“เย่เหว่ยกวง ลุงที่แสนดีของฉัน!”
แววตาสีดำเข้มคู่นั้นของเย่เทียนจับจ้องมองตรงไปที่เย่เหว่ยกวง มุมปากอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะออกมา พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า : “พวกเราไม่ได้เจอกันมานานขนาดนี้ พอเจอกันคุณก็บุ่มบ่ามเช่นนี้ ดูเหมือนว่าคุณไม่คิดถึงฉันเลยสักนิด!”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณมีปัญญาก็ลองเอ็ดตะโรอีกดูสิ เชื่อไหมว่าฉันจะทำให้ครึ่งชีวิตต่อจากนี้ของคุณไม่สามารถเอ่ยปากพูดได้อีก?”
ระหว่างคำพูด คัมภีร์หวงภายในร่างกายของเย่เทียนหมุนโคจรรอบๆโดยทันที ผลการฝึกตนของฝึกพลังชั้นเจ็ดระเบิดออกรอบด้าน ระเบิดพละกำลังอันแรงกล้าออกมาจากบนตัว ระเบิดออกไปทั่วทุกสารทิศสารทาง
และในขณะเดียวกัน ใต้เท้าของเขาก็เหยียบลงบนพื้น พื้นปูนซีเมนต์ที่แข็งแรงแตกออกทันที เจตนาแห่งการคุกคามไม่พูดก็เห็นได้อย่างชัดเจน
เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุตกตะลึงอย่างไม่มีข้อสงสัย ลูกหลานตระกูลเย่กว่าสามสี่คนที่อยู่ใกล้กับเย่เทียนก็ถอยหลังลงมาสามสี่ก้าวแล้ว กลัวว่าจะประสบหายนะก่อน
แต่ว่า พวกเขาก็ทำแค่นี้แหละ ไม่ได้แสดงสีหน้าที่หวาดกลัวมากเกินไปต่อเย่เทียนเลย
นี่ก็เป็นเวลาที่จำเป็น ตระกูลเย่ก็ไม่ใช่ตระกูลเล็กๆตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พวกเขาก็ถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง จะถูกขู่ให้ตกใจกลัวได้ง่ายๆที่ไหนกันล่ะ?
สีหน้าท่าทางของเย่หย่งหงเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวเพื่อปกป้องอยู่ข้างกายของเย่เหว่ยกวงโดยทันที ขอเพียงแค่เย่เทียนมีพฤติกรรมที่ผิดปกติใดๆ เขาจะขึ้นไปเผชิญหน้าโดยทันที
“ลูกที่ถูกตระกูลเย่ทอดทิ้งอย่างคุณคิดจะทำอะไร?อย่าคิดว่ามีความสามารถนิดหน่อยแล้วจะทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้นะ ไม่ดูหน่อยเหรอว่าที่นี่คือที่ไหน เป็นที่ที่คุณจะมาหาเรื่องมั่วซั่วได้เหรอ?!”
หลังจากที่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เย่เหว่ยกวงก็ได้สติกลับมาทันที พูดออกคำสั่งว่า : “ยังจะมัวยืนอึ้งกันอยู่ทำไม?ไล่ไอ้ลูกที่ถูกตระกูลเย่ทอดทิ้งคนนี้ออกไป!”
พูดจบ สมาชิกตระกูลเย่ที่มีพละกำลังแข็งแกร่งกว่าสามสี่คนรวมถึงเย่หย่งหงด้วยต่างก็ลุกขึ้นยืนทีละคนแล้ว แต่ละคนจ้องมองไปยังเย่เทียนด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
“โฮ๊ะๆ! ทุกท่าน ไม่ทราบว่าฉันจะขอแทรกสักประโยคหน่อยได้ไหม?”
สัมผัสถึงบรรยากาศของสถานการณ์ที่ต่างก็ตึงเครียดกัน ซ่านหงเลี่ยงกระแอมแล้ว อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืนแล้ว
“ไม่ได้!กงการอะไรของแก? ที่นี่ไม่มีที่ให้แกพูด!”
เย่เหว่ยกวงและพวกสามสี่คนไม่รู้จักซ่านหงเลี่ยง พวกเขาที่กำลังโกรธอยู่จะแสดงสีหน้าที่ดีๆให้ได้ยังไง
“พ่อ เขาคือซ่านหงเลี่ยง!เป็นกัปตันของทีมสายฟ้าแห่งเหล่าเดอะคิงทั้งสาม!”
กลับว่าเป็นซ่านหงเลี่ยงที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันคัดเลือกทีมสายฟ้า รีบร้อนพูดเตือนข้างหูของเย่เหว่ยกวงด้วยน้ำเสียงเบาๆเลย
“กัปตันของทีมสายฟ้า?!”
พวกของเย่เหว่ยกวงสามสี่คนอดไม่ได้ที่จะพูดซ้ำอีกครั้งแล้ว สายตาของเย่เทียนที่มองออกไปเปลี่ยนระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
พวกเขารู้มาจากปากของเย่หย่งหง เย่เทียนเข้าไปอยู่ทีมสายฟ้าได้สำเร็จ นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เย่หย่งหงไปยังทีมมังกรฟ้า แต่ว่ายังไงพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่า ซ่านหงเลี่ยงจะให้ความสำคัญกับเย่เทียนสมาชิกคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในทีมเช่นนี้ ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่ามาเพื่อสนับสนุนนะ!
ในทางกลับกันคนอื่นๆในตระกูลเย่ สายตาที่มองไปยังเย่เทียนกลับว่าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมา
พวกเขากับเย่เหว่ยกวงสามคนพี่น้องแตกต่างกัน พวกเขาไม่ได้ขัดแย้งกับเย่เทียนอะไรมากมาย พวกเขาไม่ยินยอมให้เย่เทียนกลับมายังตระกูลเย่ เพียงแค่กังวลว่าเย่เทียนจะสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์โดยตรงของพวกเขาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นกลัวว่าเย่เทียนกลับมาทำเรื่องที่มีข้อเสียมากกว่าข้อดี
อย่างที่รู้ เย่เทียนเพิ่งจะมายังเมืองจินเท่าไหร่เอง?ก็ก่อเรื่องมากมายขนาดนี้ พวกเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะขับไล่
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า แม้ว่าเย่เทียนจะก่อเรื่อง แต่ก็มีความสามารถที่ไม่เลวเลยจริงๆ ไม่แน่ให้เขากลับมาตระกูลเย่ ยังสามารถช่วงชิงผลประโยชน์อันล้ำค่ามาให้ตระกูลเย่ได้
ถึงอย่างไร อิงจากที่เย่เทียนสามารถทำให้ซ่านหงเลี่ยงกัปตันของทีมสายฟ้าคนนี้ยืนอยู่ฝั่งตระกูลเย่ได้ นี่ก็เพียงพอที่ทำให้ตระกูลเย่ได้รับผลประโยชน์มากมายแล้ว!
“ทุกท่าน กรุณาอย่าได้เข้าใจผิด ฉันไม่ได้คิดอยากจะเข้ามาแทรกแซงเรื่องในตระกูลของพวกคุณ ที่ฉันมาที่นี่ เป็นเพราะว่าเบื้องบนสั่งให้ฉันมาทั้งสิ้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่