ภายใต้ความช่วยเหลือของแผนที่นำทาง ไม่นานเย่เทียนก็มาถึงร้านน้ำชาซื่อไห่ที่นัดเอาไว้กับหยวนเข่อเหวยแล้ว
สิ่งที่ทำให้เย่เทียนนึกมาถึงคือ หยวนเข่อเหวยเจ้าหมอนี่ไม่ได้เข้าไปด้านในร้านน้ำชา แต่ทว่ารอเขาอยู่บนถนนใหญ่ด้านนอก
เย่เทียนขับรถไปจอดรถอยู่ด้านข้างของหยวนเข่อเหวย อมยิ้มพูดยั่วยุ “ด้านในมีของให้กิน อยู่ตากลมตรงนี้ทำไมกัน?”
“นี่นายไม่รู้แล้วมั้ง?”
หยวนเข่อเหวยส่ายหน้าเล็กน้อย กดเสียงต่ำพูดว่า “เมื่อคืนตอนที่ฉันตามเช็ดก้นให้นาย พวกฉันเจอใบเสร็จของร้านน้ำชาแห่งนี้บนตัวของหลายคนเข้าแล้ว ฉันสงสัยว่าไม่แน่ที่นี่อาจจะเป็นสถานที่ติดต่อกันของพวกเขา!”
“เก่งนี่! ยังทำให้พวกนายหาอันนี้เจอได้”
เย่เทียนยกหัวแม่มือขึ้นแบบไม่ใจแคบสักนิด “นายให้ฉันเข้ามาที่นี่ คืออยากเข้าไปดูหน่อยสินะ?”
“ค่อนข้างมีความหมายแบบนี้แหละ”
หยวนเข่อเหวยพยักหน้า กลับไม่ได้ปฏิเสธ
“งั้นยังรออะไรอยู่ตรงนี้อีกล่ะ? เข้าไปดูหน่อยสิ!”
เย่เทียนหัวเราะหึๆ ก้าวเท้าเข้าไปข้างในอย่างวางมาด “ฉันรีบเข้ามาแต่เช้าตรู่นี้ ยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลยล่ะ? ถือโอกาสจัดการด้วยกันไปเลยแล้วกัน”
“ไม่ใช่ เย่เทียนนายหยุดก่อน”
หยวนเข่อเหวยรู้สึกตกใจ รีบร้อนยื่นมือห้ามเย่เทียนไว้ พูดเตือน “ถ้าเกิดที่นี่เป็นสถานที่ติดต่อกันของพวกเขาจริง ไม่แน่อาจจะมีกับดักอะไรอยู่ด้วย ถ้าเดินเข้าไปแบบนี้ ไม่กลัว......”
“นายเป็นลูกผู้ชายจะกลัวอะไร? ถ้ามีกับดักอะไรจริง ด้วยฝีมือของพวกเรา ถ้าเกิดสู้ไม่ชนะยังวิ่งหนีไม่รอดอีกหรือไง?”
เย่เทียนจะเอาเรื่องนี้มาเก็บใส่ใจที่ไหน สะบัดมือของหยวนเข่อเหวยออกแล้วเดินเข้าไปอย่างว่องไว
“อยู่ทีมเดียวกับนายยังโคตรโชคร้ายจริงๆ เลย! หลังภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นฉันจะขอย้ายทีมกับหัวหน้าซ่านแน่!”
หยวนเข่อเหวยที่อยู่รั้งท้ายหัวเราะขื่นอย่างจำใจ รีบก้าวเท้าออกมาวิ่งเข้าด้านในร้านน้ำชาเหมือนกัน
เขาจะไม่เข้าใจความหมายของเย่เทียนได้อย่างไร ด้วยการฝึกฝนระดับดินของพวกเขาสองคน ถึงแม้มีกับดักอะไร อยากหนีก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายดายอีกเหรอ?
ประเด็นสำคัญคือ ไม่ว่าอย่างไรที่นี่ก็เป็นย่านเมืองคึกคัก ปัจจุบันนี้เมืองจินอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ก่อเรื่องจนใหญ่เกินไปคงจะอธิบายต่อเบื้องบนไม่สะดวก!
บางทีอาจเป็นสาเหตุของเวลาที่ยังเช้าอยู่ ด้านในร้านน้ำชาซื่อไห่กลับไม่มีลูกค้าอะไร เย่เทียนพวกเขาเพิ่งเดินเข้าไป ก็มีพนักงานรีบเข้ามาต้อนรับทันที “คุณผู้ชาย ขอโทษนะคะมากี่ท่านคะ?”
“แค่พวกเราสองคน!”
อย่ามองว่าหยวนเข่อเหวยตอนอยู่ด้านนอกเล่นหยอกล้อไม่หยุด แต่พอเดินเข้ามาก็เข้าสู่บทบาทได้ทันใด ในหน้าตาที่เหนื่อยล้ามีความหยิ่งยโสระดับหนึ่ง บวกกับเสื้อผ้าราคาแพงบนตัวชุดนั้น จึงไม่ได้ดึงดูดความน่าสงสัยอะไร
เย่เทียนรู้สึกสนุก แอบพูดว่าหยวนเข่อเหวยคนนี้ยังเป็นบุคคลคุณภาพในการแสดงจริงๆ
พอนึกถึงการแสดง เย่เทียนอดคิดถึงเซ่เจียไม่ได้ ดาราดังที่เคยมีความสัมพันธ์กับตนเองคนนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกัน?
แต่นึกถึงเซ่เจีย เขาก็อดนึกไปถึงผู้หญิงลึกลับที่เลี้ยงงูคนนั้นขึ้นมาไม่ได้เช่นกัน ผู้หญิงคนนั้นเดี๋ยวอยากฆ่าตนเอง เดี๋ยวก็ช่วยชีวิตตนเองแล้ว สรุปหล่อนหมายความว่าอย่างไร?
“เย่เทียน ที่นี่เหมือนไม่มีอะไรผิดปกตินะ!”
จนกระทั่งเสียงของหยวนเข่อเหวยดังขึ้น ในที่สุดเย่เทียนก็หยุดชะงักความคิดเหลวไหลในหัวสมองลง ฟื้นกลับสู่สภาพเดิมภายใต้สภาพที่เหม่อลอย
สองคนในเวลานี้หาตำแหน่งมุมหนึ่งนั่งลงมาเรียบร้อย บนโต๊ะจัดวางขนมแป้งในเข่งที่น่าอร่อยไว้ ยังมีน้ำชาร้อนที่กลิ่นชาหอมกรุ่นกาหนึ่ง ไม่มีอะไรแตกต่างกับร้านน้ำชาทั่วไป
เย่เทียนได้สติกลับมา เห็นหยวนเข่อเหวยที่อยู่ด้านหน้าหยิบขนมแป้งขึ้นมาค่อยๆ กินแล้ว จึงพูดเยาะเย้ย “ที่นี่ดูภายนอกไม่มีปัญหาอะไร แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังจะเป็นแบบไหน? ไม่แน่คนอื่นเขาอาจใส่ยาพิษลงในขนมแป้งล่ะ?”
“ถุยๆ!”
หยวนเข่อเหวยตะลึง รีบคายอาหารในปากออกมาทันที หยิบน้ำชาขึ้นมากลั้วปากสุดชีวิตด้วยสภาพกระเซอะกระเซิงมาก คล้ายว่าด้านในขนมแป้งมีพิษอยู่จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่