ฉึก!
รู้สึกถึงประตูห้องถูกเปิดออก กู้หยุนมองไปทันที รอจนเห็นหน้าของเย่เทียนชัดๆ ตาโตที่สว่างไสวคู่นั้นก็ปรากฏความเยือกเย็นออกมาทันที
“คุณเองหรอกเหรอ!”
กู้หยุนรีบลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ทันที ใบหน้าที่งดงามและละเอียดอ่อนจ้องมองเย่เทียนอย่างเยือกเย็น
ไม่ว่ายังไงกู้ยี่เจ๋อก็เป็นคนของตระกูลกู้ เป็นพี่ชายฝั่งพ่อของเธอ เย่เทียนดันเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของกู้ยี่เจ๋อ เธอจะไม่รู้สึกโมโหได้ยังไงกันล่ะ?!
“ฉันเอง!”
เย่เทียนตกตะลึงครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าอย่างยิ้มกริ่มทันที ไม่ได้สนใจกับสีหน้าทางท่าที่เย็นชาของกู้หยุนเลย
หลู่ซีซานกลับคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนจะรู้จักกับกู้หยุน พูดด้วยสีหน้าท่าทางอย่างแปลกประหลาดว่า : “น้องเสี่ยวหยุนคุณรู้จักเย่เทียนเหรอ?”
“รู้จัก?ไม่เพียงแค่รู้จักกันธรรมดาๆ!”
กู้หยุนยิ้มอย่างเยือกเย็น กลับว่าไม่ได้พูดถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับเย่เทียน
เย่เทียนเลิกคิ้วขึ้น กลับคิดไม่ถึงว่ากู้หยุนจะปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ แววตาสีดำเข้มคู่นั้นหรี่ลงแล้ว พูดอย่างยิ้มกริ่มว่า : “คนสวย ยังจำตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงตระกูลเซวได้ไหม ฉันตีน้องชายของเธอไม่ใช่เหรอ ?หลังจากเกิดเรื่องเพื่อนรักของคุณคนนี้ก็มาหาฉันแล้ว”
“เพียงแต่ว่า เธอไม่รู้จักฉัน เพราะงั้นฉันก็เลยหยอกล้อเธอหน่อย ”
ระหว่างคำพูด เย่เทียนก้าวเข้าไปนั่งลงในห้องVIPแล้ว บรรยายเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นอย่างง่ายๆรอบหนึ่งแล้ว
หลู่ซีซานถูกทำให้ขบขันทันที คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนจะมีด้านแบบนี้ด้วย เดิมทีอยากจะหัวเราะออกมา แต่อยู่ต่อหน้ากู้หยุน นั่นก็อาจจะทำร้ายจิตใจของกู้หยุนมากเกินไป ทำได้เพียงกลั้นไว้รีบพูดคำพูดดีๆให้เย่เทียน
“น้องเสี่ยวหยุน ฉันว่าเย่เทียนเขาไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ คุณอยากได้ถือสาเขาเลย”
“ไม่ได้ตั้งใจ?”
มุมปากของกู้หยุนเผยรอยยิ้มที่เยือกเย็น ถ้าหากเรื่องราวมันธรรมดาแบบนี้ก็ดีสิ
เย่เทียนกลับว่าไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงแค่ตอนที่กู้หยุนโกรธเพราะการตายของกู้ยี่เจ๋อ เขาก็กลอกตามองสองรอบ หันหน้ามาพูดกับหลู่ซีซานว่า : “คนสวย ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเพื่อนสนิทของคุณหน่อย ให้พวกเราสองคุยเป็นการส่วนตัวหน่อยได้ไหม?”
“คุยกันส่วนตัวเหรอ?”
หลู่ซีซานตกตะลึง เงยหน้ามองทียน แล้วก็มองไปยังกู้หยุนอีก หลังจากที่เห็นกู้หยุนพยักหน้าให้เธอเล็กน้อย เธอถึงได้ลุกขึ้นยืน พูดอย่างจนใจว่า : “งั้นก็ได้!พวกคุณสองคนคุยกันส่วนตัว ฉันไปสั่งอาหารสักหน่อย อีกเดี๋ยวทุกคนกินข้าวด้วยกันนะ! ”
พูดจบ หลู่ซีซานรีบเดินออกไปข้างนอกอย่างกระฉับกระเฉง
ปัง
รอจนหลู่ซีซานปิดประตูห้องแล้ว ภายในห้องก็เหลือเพียงแค่สองคน เย่เทียนพูดออกมาอย่างจนใจว่า : “ประธานกู้การตายของกู้ยี่เจ๋อไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลยแม้แต่น้อย”
รอสักครู่หนึ่ง เย่เทียนสีหน้าเคร่งขรึม พูดอย่างจริงจังว่า: “ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากฉันอยากจะฆ่าเขาจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทิ้งหลักฐานโง่ๆไว้แบบนี้”
“ฉันยอมรับว่าที่คุณพูดมาค่อนข้างมีเหตุผล แต่ว่า……”
ดวงตาที่งดงามของกู้หยุนสาดส่องความเยือกเย็นแวบหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านี่จะเป็นข้อบกพร่องที่คุณจงใจทิ้งไว้หรือเปล่าล่ะ?”
“ถ้าหากคุณคิดแบบนี้จริงๆ งั้นฉันก็คงไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ”
เย่เทียนยักไหล่อย่างอยากรู้มาก ถึงยังไงเขาก็ไม่สนใจว่ากู้หยุนจะคิดยังไงอยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่