝงด้วยความหมายลึกซึ้ง “ผมแน่ใจได้เพียงจุดหนึ่ง เดี๋ยวคงจะให้คุณได้เห็นเรื่องไม่เหมาะสมกับเด็กเท่าไร”
“เรื่องอะไรกัน?”
ชั่วขณะนั้นหลู่ซีซานยิ่งงุนงงเพิ่มขึ้น มองเย่เทียนด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
เย่เทียนกลับยักไหล่ และไม่ได้ไขข้อข้องใจของหลู่ซีซาน เปลี่ยนมาถามว่า “คุณหนูใหญ่หลู่ ถึงตอนนี้แล้ว คุณน่าจะสารภาพกับผมมานะ สรุปทำไมคุณต้องเข้าใกล้ผมด้วย?”
หลู่ซีซานขมวดคิ้วขึ้นมาแน่นในชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกว่าตนเองตามความคิดของเย่เทียนไม่ทันเท่าไร ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังถกเถียงถึงเรื่องของแก๊งรถมอเตอร์ไซค์อยู่เลย ทำไมพริบตาเดียวก็วกกลับมาที่ตัวตนเองอีก?
เพียงแต่ ถึงพูดว่าปัจจุบันนี้แม้จะมีความเข้าใจโดยรวมต่อเย่เทียน แต่ก่อนหน้าที่ยังไม่แน่ใจถึงที่สุด เธอจึงยังไม่อาจเผยเป้าหมายแท้จริงของตนเองได้!
นึกถึงตรงนี้ หลู่ซีซานพูดทางเย่เทียนแบบหน้าจริงใจเต็มที่ “คุณชายเย่ ฉันยังไม่สามารถบอกคุณได้ชั่วคราว แต่ฉันรับประกันกับคุณได้ว่า ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ ต่อคุณ!”
ดวงตาดำมืดคู่นั้นของเย่เทียนมีแสงสว่างแฉลบผ่าน มีความคิดอยากจะถามต่อไป แต่เวลานี้ขึ้นมาถึงยอดสุดแล้ว สามารถมองเห็นได้ว่าถนนด้านหน้ามีรถมอเตอร์ไซค์สิบกว่าคันเรียงแถวหน้ากระดานรอคอยอยู่
“หวังว่าคุณจะไม่ได้หลอกผม”
เห็นแบบนี้ เย่เทียนจึงต้องกดความอยากรู้อยากเห็นไว้ในใจชั่วคราว ส่ายหน้าพูด “ผมขอจัดการเรื่องตรงหน้าให้เสร็จก่อน เดี๋ยวหลังผมลงรถไป ดีที่สุดคุณล็อกประตูรถไว้ เลี่ยงจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไร!”
ไม่รอหลู่ซีซานตอบกลับ เย่เทียนก็จอดรถยนต์จนนิ่งสนิท ดึงประตูรถออกอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย มุดลงไปแบบวางมาด ดวงตาดำมืดจ้องรถมอเตอร์ไซค์สิบกว่าคันตรงๆ
บรื้นๆ!
ในเวลานี้เอง ในป่าทึบสองข้างด้านหลังของเฟอร์รารี่ก็มีรถมอเตอร์ไซค์สิบกว่าคันกระโจนออกมา เรียงหน้ากระดานปิดถนนข้างหลังไว้เหมือนกัน ตัดขาดโอกาสหลบหนีของเย่เทียนโดยเด็ดขาด
เย่เทียนสำรวจคร่าวๆ สักหน่อย บนรถมอเตอร์ไซค์แทบทุกคันล้วนมีสองคน นับขึ้นมารถมอเตอร์ไซค์ยี่สิบกว่าคันนี้อย่างน้อยก็มีทั้งหมดสี่สิบกว่าคน
“ช่างมองฉันสูงจริงๆ นะ จัดขบวนรบออกมาซะใหญ่โตเชียว”
เย่เทียนแสยะปากหัวเราะ ดวงตาดำมืดค่อยๆ เปลี่ยนไปเย็นยะเยือกลงมา
พอพึมพำกับตนเองแบบนี้ สายตาเย่เทียนจ้องไปด้านหน้าโดยตรง และพึมพำเสียงดังขึ้นมา “เอาแต่เล่นลูกไม้แบบนี้ พวกแกไม่เบื่อแต่ฉันเบื่อแล้ว เปลี่ยนวิธีอื่นบ้างไม่ได้เหรอ? ใครเป็นคนนำมากัน? แน่จริงก็ออกมาสู้เดี่ยวๆ กับฉันสิ ฉัน......”
ไม่รอให้เย่เทียนพูดจนจบ ด้านหน้ากลับมีรถมอเตอร์ไซค์ติดเครื่องยนต์สี่คัน พุ่งเข้าไปยังเย่เทียนแบบส่งเสียงคำราม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่